เอ็กซ์คลูซีฟ บันทึกความทรงจำ ‘หมอฟัน’ ในหลวงรัชกาลที่9…แล้วคุณจะรักพระองค์มากยิ่งขึ้น

AFP PHOTO / SAEED KHAN

โดย รองศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง คุณเมตตจิตต์ นวจินดา

ความใฝ่ฝันของเด็กตัวน้อยๆ

ในสมัยก่อนไม่มีข่าว “ราชสำนัก” เหมือนในปัจจุบัน แต่จะมีภาพยนตร์ส่วนพระองค์ ฉายที่โรงภาพยนตร์เฉลิมกรุง และในงานกาชาดจะมีพระบรมฉายาลักษณ์และพระฉายาลักษณ์ของทุกพระองค์วางจำหน่ายทุกปีก็จะไปหาซื้อมาเก็บไว้

ทำให้เด็กน้อยคนหนึ่งใฝ่ฝันที่จะเป็นแมลงบินไปชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด

แล้วความฝันก็กลายเป็นจริง

เมื่อได้เข้าถวายตัวเป็นทันตแพทย์ประจำพระองค์เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2531


ทรงให้กำลังใจ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระองค์ท่านไม่เคยตำหนิว่าทำถวายไม่ดี ทำให้ทรงปวดหลังการรักษา

แต่พระองค์ท่านทรงมีรับสั่งว่า “พระทนต์ของพระองค์ไม่ดี”

พระองค์ท่านจะมีอะไรที่คนทั่วไปไม่มี จะมีอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ

ซึ่งเป็นกำลังใจแก่ผู้ถวายการรักษาอย่างยิ่ง

เกษียณอายุ

เมื่อครั้งที่เกษียณอายุราชการ ทางคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดงานให้

ข้าพเจ้าได้ทำหนังสือถึงคณาจารย์ว่าในงานไม่ขอรับสิ่งของ แต่ขอให้มอบเงินเพื่อจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมทบทุนเข้ามูลนิธิพระดาบส ซึ่งได้รับมาและสมทบจนครบหนึ่งแสนบาท ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

พระองค์ท่านตรัสถามว่า “เนื่องจากอะไร”

ข้าพเจ้าทูลตอบว่า ในวาระที่ข้าพเจ้าเกษียณอายุราชการ

พระองค์ท่านตรัสว่า “อะไร นึกว่า 40 กว่าๆ”

ข้าพเจ้าได้ฟังแล้วดีใจมาก

ทุกครั้งที่ใครบอกว่าดูไม่น่าจะอายุมาก

ข้าพเจ้าก็จะบอกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ยังทรงรับสั่งเลยว่า 40 กว่าเอง

แต่การถวายเงินเข้ามูลนิธิพระดาบสในครั้งนั้นเป็นความภูมิใจที่ได้ทำเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินกับพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

ทรงงานตลอดเวลาแม้ขณะกำลังทำพระทนต์

มีอยู่ครั้งหนึ่งได้เข้าถวายการรักษาเอ็นโดดอนติกส์

เมื่อทำถวายเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีรับสั่งว่า “ขณะที่ให้ทำถวายพระองค์คิดถึงทางน้ำไหลจากเหนือลงมาถึงนครสวรรค์พอดี”

และได้ทรงอธิบายถึงการแก้ไขเรื่องน้ำโดยใช้แก้มลิง

น้ำท่วม

เมื่อครั้งที่น้ำท่วมใหญ่

หลังการถวายการรักษาเสร็จ พระองค์ท่านทรงมีรับสั่งถึงการแก้ไขเพื่อช่วยผู้ถูกน้ำท่วม

ข้าพเจ้าได้ทูลขอความช่วยเหลือบ้าง

พระองค์ท่านตรัสถามว่า “บ้านอยู่ที่ไหน”

ข้าพเจ้าตอบว่า “บ้านของข้าพระพุทธเจ้าอยู่ปากเกร็ด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา”

พระองค์ท่านตรัสว่า “อยู่ริมแม่น้ำช่วยอะไรไม่ได้หรอก”

 

ทรงกริ้ว

เป็นครั้งแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงกริ้ว

ปกติคณะทันตแพทย์ที่ถวายการรักษาจะเป็นที่อิจฉาของคณะแพทย์ประจำพระองค์เพราะไม่เคยทรงกริ้ว

ทูลขออะไรก็ได้เสมอ

แต่ครั้งนี้ทรงกริ้วแบบตั้งตัวไม่ติด

เพราะนึกไม่ถึงว่าจะเกิดในวันที่ต้องถวาย retreat พระทนต์ 31 ซึ่งทรงได้รับถวายการรักษามาจาก Switzerland ขณะที่ยังทรงพระเยาว์

ที่ต้องถวาย retreat เพราะทรงมีหนองออกมา

ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่แพทย์ถวาย Medical CT ไม่ทราบมีใครทูลพระองค์ท่านอย่างไร พอเสด็จมาเพื่อทำพระทนต์ พระองค์ท่านตรัสถามว่า จาก CT บอกได้ไหมว่าทำไมพระทนต์ 31 จึงเป็นอย่างนี้

ข้าพเจ้าทูลตอบว่า CT บอกไม่ได้ บอกได้แต่เพียงขนาดของรอยโรคเท่านั้น

พระองค์ท่านทรงกริ้วและทรงมีรับสั่งว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ถอนฟันทิ้งไป”

ทุกคนตกใจมากเพราะพระองค์ท่านไม่เคยเป็นแบบนี้ จะทรงมีเหตุผลเสมอ

ทุกคนนิ่งอยู่นาน ในที่สุดข้าพเจ้าทูลพระองค์ท่านว่า

“ก็ไหนพระองค์ทรงเคยรับสั่งว่า ถ้าไม่มีฟันกินอะไรก็ไม่อร่อย แล้วทำไมพระองค์ท่านจะให้ถอนพระทนต์เพคะ”

 

คุณมะลิ

คุณมะลิเป็นสุนัข Mid road เข้ามาอยู่ในวังสวนจิตรลดา และเป็นสุนัขที่ให้น้ำนมและเลี้ยงคุณทองแดง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเห็นว่าคุณมะลิฟันเขี้ยวหน้าบนซ้ายหัก

พระองค์ท่านเกรงว่าจะทำให้คุณมะลิขบเคี้ยวอาหารไม่ได้

พระองค์ท่านจึงให้ไปดูและรักษาฟันคุณมะลิ

หมอคนเลยต้องไปรักษาสุนัข แต่ก็ทำอย่างเรียบร้อย ทรงพอพระทัยมาก


พระที่นั่งวิมานเมฆ

ในงานพระราชทานเลี้ยงที่พระที่นั่งวิมานเมฆ

ขณะที่ข้าพเจ้ายืนรอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เมื่อพระองค์ท่านเสด็จมาถึงข้าพเจ้า พระองค์ท่านตรัส “อ้าปาก อ้าปาก” พร้อมทั้งทรงอ้าพระโอษฐ์

เพราะเวลาที่ทำถวาย ข้าพเจ้าก็จะพูดว่า “อ้าพระโอษฐ์เพคะ อ้าพระโอษฐ์เพคะ”

ฮ่องเต้

มีอยู่ครั้งหนึ่งระหว่างรอถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่พระตำหนักจิตรลดา เมื่อเตรียมเครื่องมือที่จะใช้เรียบร้อยแล้วก็ไปนั่งในห้องอาหาร ดูทีวี พูดคุยกัน

วันนั้นคุณพยาบาลวิ่งมาบอกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จออกมาห้องทำพระทนต์แล้ว

พวกเราตกใจมากวิ่งมาที่ห้องทำพระทนต์ก็พบว่า พระองค์ท่านประทับอยู่บนพระเก้าอี้ทำพระทนต์แล้ว

ท่านผู้หญิงเพ็ชรฯ ทูลว่าปกติคุณพยาบาลจะไปแจ้งล่วงหน้า แต่วันนี้ไม่มีใครแจ้ง

พระองค์ท่านตรัสว่าวันหลังจะให้ไปแจ้งว่า “ฮ่องเต้เสด็จแล้ว”

พระองค์ท่านทรงมีพระอารมณ์ขัน

ติดฝนตก

ขณะประทับที่พระราชวังไกลกังวล วันนั้นท่านผู้หญิงเพ็ชรฯ และข้าพเจ้าเข้าไปนั่งที่หน้าพระแท่นเพื่อถวายตรวจพระทนต์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 แต่พระองค์ท่านยังไม่ให้ตรวจ คุณพยาบาลก็ตั้งใจจะช่วยทำพระทนต์ เลยทูลว่า “ให้ตรวจเถอะเพคะ เพราะฝนจะตกแล้วคุณหมอจะได้ไม่ติดฝน”

พระองค์ท่านจึงตรัสว่า

“ก็ให้กลับไปซิ เดี๋ยวจะติดฝน”