ปริศนาการลอบสังหาร “คิม จอง นัม” เสี้ยนหนามระบบการปกครองเกาหลีเหนือ?

การลอบสังหาร คิม จอง นัม พี่ชายต่างมารดาของ คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ด้วยวิธีการในแบบช่วงสงครามเย็น ที่สนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อาจบอกได้ว่าไม่น่าแปลกใจนัก หากดูจากประวัติอันโชกโชนในการส่ง “สายลับ” หรือ “มือสังหาร” ไปปฏิบัติการลักษณะนี้ในต่างประเทศของเกาหลีเหนือ

แต่มองอีกด้านหนึ่งอาจเรียกได้ว่า นี่เป็นกรณีล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่คาดเดาไม่ได้ของรัฐชาติคอมมิวนิสต์ที่โดดเดี่ยวตนเองแห่งนี้

เชื่อว่าสายลับหญิง 2 รายใช้พิษบางอย่างในการลงมือลอบสังหารครั้งนี้ โดยรายงานข่าวหลายชิ้นทั้งในสื่อมาเลเซียและเกาหลีใต้ระบุว่า คิม จอง นัม ถูกแทงด้วยเข็มอาบยาพิษ หรือไม่ก็ถูกสารเคมีบางอย่างฉีดเข้าที่หน้า

มีแม้กระทั่งรายงานข่าวชิ้นหนึ่งที่ระบุว่าอาจเป็นการใช้ผ้าชุบสารพิษบางอย่างป้ายเข้าที่หน้า

ทางการเกาหลีใต้ระบุว่า การลอบสังหารครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่เกาหลีเหนือเตรียมเฉลิมฉลองวันเกิดของ คิม จอง อิล อดีตผู้นำสูงสุด พ่อของจอง นัม และจอง อึน ในสัปดาห์เดียวกันนี้

แสดงให้เห็นถึง “ความโหดเหี้ยมอำมหิตไร้มนุษยธรรม” ของระบบการปกครองที่นำโดย คิม จอง อึน

ตํารวจมาเลเซียกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์เพื่อพยายามค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างการจู่โจมในช่วงเช้าวันเกิดเหตุ

ก่อนหน้านั้นสื่อเกาหลีใต้ระบุว่า มือสังหารหญิง 2 รายใช้เข็มอาบยาพิษปักเข้าที่คอของ คิม จอง นัม ก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่หนีไปจากที่เกิดเหตุ

หลังจากถูกมือสังหารเล่นงาน คิม จอง นัม ได้ขอความช่วยเหลือจากพนักงานต้อนรับที่อาคารผู้โดยสารขาออก และได้รับการนำตัวไปยังคลินิกในสนามบิน โดยเขามีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง รวมถึงมีอาการชักและหมดสติไป

เจ้าหน้าที่จึงนำตัวเขาใส่รถพยาบาลและส่งไปยังโรงพยาบาลปุตราจายา ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ร่างของ คิม จอง นัม ถูกนำไปชันสูตรพลิกศพโดยนักพยาธิวิทยาในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนที่โรงพยาบาลกัวลาลัมเปอร์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงในการรับช่วงต่อการปกครองเกาหลีเหนือ คิม จอง นัม เผชิญกับการร่วงหล่นอย่างรวดเร็ว และถูกบีบให้ต้องลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศตั้งแต่ก่อนหน้าที่ คิม จอง อิล พ่อของเขาจะถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี 2011

หลังจากนั้น เขาต้องคอยหลบซ่อนตัวจาก คิม จอง อึน น้องชายที่กลัวว่า จอง นัม อาจยังเป็นภัยคุกคาม

คิม จอง นัม เกิดที่กรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ ในเดือนพฤษภาคม ปี 1971 เป็นลูกชายคนโตของ คิม จอง อิล ที่ต่อมาได้เป็นผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 1997 จนถึงเดือนธันวาคม 2011

ในตอนแรก จอง อิล พยายามที่จะปกปิดการมีอยู่ของจอง นัม จาก คิม อิล ซุง พ่อของตนเอง ที่ไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของจอง อิล กับแม่ของจอง นัม ที่เป็นนักแสดงคนหนึ่ง

ภาพของคิม จอง อิล และ คิม จอง นัม วัยเด็ก ถ่ายเมื่อปี 1981  / AFP PHOTO / Handout

จอง นัม เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย คิม อิล ซุง และรับราชการกับกองทัพประชาชนเกาหลี จนกระทั่งเมื่อปี 1998 เขาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีความมั่นคงสาธารณะ ที่ดูเหมือนว่าเป็นการเตรียมพร้อมให้เขารับสืบทอดตำแหน่งจาก คิม อิล ซุง ผู้เป็นพ่อ

แต่เพียงแค่ 4 เดือนหลังจากนั้น จอง นัม ถูกจับกุมตัวที่สนามบินนานาชาตินาริตะ ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับผู้หญิง 2 คน และเด็กชายอายุ 4 ขวบ 1 ราย ที่ระบุว่าเป็นลูกชายของเขา ในข้อหาใช้พาสปอร์ตปลอมของสาธารณรัฐโดมินิกัน และใช้ชื่อปลอมเป็นภาษาจีนกลางว่า “ผาง เซี่ยง” ที่แปลว่า “หมีอ้วน”

ในระหว่างช่วงเวลาที่ถูกควบคุมตัวไว้เป็นเวลา 3 วัน เขาบอกกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นว่า เขาต้องการไปเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์

จอง นัม ถูกจับกุมตัวที่สนามบินนานาชาตินาริตะ พร้อมกับผู้หญิง 2 คน และเด็กชายอายุ 4 ขวบ 1 ราย  / AFP PHOTO / TOSHIFUMI KITAMURA
จอง นัม ถูกจับกุมตัวที่สนามบินนานาชาตินาริตะ / AFP PHOTO / TOSHIFUMI KITAMURA

คิม จอง อิล ที่อับอายมากในตอนนั้นถึงกับยกเลิกกำหนดการเดินทางเยือนจีน และจอง นัม ต้องลี้ภัยโดยหนีไปอยู่ที่มาเก๊า ที่รายงานข่าวระบุว่า เขาใช้พาสปอร์ตปลอมของโปรตุเกสในการเดินทาง

ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อครั้งหนึ่ง จอง นัม บอกว่า เขาไม่มีแผนที่จะแปรพักตร์ และ “ไม่สนใจ” ที่จะครองอำนาจในเกาหลีเหนือแต่อย่างใด

ตำแหน่งทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงในการรับช่วงการปกครองเกาหลีเหนือ เปลี่ยนมาเป็นของ คิม จอง อึน น้องชายต่างมารดา ที่ขึ้นรับตำแหน่งในทันทีหลังจากที่ คิม จอง อิล ผู้พ่อเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันเมื่อเดือนธันวาคม 2011

และแม้ จอง นัม จะเปิดเผยว่า ไม่มีความสนใจที่จะครองอำนาจในเกาหลีเหนือ แต่ในหนังสือชีวประวัติของเขาชื่อเรื่องว่า “มาย ฟาเธอร์ คิม จอง อิล แอนด์ มี” (พ่อของผม คิม จอง อิล และผม) ที่เขียนโดย โยจิ โกมิ ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น เขาบอกว่า เขาคาดว่าระบบการปกครองของ คิม จอง อึน จะล่มสลายในเวลาไม่นานนักเพราะเขายังเด็กเกินไปและไร้ประสบการณ์

นอกจากนี้ เขายังระบุด้วยว่า เขาคัดค้านการสืบทอดอำนาจทางสายเลือดของเกาหลีเหนือ

นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ คิม จอง นัม ถูกมองว่า ยังคงเป็นเสี้ยนหนามทิ่มแทงระบบการปกครองของเกาหลีเหนือ จนนำมาสู่การถูกลอบสังหารในที่สุด

Kim Jong-Nam dressed in an army uniform poses with his maternal grandmother in January 1975 in an unknown place. Kim Jong-Nam is believed to be the eldest son of reclusive North Jorean leader Kim Jong-Il. AFP PHOTO / AFP PHOTO