TRUE SPIRIT : ‘นักสู้’

นพมาส แววหงส์

ใน ค.ศ.2009 เจสสิกา วัตสัน เป็นเด็กสาวชาวออสเตรเลียวัยสิบหกปี ผู้ที่สร้างสถิติใหม่ในวงการเดินเรือด้วยการเป็นคนอายุน้อยที่สุดที่แล่นเรือใบรอบโลกโดยบังคับด้วยตัวเองคนเดียว โดยไม่แวะพักที่ท่าเรือใดๆ ระหว่างทาง และไม่มีใครคอยช่วยอยู่ในเรือ

เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่และการสื่อสารผ่านดาวเทียม…ซึ่งเอาชนะระยะทางไกลใกล้ข้ามพื้นน้ำพื้นดินบนผิวโลกได้ อย่างที่คนสมัยก่อนจะนึกไม่ถึงหรือนึกไม่ออกเอาเลย…เจสสิกา “ไลฟ์สด” จนมีแฟนคลับเฝ้าติดตามให้กำลังใจอยู่ทั่วโลก

และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนทั่วโลก ที่ต่างเพศ ต่างวัย ต่างผิวพรรณ ต่างสถานภาพในชีวิต

เจสสิกา วัตสัน ได้รับการประกาศเกียรติคุณ…เรียกได้ว่าเป็น “เครื่องราชอิสริยาภรณ์” ก็น่าจะได้…จากประเทศชาติบ้านเกิดเมืองนอน และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

เธอกลายเป็นผู้ประพันธ์หนังสือสองเล่ม ที่เล่าถึงประสบการณ์ในการแล่นเรือโดยลำพังของตัวเอง…

…ทั้งนี้ทั้งนั้นในชีวิตจริง เจสสิกาเป็นเด็กที่มีข้อบกพร่องในการเรียนรู้ แบบที่เรียกว่า โรคดิสเล็กเซีย (dyslexia) กล่าวคือ อ่านหนังสือไม่ค่อยรู้เรื่อง เห็นตัวอักษรเรียงรายและสมองผสมคำไม่ค่อยได้ หรือได้ช้ากว่าเด็กปกติ

ตั้งแต่วัยสิบสองขวบ เจสสิกาได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์การแล่นเรือใบรอบโลกของเด็กหนุ่มชาวเยอรมัน ชื่อ เจสซี มาร์ติน ซึ่งสร้างสถิติในการเป็นบุคคลอายุน้อยที่สุดที่แล่นเรือใบรอบโลกโดยลำพัง ใน ค.ศ.1999 ด้วยวัยสิบแปดปี

เจสสิกา (ทีแกน ครอฟต์) ดั้นด้นไปหา เบน ไบรอันต์ (คลิฟฟ์ เคอร์ทิส) นักแล่นเรือใบอาชีพอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว และบอกเขาว่าเธอต้องการให้เขาสอนการแล่นเรือใบให้ เพราะเธอมีเจสซี มาร์ติน เป็นบุคคลตัวอย่าง และมีความใฝ่ฝันจะเดินรอยตามเขาในวัยที่น้อยกว่า

เจสสิกาได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ (จอช ลอว์สัน และแอนนา พาควิน) และพี่น้องร่วมท้องทุกคนด้วยดีและโดยตลอด ซึ่งไม่เพียงแต่ให้กำลังใจ แต่ยังส่งเสริมทุกวิถีทางที่ทำได้ แม้ว่าจะเป็นครอบครัวชนชั้นกลาง และไม่ได้มีฐานะร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้เยี่ยงเศรษฐีที่จะตามใจลูกขนาดไหนอย่างไรก็ไม่เดือดร้อน

เจสสิกามีเรือใบของตัวเอง ชื่อ “พิงค์” ทาสีชมพูหวาน สีโปรดของเด็กผู้หญิงที่บอกยี่ห้อความเป็นเด็กหญิงและประกาศให้โลกรับรู้อย่างชัดแจ้ง

ก่อนหน้ากำหนดการออกแล่นเรือรอบโลกของเธอ เจสสิกาต้องแล่นเรือในระยะทดลองก่อน และในการแล่นเรือทดสอบสมรรถภาพการเดินเรือ เธอ “สอบตก” อย่างจังด้วยการชนเข้ากับเรือสินค้าขนาดใหญ่กลางทะเล

สาเหตุคือเธอลืมตั้งเสียงเตือนภัยไว้ก่อนที่จะหลับไป

ครูสอนการแล่นเรือใบของเธอ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจากการที่ลูกศิษย์เผอเรอจนเกิดความเสียงหายในครั้งนี้ และลงความเห็นว่าเธอยังไม่น่าจะพร้อมที่จะออกเดินเรือคนเดียวรอบโลก

แต่เจสสิกาก็เกลี้ยกล่อมพ่อแม่พี่น้องให้เชื่อว่าเธอพร้อมแล้ว

…เธอไม่อยากรอต่อไปอีกหนึ่งปี…

สื่อมวลชนนำประเด็นนี้ไปทำข่าว และอภิปรายว่าเด็กหญิงอายุเท่านี้ยังไม่พร้อมกับการตัดสินใจพาตัวเองไปเสี่ยงภัยคนเดียวขนาดนั้น และประณามว่าพ่อแม่ขาดความรับผิดชอบ

ประเด็นนี้ใหญ่โตร้อนแรงจนถึงขั้นมีการเรียกร้องให้รัฐออกกฎหมายห้าม

ด้วยความช่วยเหลือลงแรงจากเพื่อนของเบน เรือสีชมพูของเจสสิกาก็ได้รับการซ่อมแซมให้กลับคืนสภาพดีเหมือนใหม่อีกครั้ง

และเจสสิกาชิงออกเดินเรือไปเสียก่อนจะมีการดำเนินการห้ามอย่างเป็นทางการ

เส้นทาง “การเดินเรือรอบโลก” กำหนดไว้ว่าจะต้องแล่นเรือข้ามเส้นศูนย์สูตรสองครั้ง และแล่นเรือข้ามเส้นแวง หรือเส้นลองติจูดทุกเส้นรอบโลก โดยแล่นเรือต่อเนื่องไป ไม่มีการแวะเข้าท่าเรือใดๆ เลย

เจสสิกาออกเดินเรือจากท่าเรือซิดนีย์ มุ่งขึ้นเหนือเพื่อข้ามเส้นศูนย์สูตรกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ก่อนจะย้อนกลับลงไปอ้อมเคปฮอร์นที่เป็นจุดใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้

และแล่นขึ้นเหนือไปข้ามเส้นศูนย์สูตรกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ก่อนจะวกลงมาอ้อมแหลมอะกะลัส จุดใต้สุดของทวีปแอฟริกา

…ซึ่งโดยทั่วไปเรามักเข้าใจคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อยว่าเป็นแหลมกู๊ดโฮป เพราะตอนเรียนในโรงเรียน บอกว่าแม็กเจลลันเดินทางมาสู่เอเชียสำเร็จเป็นคนแรก โดยอ้อมแหลมกู๊ดโฮป ซึ่งคลื่นลมแรงมากจนนักเดินเรือไม่อยากเสี่ยงเดินทางในเส้นทางนี้…

จากนั้นก็แล่นเรือตัดผ่านมหาสมุทรอินเดียไปสู่ทวีปออสเตรเลีย และอ้อมไปทางใต้ของทวีปจนไปครบรอบโลกเอาที่จุดเริ่มต้น คือท่าเรือซิดนีย์

หนังให้เราเห็นปัญหาการเดินเรือของเจสสิกาในสามจุด คือ

ช่วงฝ่าพายุคลื่นลมขณะอ้อมแหลมฮอร์น

ช่วงที่แล่นเรือกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งคลื่นลมสงบสงัดอยู่หนึ่งสัปดาห์เต็มๆ เรือใบที่ไม่ได้แล่นด้วยเครื่องยนต์ ลอยเท้งเต้งอยู่นิ่งๆ ท่ามกลางความเวิ้งว้างรอบตัว มองเห็นแต่ “คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล” ตามสำนวนที่พูดกันในชีวิตของกะลาสี…

…ขณะเดียวกัน ความสงบนิ่งสงัดก็คงเป็นสิ่งที่คนสมัยนี้ไม่เคยเจอะเจอ เหมือนโลกจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ ที่สำคัญคือความอ้างว้าง ไร้ทิศทางจะไปต่อ จนทำให้เหงาหงอยจนแทบสิ้นหวัง

ตรงนี้ แม่ของเจสสิกาให้กำลังใจว่า ให้แหงนมองไปที่ดวงดาวที่สว่างที่สุดบนฟ้า และจำไว้ว่าแม่กำลังมองดูดาวดวงนั้นอยู่เหมือนกัน และนั่นคือจุดเชื่อมต่อระหว่างแม่กับเธอ ทำให้เธอคลายความอ้างว้างเหงาหงอยลง…

และช่วงสุดท้ายที่อ้อมไปใต้ทวีปออสเตรเลีย ใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง

…ตรงนี้เป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ สำหรับการมุ่งสู่เส้นชัย หรือการล้มเลิกการเดินทาง เพราะสิ้นทางเลือกที่จะเดินต่อไปข้างหน้า

และสิ่งที่เกิดแก่เจสสิกาก็เหมือนจะเป็นปาฏิหาริย์ที่ช่วยให้เธอไปสู่เส้นชัยอย่างตลอดรอดฝั่ง

นี่เป็นหนังที่ให้ความรู้สึกดีๆ และเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้คนที่อาจนึกท้อถอย หรือไม่ยอมสู้ชีวิต

ขอแนะนำให้ดูกันค่ะ •

TRUE SPIRIT

กำกับการแสดง

Sarah Spillane

นำแสดง

Teagan Croft

Cliff Curtis

Josh Lawson

Anna Paquin

 

ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์