Vincenzo : เหนือกว่ามาเฟีย

 

เมื่อซงจุงกิ หนุ่มกิมจิที่ไปเติบโตในแดนมะกะโรนีแห่งตระกูลกาซาโน จึงกลายเป็น Vincenzo Cassano พาสต้าซอสกิมจิที่เผ็ดแซบสะใจ เปิดฉากเมืองอิตาลีแสนสวย แต่มีมาเฟียโหดเดือดเต็มไปหมด

วินเซนโซใช้ชีวิตที่อิตาลีกว่า 20 ปี บินกลับบ้านเกิดที่เกาหลี เพื่อตามหาแม่กับภารกิจขนทองที่ฝังอยู่ในห้องใต้ดินกึมกาพลาซ่า เขาถูกแม่ทิ้งไปตั้งแต่ 8 ขวบ กลายเป็นปมทุกข์ในใจ จนเมื่อเจอแม่แล้วก็ยังโกรธอยู่

วินเซนโซเป็นทนายที่ปรึกษา หรือคอนซีเยเร (Consigliere) ให้พวกมาเฟียที่อิตาลี มาถึงสนามบินอินชอน เกาหลีใต้ก็เจอดี ถูกแท็กซี่ลองของ

ทนายฮงยูชาน (ยูแจมยอง) เป็นทนายให้แม่ของวินเซนโซ และเป็นทนายในอุดมคติ ว่าความให้คนที่เดือดร้อนสู้ความกับนายทุนต่างๆ เพื่อทวงคืนความยุติธรรม

คดีความของฮงยูชานที่เกี่ยวข้องกับบาเบลกรุ๊ป ซึ่งฮงชายอง (ชอนยอบิน) ลูกสาวของฮงยูชานทำงานกับสำนักงานกฎหมายอูซัง อันอยู่ภายใต้บาเบลกรุ๊ป เป็นคู่พ่อ-ลูกที่ขัดใจกันตลอด จนเมื่อฮงยูชานถูกอำนาจเถื่อนจัดการ ฮงชายองรู้สำนึกได้ก็สายเสียแล้ว

กับคนในครอบครัว เขาถึงบอกว่าให้พูดกันดีๆ ด้วยไม่มีใครรู้ว่าคำพูดนั้นอาจเป็นคำพูดสุดท้ายที่ได้พูดคุยกัน และ “ความรู้สึกเสียดาย คือความเจ็บปวดที่สุดในชีวิต…”

วินเซนโซจึงสืบต่อดูแลสำนักงานทนายความฟางข้าว หรือ Jipuragi Law Firm ของฮงยูชาน โดยฮงชายองลาออกจากอูซัง มาเป็นทนายคู่หูช่วยวินเซนโซร่วมมือกันต่อกรกับบาเบลกรุ๊ป อันมีทนายชเวมยองฮี (คมยอจิน) อดีตอัยการ เป็นทนายหญิงสายโหด เลวกว่ามาเฟียร้าย

คู่พี่น้องแห่งบาเบลกรุ๊ป จางจุนอู (แท็กยอน) ประธานตัวจริงให้จางฮันซอ (ควักดงยอน) น้องชายต่างมารดาออกหน้าเป็นประธานแทนเขา เพื่อรับผิดสิ่งต่างๆ แทน เป็นคู่พี่น้องที่จ้องเล่นงานกันทั้งซึ่งหน้าและลับหลัง

เรื่องนี้แท็กยอนพลิกบทบาทอย่างมาก ร้ายสุดๆ ชนิดบ้าคลั่ง จนเป็นที่เกลียดชังของผู้ชม คงจะมีนักธุรกิจแบบนี้ในสังคมจริงๆ ซึ่งปิดลับไม่ให้ผู้คนรู้ เป็นกลุ่มแชโบลที่มากด้วยผลประโยชน์ และควักดงยอนที่ดูหล่อเทพ แต่เป็นเทพขั้นบ๊องส์

วินเซนโซต้องวางแผนรับมือกับบาเบลกรุ๊ป มีทนายชเวมยองฮีออกหน้า ยิ่งกว่าตาต่อตา ฟันต่อฟัน งัดทุกวิธีการมาใช้ ว่ามาเฟียอิตาลีโหดแล้ว คนเกาหลีโหดเลวกว่ามาเฟีย

ทั้งยังต้องหาวิธีขนทองออกมาจากวัดนานยักที่กึมกาพลาซ่า ซึ่งต้องเก็บเป็นความลับป้องกันการแตกตื่น และเมื่อผู้อาศัยในตึกกึมกาพลาซ่าถูกข่มขู่จากบาเบลกรุ๊ป วินเซนโซจึงอาสาเป็นทนายว่าความให้ ชนิดที่คุณห้ามปฏิเสธ เพราะ “ถ้าคุณปฏิเสธพวกเรา พวกคุณจะเสียโอกาสที่จะชนะ ทำไมพวกคุณถึงเอาชนะไม่ได้ เพราะไม่มีทนายอย่างพวกเราอยู่เคียงข้าง” วินเซนโซกล่าว

คนในตึกกึมกาพลาซ่า ซึ่งมีอาชีพต่างๆ กัน เบื้องหลังอาชีพของแต่ละคนไม่ธรรมดา ละครทำได้ฮามาก พอจัดเต็มเป็นทีมเดียวกันใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน ดูเหมือนกลุ่มมาเฟียจริงๆ

นักแสดงสมทบที่อยู่อาศัยในกึมกาพลาซ่า แสดงได้สมบทบาทมากกว่าบทตัวประกอบเล็กๆ

Vincenzo ซีรีส์ที่มีเส้นเรื่องแปลกใหม่โดยนักเขียนพัคแจบอม ซึ่งดูเหมือนชอบหนังสไตล์มาเฟีย ร่วมงานกับผู้กำกับฯ คิมฮีวอน ช่วงอีพีแรกๆ ดูสนุกๆ ตลกๆ แต่เมื่อดูๆ ไปก็เริ่มเครียดอย่างจริงจัง แต่เรื่องราวยังดีที่หาทางออกให้ตัวละครได้

เป็นซีรีส์ที่เปิดตัวซงจุงกิอย่างงดงาม หลังจากมีข่าวฉาวหย่าร้างกับภรรยาดาราสาวสวยซงฮเยคโย ซงจุงกิหล่อปังด้วยชุดเสื้อผ้าเนี้ยบหรูมีสไตล์กลิ่นอายอิตาลี ดื่มกาแฟ Espresso และดูถูกกาแฟอเมริกาโน่ที่ฮงชายองชอบดื่มว่าเหมือนน้ำดำสกปรก

ซงจุงกิได้แสดงความสามารถครบทุกบทบาท ทั้งบทบู๊, ตลก, เปิ่นๆ, สไตล์มาเฟียแบบโรแมนติก รวมทั้งเป็นหนุ่มที่สาววายชอบ และเขาได้ไปฝึกพูดภาษาอิตาลีเพื่อให้สมบทของวินเซนโซ

ทะเลาะกับนกพิราบที่เขาตั้งชื่อว่า “อินซากี” (Inzaghi) ซึ่งในภาษาอิตาลีแปลว่า “นกพิราบ” หมายถึงความสุขสงบ แต่ทั้งคนกับนกทะเลาะกันตลอด และชื่อนี้เป็นนกจริงๆ ของนักเขียน อีกทั้งเป็นชื่อของนักฟุตบอลอดีตศูนย์หน้าทีมอิตาลีชื่อ Filippo Inzaghi

นางเอกชอนยอบินที่เป็นนางเอกซีรีส์เรื่องแรก ได้เกิดทันที ชอบลิปสติกสีสวยที่นางทาปากสวยได้รูป ไว้เตรียมออกศึก

Vincenzo ซีรีส์ที่น่าจะมีแค่ 16 ตอน อาจเพราะเรตติ้งดีจึงยาวถึง 20 ตอน ซึ่งดูมากเกินบท จึงดูเนือยๆ ไม่มีพลังในอีพีหลังๆ

หากก็ยังให้บทเรียนกับกลุ่มทุน แม้วินเซนโซจะเชื่อว่า “ความยุติธรรมเป็นสิ่งที่อ่อนแอและว่างเปล่า”

แต่คนเราก็ต้องต่อสู้ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร คงมีแต่วินเซนโซที่รู้ว่า “คนที่คุ้นเคยกับชัยชนะ ย่อมไม่เหนื่อยที่จะต่อสู้ และไม่หวั่นไหวกับสิ่งใด…”