E-DUANG : ข่ายงาน”ดีเอสไอ” ภายใน”วัดธรรมกาย”

ต้องยอมรับว่า ท่าทีจาก “บก.ตชด.ภ.1″ระยะหลังสะท้อนแนวทางในทาง “การเมือง”มากขึ้น

เห็นได้จากท่าทีต่อ 2 พระ

1 พระแสนพล เทพเทพา และ 1 คือ พระถวัลย์ศักดิ์ บุญศิริวัฒนกุล

เมื่อ 2 รูปนี้ออกจากวัดพระธรรมกายไป”รายงานตัว”

แทนที่จะรวบรัดสบัดพล แบบเข้มข้นด้วยการจับสึกและคุมขัง ตรงกันข้าม

แถลงอันมาจาก “ดีเอสไอ” คือ

“หลังรายงานตัวแล้วพนักงานสอบสวนสั่งให้เข้าไปในวัดเพื่อรอประสานงานและอำนวยความสะดวกในการตรวจค้น”

นี่เท่ากับดำเนินตามแผน “วางสาย” และ “ข่ายงาน”

ไม่จัดการด้วยหลักการทาง “ทหาร” อย่างเข้มข้น กระดิกกระเดี้ยไม่ได้

อย่างน้อย 2 รูปนี้ก็จะคอย “ประสาน”

อย่างน้อย 2 รูปนี้ก็จะคอย “อำนวยความสะดวก” ตามที่พนักงานสอบสวนมอบหมาย

เท่ากับ “สยบ” ทาง “ใจ”

 

หากติดตามบทบาทของ “ดีเอสไอ” ตังแต่เช้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เรื่อยมาจนถึงวันที่ 7 มีนาคม

ก็จะ “สัมผัส” ได้ใน “กระบวนท่า”

1 เป็นกระบวนท่าเข้มข้น คึกคักทางด้าน “การทหาร” ขณะ เดียวกัน 1 เป็นกระบวนท่าผ่อนปรน ทางด้าน “การเมือง”

การทหารเห็นชัดจากการส่ง”กำลัง” เข้าปิดล้อม

ไม่เพียงปิดล้อมอย่างเดียวหากแต่ยังรุกคืบเข้าไปทำลายอุปกรณ์อันอาจจะเป็นอุปสรรคขัดขวาง

เห็นได้จากการทุบทำลาย”กล้องวงจรปิด”

การเมืองเห็นได้ชัดจากการผ่อนปรนให้มีการบิณฑบาต บริเวณประตู 7 ตลอดจนประตู 5 และ 6

ทั้งยังยินยอมให้นำ”ภัตตาหาร” ส่งเข้าไปใน “วัด”

 

เห็นได้ชัดว่าท่าทีล้วนดำเนินไปใน 2 แนวอย่างประสานและสอดรับกัน

สะท้อนการวางแผนเอาไว้แล้ว

เชื่อได้ว่าท่าทีที่เข้มงวดและผ่อนปรนด้วยท่วงทำนองการเมือง สลับการทหาร น่าจะมี “พิมพ์เขียว”กำหนดเอาไว้แล้วครบครัน

และแสดง “รูปธรรม” ผ่านการหารือทั้งตอนเช้าและตอนบ่ายของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ณ ทำเนียบรัฐบาล

ใครมี “บทบาท” เด่นในเรื่องนี้เห็นๆกันอยู่

เรียกตามสำนวนของทหารก็คือ ตีให้ “น่วม” เรียกตามสำนวนของปัญญาชนบางท่านก็คือ รอคอยวาระแห่ง”มะม่วงที่สุกจนงอม”

หากเห็นว่า “งอม” เมื่อไรจึงจะดำเนินไปอย่างที่ “บก.ตชด.ภ.1 มอบหมายให้กับพระ 2 รูปเข้าไป

คือ ประสาน และอำนวยความสะดวกในการบุก