เปิดหู | ว่าด้วยเรื่องเพลงหมาๆ

อัษฎา อาทรไผท

ว่าด้วยเรื่องเพลงหมาๆ

เห็นชื่อตอนอย่าเพิ่งคิดว่าบทความนี้จะรุนแรงนะครับ ผมไม่ได้จะเกรี้ยวกราดวิจารณ์อะไรใคร แต่เพียงแค่อยากเอาเรื่องของเพลงที่เกี่ยวกับหมามาเล่าสู่กันฟังสนุกๆ ครับ

ก่อนจะเข้าเรื่องเพลง เรามาดูผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์กันก่อน ว่าคุณหมาเขาชอบฟังเพลงสไตล์ไหนกัน ซึ่งก่อนอื่นต้องสมมุติว่าหมาฟังเพลงเป็นก่อน ผมก็ไม่ทราบว่าเวลามันได้ยินเสียงเพลง ด้วยศักยภาพหูที่รับเสียงได้ดีกว่ามนุษย์ถึงราว 4 เท่า มันจะได้ยินเพราะเหมือนเวลาเราฟังเพลงไหม

อย่างไรก็ตาม เขามีการวิจัยกันมาแล้วว่า หมาจะชอบฟังเพลงแนว เรกเก้ และ ซอฟท์ร็อค เป็นพิเศษ โดยมันจะมีความผ่อนคลาย และมักจะล้มตัวลงนอนเวลาเปิดเพลงแนวนี้ เหตุผลสำคัญคือเพลงประเภทนี้เป็นเพลงที่ไม่เร็วจนเกินไป มีจังหวะเนิบๆ กำลังเหมาะสำหรับการผ่อนคลายของหมา

ส่วนเพลงที่เกี่ยวกับหมานั้น จะว่าไปตั้งแต่เด็กจนโต เท่าที่ผมจำได้แม่นๆ มีอยู่ไม่มาก และที่จำได้ชัดเจนที่สุด 3 อันดับ ออกจะเก่ากึ๊กหน่อย และถือเป็นโอกาสดีที่จะเอามาแนะนำให้ท่านที่สนใจ รื้อฟื้นมาฟังกันใหม่ หรือท่านที่ยังไม่เคยฟัง จะได้ลองฟังดูครับ

เพลงแรกเห็นจะเป็นเพลงไหนไม่ได้นอกจาก ( How Much Is ) That Doggie in the Window? ของ Patti Page นักร้องชาวอเมริกัน ผู้โด่งดังในยุค 1950’s เพลงนี้ฮิตมากๆ ถึงขนาดในปี 1953 ติดชาร์ทอันดับ 1 ของทั้งบิลบอร์ดของอเมริกา และ ยูเคชาร์ทของอังกฤษ โดยมีบันทึกไว้ว่านี่คือเพลงแรกในประวัติศาสตร์ที่มีเครื่องหมาย ? ที่ติดอันดับ 1 ด้วย ( อาจจะเป็นเพลงเดียวด้วยไหม? )

เพลงนี้มีความน่ารักมาก กับดนตรีสมัยนั้นที่เรียบร้อยมากๆ ด้วยดับเบิ้ลเบส เครื่องสาย และเสียงร้องของ Patti สลับกับเสียงหมาเห่าบ๊อกๆ ที่ตอนหลังมีเสียงหมาใหญ่ โฮ่งๆ โผล่มาด้วย โดยเพลงพรรณนาถึงสาวคนหนึ่งที่พิศมัยหมาน้อยในร้าน (น่าจะเป็นร้านเพทช็อป)

อันดับต่อมา Love Me Love My Dog ของ Peter Shelly ศิลปินชาวอังกฤษจากยุค 70’s ที่ปล่อยเพลงนี้ออกมาในปี 1975 และขึ้นไปถึงอันดับ 3 ในยูเคชาร์ทของอังกฤษ

สำหรับเพลงนี้ที่ไทยก็ดังไม่ใช่เล่น ผมจำไม่ได้ว่าได้ยินที่ไหนบ้าง แต่ได้ยินอยู่เรื่อยๆ มาตลอดชีวิตนี้ และที่เปิดให้ได้ฟังหนักๆ เห็นจะเป็นโฆษณาของไทยอันหนึ่งสมัยเด็กๆ ที่ใช้เพลงนี้เป็นเพลงประกอบโฆษณา เพลงนี้ชื่อเพลงก็อธิบายเนื้อหาเรียบร้อยแล้วว่า ถ้ารักฉัน ก็รักหมาฉันด้วยนะจ๊ะ

มาถึงเพลงสุดท้ายที่จะกล่าวถึง เพลงนี้เป็นเพลงไทย ที่ไม่ได้เกี่ยวกับหมา แต่มีเนื้อเพลงที่เอ่ยถึงหมาขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย สำหรับผม นี่ถือเป็นสเน่ห์ทางการเขียนเพลงที่น่าจดจำและดีงาม ท่านผู้อ่านที่ผ่านปี 2528 แบบจำความได้ อาจจะพอคุ้นๆ นะครับ

นี่คือเพลง “หัวใจสีชมพู” ของแกรนด์เอ๊กซ์ วงสตริงสุดฮิตของไทยในยุคนั้น นำโดยพี่แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ เพลงนี้เป็นเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้มเลย จัดเป็นเพลงที่มีสีสันมากๆ ผมจำได้ว่าตอนที่ได้ฟังสมัยนั้น รู้สึกสะเด่าในการฟังมากๆ ด้วยจังหวะเดินเบสตามสมัยนิยม กลองโจ๊ะๆ กีตาร์โซโล่ประสาน ในทำนองที่ให้ความรู้สึกอารมณ์ดี

ช่วงหนึ่งของเพลง ตั้งแต่เริ่มๆ พี่แจ้กำลังเล่าถึงการตกหลุมรักสาวคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเธอคือใคร และไม่รู้จะทำตัวอย่างไร เลยหันไปถาม “เจ้าเห็นเป็นไง เจ้าหมาน้อยเพื่อนใจ มาช่วยลองคิดดู เจ้าคงไม่เข้าใจ” จากนั้นยังมีเสียงหมาเห่าตอบมาด้วย  โอ้โฮ นี่ถือเป็นความเฟี้ยวฟ้าวทางดนตรีมากๆ ครับ นี่ยังไม่ได้กล่าวถึงเสียงคล้ายยมบาลออกมาเตือนสติพี่แจ้ด้วย เพลงนี้สนุกมากๆ ครับ ต้องเอากลับมาฟังอีก ส่วนใครยังไม่ได้ฟัง รีบเลยครับ

สามเพลงนี้ไม่มีเพลงไหนเข้าข่าย เร้กเก้ แต่ถ้าซอฟท์ร็อคเพลงพี่แจ้น่าจะเข้าข่ายอยู่บ้าง คราวนี้ทั้งคุณผู้อ่านที่รักสุนัข ก็จะมีอะไรทดลองสนุกๆ แล้วครับ เวลานำเพลงทั้งสามมาฟัง ลองชวนคุณหมามานั่งฟังด้วยกัน แล้วดูว่าเขาจะมีความผ่อนคลายเหมือนที่นักวิทยาศาสตร์เขาว่ามาไหมครับ จะให้ดีเตรียมเพลงเฮฟวี่เมทัลมาเปิดเปรียบเทียบกันด้วย จะให้เห็นความแตกต่างชัดๆ ครับ