คุยกันแบบ “แคร์ เช่น มิตร” กับ “กาละแมร์” ผู้มีเรื่องสนุกให้ทำ มากกว่าการหาสามี

“เราเกิดมาเพื่อพูดและเกิดมาเพื่อเขียน”

ด้วยเหตุผลที่ว่า ณ วันนี้พิธีกรคนดัง กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ จึงมีผลงานพ็อกเก็ตบุ๊กมาแล้ว 24 เล่ม โดยเล่มล่าสุดที่กำลังวางแผงคือ “แคร์ เช่น มิตร ” ที่คล้ายๆ กับจะผวนมาจากเล่มก่อนหน้า “คิด เช่น แมร์”

“เล่มที่แล้วเป็นการออกกำลังกาย แล้วก็อาหารสุขภาพ”

“แต่เล่มนี้เราอยากเขียนให้เพื่อน บอกอะไรดีๆ ให้มิตร ด้วยความรักและแคร์ อยากให้แกมีชีวิตที่ดี”

บอกด้วยว่า สำหรับเธอแล้ว งานพูดเป็นงานที่มีเสน่ห์ ดังนั้น เวลาเล่าอะไรๆ แม้บางครั้งจะเหนื่อย หากก็มีความสุข

ส่วน “เวลาที่เขียน มันได้อยู่กับตัวเอง เกิดสมาธิ แล้วได้รวบรวมความคิดจนตกตะกอน”

“บางครั้งมีความไม่สบายใจ แต่พอเขียนปุ๊บ ทุกอย่างเหมือนปลดล็อก เกิดคำตอบขึ้นมา”

บอกอีกว่าที่อยู่ๆ อยากชวนออกกำลังใจนั้น นั่นเป็นเพราะรู้ดี ว่าทุกชีวิตย่อมมีปัญหา ซึ่งรู้สึกว่าเวลาเจอ “ต้องรับมือให้ได้”

เพราะ “ยังไงเราก็ต้องอยู่ต่อไป แต่จะอยู่ยังไงให้มีความสุข ให้เบิกบาน”

“แคร์ o เช่น o มิตร” จึงพยายามบอกเรื่องการมี “ภูมิต้านทาน” ส่วนจะมีได้ด้วยวิธีไหน ไปดูในหนังสือเอาเถิด หากสำหรับเธอนั้น กาละแมร์ว่า วิธีที่ใช้ประจำยามมีปัญหา คือ “คุยกับตัวเอง”

“เราชอบเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง แล้วพายเรืออยู่ในอ่างน้ำเน่า วน ชอบคิดว่าทำไมต้องเป็นฉัน ทำไมต้องเกิดเรื่องนี้กับเรา แต่ถ้าเราแยกตัวเองออกมาอีกตัวหนึ่ง แล้วมองเข้าไป เหมือนเป็นเพื่อนมองเข้าไปในชีวิต มองในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้มอง หรือไม่ได้รู้จัก คือทุกคนก็มีปัญหา แล้วทุกคนก็ดูแต่ปัญหา แต่จริงๆ แล้วเรายังมีแง่มุมอื่นที่มันดี แต่เรามองไม่เห็น”

“ก็ถอดร่างแล้วมาคุยกับตัวเองว่า มึงเป็นอะไร ทุกข์อะไร กังวลอะไร คุยให้จบ ว่าจะผ่านไปอย่างไร ถามตอบด้วยตัวเอง ให้เวลาตัวเองคิดทบทวนบ้าง เพราะบางทีเวลามีปัญหา เราชอบหนี แล้วไปสนใจเรื่องอื่นทดแทน เช่น ดูในเฟซบุ๊กว่าใครทำอะไร คนนี้มีกระเป๋าใหม่ คนนี้ไปเที่ยว กลายเป็นไม่ได้สนใจแก้ปัญหาของตัว มัวแต่หลีกหนี เพราะการคิดเรื่องปัญหาของตัวเอง หรือจะแก้ไข บางทีมันเจ็บปวด มันยาก มันเหนื่อย”

“เพราะฉะนั้น จุดที่เรานำเสนอคือ เมื่อเกิดปัญหาก็ต้องคุยกับตัวเองให้รู้เรื่อง ว่าจะแก้ยังไง แล้วปล่อยมันไหม แต่ว่าครั้งหน้าก็จะทำให้ดีขึ้น”

อีกสิ่งที่มีอยู่ในเล่ม คือเรื่องเล่าเกี่ยวกับการเดินทาง กาละแมร์บอก

“คนจะชอบเชียร์ว่าทำรายการท่องเที่ยวสิ” กาละแมร์ที่ออกเที่ยวบ่อยมากเล่าถึงสิ่งที่ได้ยินอยู่บ่อยๆ หากก็ไม่เคยตอบรับ

ด้วยรู้ตัวดีว่า ถ้าเมื่อไหร่เป็น “งาน” เธอจะทำแบบเต็มที่ เพื่อให้ออกมาดีที่สุด ดังนั้น การเดินทางที่เคยสนุกก็คงจะลดความสุขสันต์

“เพราะในการเดินทาง เราจะอยู่กับตัวเอง กับเพื่อนไม่กี่คน เพื่อเก็บเกี่ยวบรรยากาศรอบตัว ใช้เวลาเท่าที่อยากใช้”

ดังนั้น ถ้าเดินทางด้วย ทำงานด้วย ช่วงเวลาที่เคยชิลล์ก็คงต้องแบ่งไปคิด ว่านี่จะต้องเสียค่าโปรดักชั่นเท่าไหร่ อะไรยังไง

“เราเลยหวงแหนการเดินทางไว้ ว่าเป็นอย่างเดียวที่ขอให้ไม่เกี่ยวกับงาน”

แต่ถ้ามีอะไรอยากเล่าในสิ่งที่พบเห็น ค่อยเอามาเล่าภายหลัง ดังที่ได้เล่าไว้ในเล่มนี้ เป็นต้น

ในส่วนเรื่องความรัก ที่ไม่มีปรากฏอยู่ กาละแมร์ในวัย 41 ก็ว่าเป็นเพราะเมื่อชีวิตเดินทางมาถึงตรงนี้แล้ว ก็มีเรื่องสนุกๆ ให้ทำ มากกว่าการหาสามี

อย่างไรก็ดี ต้องอธิบายให้เข้าใจว่า “ไม่ใช่จะแอนตี้ หรือจะไม่มี มาแล้วดี โอเคเอา ถ้ามาแล้วทำให้เหนื่อย ก็ไม่”

เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นสู้เอาเวลาไปเที่ยว หรือไปปฏิบัติธรรม ยังจะดีเสียกว่า

“แต่ไม่หมดศรัทธาเรื่องความรักหรอก” บอกอีก

“เพียงแต่ยังไม่เจอ”

“เมื่อก่อนอะไรก็ได้ คุยถูกใจหน่อยก็คบแล้ว โดยไม่ได้ใช้สติไตร่ตรอง ใช้อารมณ์ความรู้สึกมากเกินไป เพราะฉะนั้นก็เลยยังไม่เจอคนที่ใช่”

ไม่เจอ “ผู้ชายหน้าตาพอไหว เป็นคนดีมีศีล 5 มีฐานะ” ตามประสงค์

แต่ไม่เป็นไร

“เพราะในวัย 40 ทำอะไรเยอะมาก ได้เล่นกระดานโต้คลื่นครั้งแรก วิ่งครั้งแรก ปฏิบัติธรรมครั้งแรก”

เป็นบรรดาครั้งแรกที่ตั้งใจทำ “เพื่อให้หัวใจพองฟู สมองได้ใช้ ตื่นเต้น”

อีกทั้ง “พอทำแล้วรู้สึกนับถือตัวเอง ชอบตัวเองจัง”

กาละแมร์ยังทิ้งท้ายด้วยว่าต่างๆ นานาที่เธอได้ถ่ายทอดไว้ใน “แคร์ o เช่น o มิตร” ก็เป็นการทำด้วยความคิดที่ว่า “หนังสือเล่มนี้ทำให้ทุกคนอ่านแล้วรักตัวเองจังเลย ให้มีกำลังใจ ว่าตื่นมาแล้วจะทำอะไรเพื่อเป็นประโยชน์กับตัวเองและผู้อื่น”

เหมือนอย่างที่เธอเป็นอยู่