เมื่อ ‘หนังไทย-2 นักแสดงอาเซียน’

คว้ารางวัลที่ ‘เวนิส’

 

เมื่อสองสัปดาห์ก่อน เพิ่งรายงานไปว่าหนังไทยเรื่อง “เวลา” โดย “จักรวาล นิลธำรงค์” นักทำหนังอิสระ-อาจารย์คณะวารสารศาสตร์ฯ ธรรมศาสตร์ ได้รับคัดเลือกให้เข้าฉายในสายการประกวดรอง “Orizzonti” ของเทศกาลภาพยนตร์เวนิส 2021 ที่จัดขึ้น ณ ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 1-11 กันยายน 2564

ล่าสุด มีข่าวดีว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถคว้ารางวัลมาครองได้ 1 สาขา แม้จะไม่ใช่รางวัลจากทางเทศกาลโดยตรงก็ตาม

รางวัลที่ “เวลา” ได้รับคือ รางวัล “บิซาโต อวอร์ด” สาขา “บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม” ซึ่งจัดมอบโดยสมาคมนักวิจารณ์อิสระ ที่จะพิจารณาผู้ได้รับรางวัลจากหนังเรื่องต่างๆ ที่เข้าฉายในเทศกาลเวนิสประจำปีนี้

สมาคมนักวิจารณ์อิสระได้บรรยายจุดเด่นของหนังเรื่อง “เวลา” เอาไว้ว่า

“ผ่านชะตากรรมของสตรีคนหนึ่ง ‘เวลา’ ประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมอันเจ็บปวดและชวนให้รำลึกถึงอดีต โดยมีเนื้อหาว่าด้วยประวัติศาสตร์โดยรวมของประเทศแห่งหนึ่ง รวมทั้งสามารถสำรวจเจาะลึกเข้าไปในจิตวิญญาณอันสลับซับซ้อนของตัวละครนำได้อย่างละเอียดอ่อนเหลือเกิน

“หนังเรื่องนี้ยังทำให้คนดูตระหนักถึงภาพสะท้อนของความรู้สึกเกี่ยวกับห้วงเวลาอันจริงใจและเป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับความสำคัญของความทรงจำและความหนักหนาของความทุกข์”

 

ประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ มีนักแสดงเพื่อนบ้านชาวอาเซียนอีกสองราย ที่สามารถคว้ารางวัลสำคัญจากเทศกาลภาพยนตร์เวนิสประจำปีนี้มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

เริ่มต้นด้วย “พิเศษ ชุน” นักแสดงหนุ่มชาวกัมพูชา ที่ได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมในสายการประกวดรอง “Orizzonti” (สายเดียวกับหนังไทยเรื่อง “เวลา”) จากภาพยนตร์เรื่อง “White Building” ของผู้กำกับฯ ดาวรุ่ง “กวิช เนียง”

หนังกัมพูชาเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ “ซัมนาง” ชายหนุ่มวัย 20 ปี และเพื่อนสนิทสองคนของเขาที่อาศัยอยู่ใน “White Building” อาคารที่พักอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงพนมเปญ

ในมหานครที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มทั้งสามคนต่างมุ่งมั่นฝึกฝนทักษะด้านการเต้น ด้วยความฝันที่จะไขว่คว้าหาความสำเร็จจากการเข้าร่วมรายการประกวดทางโทรทัศน์ ขณะที่คนรุ่นพ่อแม่ของพวกเขากลับยังใช้ชีวิตในแบบดั้งเดิม

ความพลิกผันเกิดขึ้น เมื่ออาคารที่พักที่ทุกคนอาศัยอยู่กำลังจะถูกทุบทิ้ง พ่อของซัมนางประสบความล้มเหลวในการโน้มน้าวใจบรรดาเพื่อนบ้านที่มีความคิดแตกต่างกัน ให้ยอมรับเงินชดเชยจากทางรัฐบาล เพื่อแลกกับการย้ายออกจาก “White Building”

ส่วนซัมนางเองก็สูญเสียเพื่อนสนิทซึ่งเลือกจะเดินทางออกไปนอกประเทศกัมพูชา นอกจากนั้น เขายังต้องกลายเป็นประจักษ์พยานที่ได้มองเห็นภาพ “บ้าน” ของตนเอง ค่อยๆ ถูกทุบทำลายลง

 

 

ขณะเดียวกัน “จอห์น อาร์ซิลลา” นักแสดงมากประสบการณ์ชาวฟิลิปปินส์ ยังได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมในสายการประกวดหลักของเทศกาลเวนิส 2021 จากผลงานที่เขาฝากเอาไว้ในหนังเรื่อง “On The Job : The Missing 8” ของผู้กำกับฯ “เอริก แมตตี้”

“On The Job : The Missing 8” ถ่ายทอดเรื่องราวที่สร้างขึ้นจากเหตุการณ์จริง ผ่านชีวิตตัวละครหลักสองราย คือ “ซิซอย ซาลาส” นักหนังสือพิมพ์ผู้มีพฤติกรรมสีเทา ซึ่งพยายามเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่บรรดาเพื่อนร่วมวิชาชีพของเขา และ “โรมัน รูบิโอ” นักโทษผู้ถูกนำตัวออกจากเรือนจำเพื่อมารับภารกิจมือสังหาร

ซิซอยมักมีพฤติกรรมปกป้องรัฐบาลและนายกเทศมนตรีประจำท้องถิ่นตลอดมา อย่างไรก็ตาม เมื่อเพื่อนนักข่าวของเขาหายสาบสูญไป (เพราะอำนาจรัฐ) ซิซอยจึงต้องกลับมาคิดทบทวนถึงความภักดีที่เขาเคยมอบให้ผู้มีอำนาจ และตั้งคำถามกับความเชื่อทางการเมืองของตนเอง

ในอีกฟากหนึ่ง โรมันก็ถูกตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิตเพราะอาชญากรรมที่เขามิได้ก่อขึ้น นี่ส่งผลให้โรมันพยายามทุกวิถีทางที่จะนำพาตนเองหวนคืนสู่อิสรภาพ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการแบบใดก็ตาม

แล้วเส้นทางชีวิตของสื่อมวลชนและมือปืนคู่นี้ก็ต้องมาประสบพบเจอกัน เมื่อซิซอยกำลังมีสถานภาพเป็น “เหยื่อสังหารรายต่อไป” ของโรมัน

เหล่านี้คือความสำเร็จของ “คนทำหนังอาเซียน” ในเทศกาลภาพยนตร์เวนิสซึ่งเพิ่งปิดฉากลงไป