เปิดหู | Soul After Six : ผลงานเพลงดีๆ ข้ามกาลเวลา

อัษฎา อาทรไผท

Soul After Six : ผลงานเพลงดีๆ ข้ามกาลเวลา

“ก้อนหินละเมอ” คือเพลงที่หลายท่านที่อายุต่ำกว่า 50 ปี น่าจะคุ้นเคย เพราะเมื่อราว 20 กว่าปีก่อน นี่คือเพลงที่ดังมากๆ และเป็นเพลงที่ยังมีคนเปิดฟัง และเล่นคัพเวอร์ทั่วไปหมดจนทุกวันนี้ เรียกว่าฟังกันเพราะข้ามกาลเวลากันเลยทีเดียว เจ้าของบทเพลงที่เพราะที่สุดเพลงหนึ่งตลอดกาลของไทยเพลงนี้ ก็คือวง Soul After Six นั่นเอง แต่แท้ที่จริงแล้ว เพลงอื่นๆของพวกเขาแม้ไม่ฮิตในวงกว้างเท่าเพลง “ก้อนหินละเมอ” แต่เป็นเพลงที่สวยงามทั้งเนื้อร้องและการเรียบเรียง สำหรับผมนี่ถือเป็นสมบัติทางดนตรีครับ

ก่อนจะมาทำความรู้จักกับวงในตำนานวงนี้ ย้อนอดีตไปเมื่อปี 2539 กันก่อนเพื่อซึมซับบรรยากาศครั้งแรกมาของ Soul After Six ครับ ตอนนั้นผมยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่อเมริกา ได้กลับมาเยี่ยมบ้านช่วงปิดเทอม จำได้ว่าเปิดวิทยุฟังเพลงไทยไปเรื่อยๆ ระหว่างขับรถ ตอนนั้นเพลงไทยจะมีสไตล์คล้ายกันไปหมด ไม่ใช่ไม่เพราะ แต่เพราะแบบไม่ค่อยแตกต่าง ซึ่งน่าจะถูกใจผู้ฟังยุคนั้น จะมีก็แต่เพลงจากค่ายเบเกอรี่มิวสิค ที่แหวกแนวออกมา จุดพลุให้อีกหลายๆ ค่ายพยายามทำตามเป็นทางเลือกในการฟังเพลงของคนไทยสมัยนั้น

ขณะขับรถไปเพลินๆ ฟังเพลงคล้ายๆ กันที่เปิดต่อๆ กันในวิทยุ ก็มีเพลง “รู้” เปิดขึ้นมา เพลงนี้มีความแตกต่างจากเพลงไทยอื่นๆ ในตอนนั้นมาก สไตล์ดนตรีไม่เหมือนใคร เป็นแนวดิสโก้ยุค 70’s อย่างชัดเจน มีเครื่องเป่า เครื่องสาย ถักทอผ่านการเรียบเรียงดนตรีที่สวยงาม ลายละเอียดเพียบอย่างมีชั้นเชิง ที่ยิ่งไปกว่านั้นคำร้องก็เขียนออกมาได้ลงตัวมาก และขนาดฟังจากวิทยุเอฟเอ็ม ผมก็รับรู้ได้ถึงการบันทึกเสียงที่แตกต่างออกไป

ผมพยายามจับใจความว่านี่คือเพลงของใครกัน ก็ได้ความว่า Soul After Six จากค่าย เบเกอรี่ นี่เอง ในสมัยนั้นการหาข้อมูลข่าวสารต่างๆ จำกัดมากๆ ทำให้ผมไม่ทราบว่าอัลบั้มของพวกเขายังไม่ออก ทำให้ได้ตระเวณไปตามร้านเทปต่างๆ มากมาย ซึ่งก็ไม่มีที่ไหนมีขายสักที่ จนถึงเวลาต้องกลับไปเรียนต่อ ผมกลับไปด้วยความผิดหวังที่ไม่ได้เพลงที่ตามหากลับไปฟัง แต่ก็ไม่ลืมที่จะให้ทางไทยคอยมองหา แล้วรีบส่งเทปมาให้ทันทีที่เจอ (สเน่ห์ของยุค 90’s มันก็ดีไปอีกแบบนะครับ การจะได้เพลงมาฟังสักอัลบั้ม มันไม่ง่ายเลย)

ผมจำไม่ได้ว่าต้องรอนานแค่ไหน แต่จำได้เลยว่าเมื่อพัสดุที่บรรจุเทปเพลง Soul After Six ชุดที่มีชื่อเดียวกับชื่อวงมาถึง ผมรีบเอาตลับเทปใส่ซาวด์อเบาด์ คลี่ปกเทปมาอ่านรายละเอียด แล้วล่องลอยไปกับทุกเพลงในผลงานชุดนั้นยาวนานข้ามวัน นั่นเป็นครั้งแรกที่เห็นชื่อของสมาชิกวง ที่ประกอบด้วย ณรงค์ฤทธิ์ สุพรรณเภสัช (เปียโน, ร้องนำ, คอรัส) วิศรุต สุพรรณเภสัช (เปียโน, ร้องนำ, คอรัส, กลอง) และ ศรุต วิจิตรานนท์ (เบส) โดยเพลงส่วนใหญ่เขียนและขับร้องโดย วิศรุต สุพรรณเภสัช หรือที่เรารู้จักกันในนาม พี่ปิงปอง แห่ง Soul Studio ห้องซ้อมคุณภาพห้าดาวในปัจจุบันนี่เอง

ผลงานชุดนี้ได้ปรมาจารย์ทางดนตรีรุ่นเก๋า ที่เติบโตมากับดนตรียุค 70’s จริงๆ ร่วมบันทึกเสียงหลายท่าน ทำให้ผลงานย้อนยุคชุดนี้ ได้ลีลาอารมณ์ โซล ฟังค์ ดิสโก้ แบบแท้ๆ ในขณะที่การบันทึกเสียงก็ใช้วิธีการบันทึกเสียงแบบสมัย 70’s เลย นั่นคือการใช้เครื่องบันทึกเสียงเทปรีล (Open Audio Tape) ที่มาเป็นม้วนเทปกลมๆ ใหญ่ๆ กันเลย ทั้งที่ในขณะนั้นมีการบันทึกเสียงแบบดิจิตัลใช้กันแล้ว แต่เพื่อความอุ่นของเสียงและมนต์ขลังของซาวด์ การบันทึกเสียงแบบดั้งเดิมก็เพิ่มสเน่ห์ขึ้นอีกหลายเท่า

นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่อัลบั้ม ที่ผมฟังได้ทุกเพลงอย่างเพลิดเพลิน มีทั้งเพลงดุๆ กระชากอารมณ์ด้วยฟังค์แรงๆ อย่าง “รักแล้ว” เพลงดิสโก้อย่างเพลง “รู้” แนวฟังค์ โซล มันๆ อย่าง “อีกทีได้ไหม” เพลงช้าอคุสติกซึ้งๆ อย่าง “เคียงเธอ” เพลงช้าอย่างมีชั้นเชิงเช่นเพลง “คำเดียวว่า” และ “รอ…คงเพียงพอ” เพลงคู่น่ารักๆ อย่าง “คงรักตลอดไป” เพลงจังหวะเนียนๆ เท่ๆ อย่าง “เก็บเอาไว้” และ “ขอเพียงเวลา” และเพลงในตำนานที่ป็อปที่สุดในอัลบั้มอย่าง “ก้อนหินละเมอ” ทุกเพลงมีสเน่ห์ที่เนื้อร้องสวยงาม เสียงร้องหล่อๆ เครื่องเป่า เบส กีตาร์ เครื่องสาย และโรดเปียโน ที่ร่ายมนต์ออกมาได้เอร็ดอร่อยหูเหลือเกิน

จากวันนั้นสู่วันนี้ ผ่านมา 25ปี แล้ว คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าผลงานของ Soul After Six คือบทเพลงข้ามกาลเวลา ที่ผมเอามาฟังเมื่อไหร่ก็หยั่งรู้ถึงความตั้งใจในการผลิตงานเพลงดีๆ ออกมา ทุกๆ เพลงฟังแล้วรู้สึกสดใหม่เหมือนครั้งแรกที่ได้ยิน และแน่นอนว่าอัลบั้มนี้ของพวกเขาได้รางวัลสีสันอวอร์ดส์ ด้าน ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม, ศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม และเพลง “อีกทีได้ไหม”ก็ ได้รับรางวัลด้านการบันทึกเสียงยอดเยี่ยมไปครอง (เฉกเช่นเดียวกับผลงานชุดต่อมาอีก 6 ปี The Rhythm ที่คว้ารางวัลศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม อัลบั้มยอดเยี่ยม และบันทึกเสียงยอดเยี่ยมไปครองเช่นกัน)

ผมมั่นใจว่าผู้อ่านน่าจะรู้จักและชอบผลงานของ Soul After Six อยู่แล้ว แต่ผมก็อยากจะเขียนถึงพวกเขา เผื่อท่านได้อ่านแล้วอาจจะหยิบเพลงของพวกเขามาฟังกันอีกครั้ง หรือหากคนรุ่นใหม่มาอ่าน ผมก็ขอชวนให้ลองสตรีมเพลงของพวกเขาฟังกัน แล้วน้องๆ จะพบว่าเพลงข้ามกาลเวลาเป็นเช่นไรครับ

ปล. หลังผลงานทั้ง 3 อัลบั้มที่ออกมา เพลงใหม่ๆ ของ Soul After Six ยังมีออกมาอีก 5 ซิงเกิ้ล ตั้งแต่ปี 2555-2561 สามารถฟังได้ในสตรีมมิ่งและ YouTube ครับ