Hanasaki Mai Speaks Out : อยากตะโกนดังๆ

มาดามหลูหลี[email protected]

Hanasaki Mai Speaks Out หรือ “Hnasaki Mai ga Damatte Inai” ซีรีส์ญี่ปุ่นเมื่อปี 2014 เล่าเรื่องคนทำงานธนาคาร ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเราจะใช้บริการธนาคารผ่านแอพพลิเคชั่นแล้ว แต่ในบางกรณีก็ยังต้องติดต่อกับพนักงานธนาคารที่เป็นคนตัวเป็นๆ

ซีรีส์สร้างจากนิยายของ Jun Ikeido เรื่อง “Fushoji” พิมพ์เมื่อปี 2004 และเรื่อง “Ginko Soma Takumei” พิมพ์เมื่อปี 2002 ซีรีส์ได้รับความนิยมมากมีเรตติ้งสูงถึง 16% จึงมีถึง 2 ซีซั่น และได้นักแสดงคนเก่ง/แอน วาตานาเบะ ลูกสาวเคน วาตานาเบะ นักแสดงดังระดับฮอลลีวู้ด สองพ่อลูกยังมีรายการทำอาหารร่วมกันผ่านยูทูบด้วย (anne TKOYO: https://www.youtube.com/watch?v=z0QDPEvfSsk)

แอนรับบทฮานาซากิ ไม พนักงานรับฝาก/ถอนอยู่เคาน์เตอร์ของธนาคารโตเกียว ไดอิจิ สาขานากาโนะ เธอรักงานที่ทำมาก และรู้สึกสนุกกับงานฝาก/ถอน เป็นพนักงานตัวอย่าง

ครั้นสิ้นปีฮานาซากิต้องย้ายไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ พร้อมกับเคน โซมะ (ทากายะ คามิคาวะ) หัวหน้าแผนกการเงินที่สาขาเดียวกัน

ซึ่งต่างคิดไม่ถึงว่าจะต้องมาทำงานร่วมกันที่แผนกตรวจสอบสาขา

ฮานาซากิเป็นคนตรงไปตรงมา กล้าคิดกล้าพูดและกล้าออกความเห็น คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น โซมะรู้จักนิสัยลูกน้องดี จึงสั่งว่าให้สูดลมหายใจลึกๆ แล้วกลืนคำพูดนั้นลงไป และยิ้มเข้าไว้ อย่าหัวร้อนง่าย!

แต่ฮานาซากิไม่เคยเก็บปากเก็บคำได้เลย เพราะเธอทนไม่ได้กับวิธีการอันไม่ถูกต้อง การเอารัดเอาเปรียบและความไม่รับผิดชอบของผู้กระทำผิด

งานตรวจสอบสาขา ไม่ใช่แค่หลับหูหลับตาปล่อยผ่านเรื่องต่างๆ เพราะเมื่อมีการร้องเรียน หรือมีความผิดพลาดเกิดขึ้น นั่นย่อมหมายความว่า มีทั้งเรื่องเงินผลประโยชน์กับชื่อเสียงของธนาคารเกี่ยวข้องอยู่ด้วย ทั้งเป็นเรื่องที่อ่อนไหวต่อภาพพจน์ของธนาคารอีกด้วย

บางวันแผนกตรวจสอบไม่มีงาน จนฮานาซากิบ่นเบื่อ หากหัวหน้าโซมะบอกว่า การไม่มีงานถือเป็นเรื่องดี แสดงว่าไม่มีสาขาไหนทำงานผิดพลาด หรือมีผู้ร้องเรียน

ซีรีส์เผยให้เห็นชีวิตการทำงานของพนักงานธนาคาร ซึ่งคนญี่ปุ่นมีความมุ่งมั่นเกินร้อยอยู่แล้ว แต่สภาวะการทำงานที่ถูกกดดัน อาจทำให้ทดท้อ ไหนจะต้องรับมือกับงานหนักและลูกค้า ยังต้องอดทนกับการถูกหัวหน้างาน หรือผู้จัดการสาขาผู้บ้าอำนาจด่าทอทุกวัน กำลังใจที่มีเริ่มลดน้อยลงทุกวัน ตื่นขึ้นมาจึงไม่อยากมาทำงาน

ผู้จัดการบางสาขาดูถูกพนักงานผู้หญิง จึงกดขี่ไม่ให้เติบโต ทั้งๆ ที่มีความสามารถ จะก้มหัวให้เฉพาะคนที่มีอำนาจกว่า แต่กดหัวคนที่ด้อยกว่าโดยเฉพาะผู้หญิง เหมือนคนสองบุคลิกที่ดูดีแค่ภาพภายนอก หากตัวตนจริงๆ เป็นคนหยาบคายชอบตะโกนด่า

ที่ทำงานซึ่งควรจะเป็นบ้านหลังที่สอง กลับกลายเป็นนรกอีกแห่ง!!!

ส่วนลูกค้าธุรกิจ ซึ่งกู้เงินธนาคารเพื่อขยายธุรกิจหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน นายธนาคารบางคนผู้ทำตนเสมือนเป็นเจ้าของเงินเสียเอง คิดว่าการอนุมัติเงินกู้เป็นอำนาจอย่างหนึ่ง ธุรกิจของลูกค้าจะเป็นอย่างไรก็ช่าง

หากผลกระทบนั้นเป็นวงกว้าง เสมือนวงน้ำกระเพื่อมไปเรื่อยๆ เพราะเมื่อธุรกิจเสียหายถึงขั้นล้มละลาย บริษัทต้องเลิกจ้างคนทำงาน พอคนตกงานย่อมมีผลกับครอบครัว ทั้งลูกที่กำลังเรียนไม่มีค่าเทอม ไม่มีเงินเลี้ยงดูครอบครัวหรือพ่อแม่ มีผลกระทบมากมาย

หัวหน้าโซมะ กับฮานาซากิต้องหาหลักฐานเอกสารต่างๆ มายืนยันถึงข้อบกพร่องหรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้น อันส่งผลเสียต่อธนาคารและส่วนรวม

แต่ผู้จัดการหัวดื้อหัวร้อนหลายคนยังไม่ยอมรับ จนฮานาซากิทนไม่ได้ ต้องแฉ “ด้วยความเคารพ” พูดสิ่งที่เป็นความจริงซึ่งไม่มีใครกล้าพูด ทั้งเวลาจะพูดมักถูกหัวหน้าโซมะเตะขา ไม่ให้พูด

แต่ฮานาซากิ ไม ทนไม่ได้ ต้องขอแฉขอพูด เพราะมันอัดอั้น เหมือนนักกีฬามาราธอนวิ่งมาเหนื่อยๆ ได้ดื่มน้ำแก้กระหายจนสดชื่น การได้พูดออกมาของไม มันคือความรู้สึกนี้!

Hanasaki Mai ซีรีส์ปี 2014 ซึ่งยังไม่มีแอพพลิเคชั่นธนาคารบนมือถือ ธุรกรรมทุกสิ่งอย่างจึงต้องไปที่ธนาคาร หากเรื่องราวยังคงทันสมัยในยุคนี้ และมีความเป็นไปได้ แม้เวลาจะเปลี่ยนไป แต่พฤติกรรมของคนยังเหมือนเดิม

และที่สำนักงานใหญ่ ผู้บริหารที่เหมือนไม่ค่อยถูกชะตา แต่กลับกล้าตัดสินใจสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และคนที่เลือกโซมะกับไมมาทำงานตรวจสอบสาขา อาจเป็นผู้บริหารตัวจริงผู้มองการณ์ไกล

นักแสดงแอน วาตานาเบะ และทากายะ คามิคาวะ แสดงเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีทำงานเป็นทีมเวิร์ก

หลังเลิกงานได้กินดื่มที่ร้านอาหารฮานาซากิของคุณพ่อใจดี (โอสุกิ เรน นักแสดงผู้มีผลงานมากมาย เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เมื่อปี 2018) ที่ทำอาหารอร่อย เป็นสไตล์การใช้ชีวิตอันเคร่งเครียดของคนญี่ปุ่น ถ้าไม่ได้พักดื่มกินคงจะเครียดกว่านี้ กินดื่มชาร์จพลัง เพื่อลุยงานอย่างเต็มที่ในวันพรุ่งนี้

ในแต่ละองค์กร จะมีคนอย่างฮานาซากิ ไม สักกี่คนหรืออาจไม่มีเลย! •

 

เงาเกาหลี | มาดามหลูหลี

[email protected]