ตัวเลขที่คุณต้องอึ้ง! ทายสิว่า “วันแข่งขันซูเปอร์ โบว์ล” คนมะกันบริโภคอะไรมากสุด

พิศณุ นิลกลัด

ศึกอเมริกันฟุตบอล ซูเปอร์ โบว์ล (Super Bowl) ครั้งที่ 51 มีขึ้นในคืนวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ ตามเวลาในอเมริกา

เริ่มแข่งตรงกับเวลา 6 โมงครึ่งเช้าของวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ ในเมืองไทย

ปีนี้นิวอิงแลนด์ เพทริออตส์ (New England Patriots) สู้กับ แอตแลนต้า ฟาลค่อนส์ (Atlanta Falcons) ที่สนาม NRG Stadium ของทีมฮิวส์ตัน เท็กซันส์ (Houston Texans) รัฐเท็กซัส

การแสดงช่วงพักครึ่งการแข่งขัน หรือ Halftime Show จะมีการแสดงของ เลดี้ กาก้า ซึ่งเธอรับประกันว่าจะเป็นโชว์ที่สนุกสุดเหวี่ยง ภายใต้สโลแกน “SUPER BOWL goes GAGA!”

ถามว่า เลดี้ กาก้า ได้ค่าตัวเท่าไหร่ในการแสดง

โดยปกติอัตราค่าตัวในการแสดง 1 คอนเสิร์ตของเธอ อยู่ที่ 1.9 ล้านดอลลาร์ หรือ 67 ล้านบาท

คำตอบคือ เลดี้ กาก้า แสดง Halftime Show ฟรี ไม่ได้ค่าตัว แต่ทาง NFL รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเตรียมการแสง สี เสียง

ถามต่อว่าทำไมทาง NFL ถึงไม่ให้ค่าตัว

และทำไม เลดี้ กาก้า ถึงยอมแสดงฟรี

คำตอบก็คือ ทาง NFL เห็นว่า การได้รับเชิญให้มาแสดงช่วงพักครึ่งในการแข่งขันซูเปอร์ โบว์ล ถือเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับศิลปิน เพราะมีคนในอเมริกาเป็นร้อยล้าน และคนทั่วโลกอีกมหาศาลชมการแสดง ถือเป็นสุดยอดการโปรโมตให้กับศิลปิน

สมัยก่อนมีข่าวลือว่า ศิลปินที่ได้รับเลือกให้แสดงช่วงพักครึ่งต้องจ่ายเงินให้กับทาง NFL ด้วยซ้ำไป

คาดว่าผู้ชมซูเปอร์ โบว์ล ปีนี้ เฉพาะในอเมริกา จะมีกว่า 100 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนเหมือนกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา หรือเกือบ 1 ใน 3 ของประชากรอเมริกาที่มี 320 ล้านคน โดยปีที่แล้วมีผู้ชม 114 ล้านคน

ค่าโฆษณาช่วงการแข่งขันซูเปอร์ โบว์ล ราคา 5 ล้านดอลลาร์ หรือ 177 ล้านบาท ต่อ 30 วินาที ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นทุกปีประมาณ 10% กว่าๆ

มีตัวเลขการใช้เงินของคนอเมริกันในการจัดปาร์ตี้ชมซูเปอร์ โบว์ลที่เก็บรวบรวมโดย National Retail Federation หรือสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติรายงานว่า ในการแข่งขันซูเปอร์ โบว์ล ปีที่แล้ว คนอเมริกันใช้เงินในการจัดปาร์ตี้ชมซูเปอร์ โบว์ล มหาศาลถึง 15,500 ล้านดอลลาร์ หรือ 550,000 ล้านบาท โดยเงินส่วนใหญ่ใช้ไปกับค่าอาหาร เครื่องดื่ม ของตกแต่งปาร์ตี้ และสินค้าโลโก้ของสองทีมที่เข้าชิงชนะเลิศ

คนอเมริกันประมาณ 35 ล้านคน เป็นเจ้าภาพจัดปาร์ตี้ และคนจำนวน 60 ล้านคน ไปร่วมงานปาร์ตี้

เฉพาะอาหารอย่างเดียว มีการใช้เงินกันถึง 50 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,770 ล้านบาท อาหารยอดนิยมก็เช่น พิซซ่า, ปีกไก่ทอด, ซี่โครงอบ และกัวคาโมเล่จิ้มทานกับนาโช่

กัวคาโมเล่ หรืออะโวคาโด้บด ถือเป็นของทานเล่นที่ขาดไม่ได้เลยเวลาดูซูเปอร์ โบว์ล

ประมาณว่า มีการทานอะโวคาโด้ถึง 55 ล้านกิโลกรัม หรืออะโวคาโด้ 240 ล้านลูก ซึ่งหากนำอะโวคาโด้จำนวน 55 ล้านกิโลกรัมไปถมลงสนามที่แข่งขันเต็มสนามจะมีความสูงถึง 14 เมตร

ส่วนพิซซ่า ฮัท ก็มียอดขายดีสุดขีด โดยบอกว่า จำนวนพิซซ่าที่ขายได้ในวันแข่งซูเปอร์ โบว์ลนั้นหากนำมาวางเรียงกัน สามารถครอบคลุมสนามฟุตมบอล 50 สนาม

โดยเฉลี่ยพิซซ่า ฮัท ขายพิซซ่าได้ถึง 2 ล้านถาดในวันที่มีการแข่งขันซูเปอร์ โบว์ล

ซูเปอร์ โบว์ล เป็นวันที่คนอเมริกันรับประทานปีกไก่ทอดมากที่สุด ในการแข่งขันซูเปอร์ โบว์ล แต่ละครั้ง คนอเมริกันทานปีกไก่ทอดประมาณ 1,250 ล้านปีก ซึ่งหากนำปีกไก่ทั้งหมดมาเรียงต่อกัน จะมีความยาวพันโลกได้ 2 รอบ หรือได้ระยะทางประมาณ 1 ใน 4 ของโลกไปยังดวงจันทร์

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ คนอเมริกันนิยมทานเฉพาะปีกบนซึ่งมีเนื้อเยอะ ส่วนปีกล่างที่เนื้อน้อยนั้น คนอเมริกันไม่ชอบ จึงมักส่งปีกล่างมาขายตามประเทศในเอเชีย

ส่วนเบียร์นั้น สัปดาห์ที่มีการแข่งขันซูเปอร์ โบว์ล เบียร์กระป๋องหรือขวดที่ขายเป็นลัง ลังละ 24 กระป๋องหรือขวดนั้นจะขายได้ถึง 52 ล้านลัง หรือ 1,248 ล้านขวดหรือกระป๋อง

นับเป็นเทศกาลที่มีคนดื่มเบียร์มากเป็นอันดับ 8 ของปี

โดยเฉลี่ย ปาร์ตี้ซูเปอร์ โบว์ล จะมีคนร่วม 17-18 คน ช่วงเวลาที่ชมการแข่งขัน 4 ชั่วโมง แต่ละคนจะทานอาหารมากถึง 1,200 แคลอรี่ ซึ่งเท่ากับทานปกติ 1 วัน

รวมแล้วในปาร์ตี้ซูเปอร์ โบว์ลจะทานอาหารน้ำหนัก 13 ล้านกิโลกรัม มากกว่าที่ทานในวันปกติถึง 2 เท่า