ภาพยนตร์ : PIG ‘หมูแสนรัก’ / นพมาส แววหงส์

นพมาส แววหงส์

 

 

PIG

‘หมูแสนรัก’

 

กำกับการแสดง

Michael Sarnoski

นำแสดง

Nicolas Cage

Alex Wolff

Adam Arkin

 

นิโคลัส เคจ หายหน้าหายตาไปจากจอภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่มาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงความที่เคยเป็นตัวเรียกคนดูในหนังบู๊ล้างผลาญมาก่อน โดยไม่นับรางวัลใหญ่ๆ ที่เขามีเอาไว้อวดความสามารถด้านการแสดงอยู่ไม่น้อย

ดูเหมือนว่าเขาจะประกาศลาโรงจากฮอลลีวู้ด หรือมิฉะนั้นฮอลลีวู้ดก็ไม่จ้างเขาเล่นหนังอีก เพราะความล้มเหลวด้านบอกซ์ออฟฟิศต่อเนื่องมาหลายครั้ง

ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะกลับคืนสู่สังเวียนอีกครั้งด้วยหนังอินดี้ทุนต่ำ ที่ตั้งชื่อง่ายๆ แสนจะไม่น่าสนใจและไม่น่าจะเรียกคนดูได้มากนัก

หนังเพิ่งออกฉายในอเมริกาเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมนี้เอง แต่ก็ได้รับเรตติ้งสูงลิ่วสะดุดตาถึง 7.0

เลยตกอยู่ในความสนใจของแฟนหนังขึ้นมาทันใด

แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นหนังสำหรับคนดูทั่วไปที่อยากเห็นมาดพระเอกนักบู๊ “ฉะปะดะ” หรือ “ลุยโลดแหลก” ต่อใครหรืออะไรก็ตามที่แหยมเข้ามาขวางหน้า

ถึงแม้ว่าจะมีลักษณะอะไรทำนองนั้นอยู่บ้างในแคแร็กเตอร์ของพระเอกใน Pig ก็ตาม

แต่ Pig ดูจะหนักไปทางหนังดรามามากกว่าหนังแอ๊กชั่น

พูดง่ายๆ คือ เรื่องราวจะพลิกผันไปในลักษณะที่คนดูแทบไม่ได้คาดคิดเลย

ดังนั้น จึงขอเตือนเรื่องสปอยเลอร์ไว้ก่อนนะคะ ถ้าใครคิดจะดู ก็ขอให้เลิกอ่านตรงจุดนี้เลยค่ะ เพราะส่วนหนึ่งของความสนุกของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ว่าเราหายใจไม่ทั่วท้องติดตามเส้นทางเดินของพระเอกไปตลอดเรื่อง โดยที่ไม่รู้ว่าจะต้องไปเจอเข้ากับอะไรข้างหน้า

 

หนังแนะนำให้เรารู้จักร็อบ (นิโคลัส เคจ) ซึ่งเป็นชายสูงวัยที่ใช้ชีวิตอย่างสันโดษในกระท่อมสับปะรังเคกลางป่าในรัฐโอเรกอน

แน่นอนว่าร็อบมีอดีตที่ปวดร้าวมาก่อน เขามีเทปคาสเซ็ตอยู่ม้วนหนึ่งซึ่งเอาใส่เข้าไปในเครื่องเล่น แต่ก็ยังทำใจให้ฟังต่อไม่ได้

ร็อบปรุงอาหารร้อนๆ จากเตามาเสิร์ฟให้หมูแสนรักของเขากิน

และหมูตัวนี้ก็ไม่ใช่หมูธรรมดาทั่วๆ ไป แต่เป็นหมูที่ถูกฝึกให้ดมกลิ่นเห็ดทรัฟเฟิลโดยเฉพาะ

เห็ดทรัฟเฟิลเป็นของป่าหายากที่ฝังอยู่ใต้ดินใกล้โคนต้นไม้ วันๆ ร็อบกับหมูก็ออกท่องไปในป่าเพื่อขุดเห็ดมาเป็นรายได้พอเลี้ยงตัว

อันที่จริงร็อบน่าจะมีรายได้ที่มากกว่าพอเลี้ยงตัว เพราะทรัฟเฟิลเป็นของหายากและขึ้นเองตามธรรมชาติ จนมาในช่วงหลังๆ นี้เองที่มีการทดลองเพาะเลี้ยงเห็ดทรัฟเฟิลได้สำเร็จ

ด้วยคุณสมบัติอันเลิศล้ำในตัวอันทำให้มีความต้องการในตลาดสูง ทรัฟเฟิลจึงขายได้ราคาดี และเป็นสินค้าราคาสูงลิ่ว

เห็ดทรัฟเฟิลใช้เป็นส่วนประกอบในสูตรอาหารเลิศรสละเมียดของเชฟฝีมือดี ใช้เพียงชิ้นเล็กๆ นิดเดียว ก็ทำให้อาหารส่งกลิ่นหอมกระตุ้นต่อมน้ำลายและยั่วยวนชวนกิน

ทรัฟเฟิลเป็นที่ต้องการของร้านอาหารหรูๆ ที่ลูกค้ายอมควักกระเป๋าจ่ายเพื่ออาหารจานพิเศษ และมีเฉพาะตามฤดูกาลเท่านั้น ไม่ได้มีให้กินตลอดปี

 

ร็อบเป็นคนหาของป่าส่งให้แก่ลูกค้าประจำคนหนึ่ง ชื่ออาเมียร์ (อเล็กซ์ วูลฟ์) ซึ่งขับรถมารับถึงกระท่อมน้อยในป่า และบอกให้ร็อบติดตั้งเครื่องมือสื่อสารกับโลกภายนอก โดยเขารับอาสาจะหามาให้เองเพื่อความสะดวกในการติดต่อของเขาเอง แต่ร็อบก็เฉยชาต่อข้อเสนอที่จะหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาใช้ในชีวิตอันโดดเดี่ยวของเขา

และแล้ว วันดีคืนดี ร็อบก็ถูกปล้น เขาโดนทำร้ายร่างกายและคนร้ายขโมยหมูแสนรักของเขาไปด้วย

นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการติดตามหาสิ่งล้ำค่าในชีวิตเพื่อเรียกร้องสิทธิให้กลับคืนมาเหมือนเดิม ท่ามกลางความยากลำบากแทบจะเหลือวิสัยทั้งหลายทั้งปวง

ความหมายที่กว้างกว่านั้นกินความถึงความรักและการสูญเสียในชีวิตมนุษย์

ซึ่งเราจะได้รู้ต่อมาว่าความรักและการสูญเสียครั้งใหญ่ในอดีตทำให้ร็อบหลบลี้หนีหน้าผู้คนมาอยู่กลางป่าอย่างสันโดษ

และเนื่องจากร็อบไม่มีพาหนะที่จะพาเขาไปยังที่ที่เขาต้องการไปอีกแล้ว เขาจึงต้องขอความช่วยเหลือจากบุคคลคนเดียวที่ยังมีอยู่ในชีวิตเขา คือ อาเมียร์

การตามหาหมูแสนรักพาร็อบกับอาเมียร์กลับคืนสู่อารยธรรมในเมืองใหญ่ เพราะมีเบาะแสว่าผู้ลักพาหมูไปเป็นคนร่ำรวยจากเมืองพอร์ตแลนด์

ร็อบตามหาเบาะแสจากสังเวียนการต่อสู้ใต้ดิน ซึ่งเขาต้องโดนซ้อมเสียน่วมกว่าจะได้ชื่อของคนที่ต้องการ

และหนังค่อยๆ เผยให้เรารู้ว่าร็อบเองก็เคยเป็นคนเด่นคนดังอยู่ในพอร์ตแลนด์มาก่อน

และการขโมยหมูก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวร็อบโดยตรง แต่อยู่ที่ความสัมพันธ์ของเขากับคนอื่นในชีวิตมากกว่า

สิ่งที่สูญเสียไปแล้วนั้นไม่สามารถจะเรียกกลับคืนสู่สภาพเดิมได้

และร็อบได้เรียนรู้ที่จะก้าวเดินต่อไปในที่สุด

 

Pig เป็นหนังที่อยู่เหนือความคาดหมายใดๆ ที่อาจตั้งไว้ก่อนหน้าจะได้ดูจนจบ ที่สำคัญคือมีความเป็นดรามามากกว่าแอ๊กชั่น ไม่ได้มีอะไรเปรี้ยงปร้างระเบิดเถิดเทิงอย่างที่คาดเดา

และนิโคลัส เคจ ก็สรรค์สร้างแคแร็กเตอร์ของร็อบได้อย่างละเมียดละไม เหมือนอย่างที่เคยทำมาแล้วใน Leaving Las Vegas

เรารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและความสูญเสียจากอดีตที่ตามหลอกหลอนเขาอยู่และเขายังไม่ยอมปล่อยวางและเดินหน้าต่อไป

จนกระทั่ง ในที่สุดก็ถึงเวลา…

 

หลังจากดู Pig จบ มีสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนทำทันที คือ ลุกไปเปิดตู้หยิบขวด Extra Virgin Olive Oil ที่เติมกลิ่นทรัฟเฟิลดำ มาปรุงกับ Balsamic Vinegar และ Maldon Salt เป็นเดรสซิ่งคลุกเคล้าสลัดรวมผักผลไม้และถั่วนานาชนิดที่หาได้ในตู้เย็น

เป็นสลัดจานที่หอมกลิ่นทรัฟเฟิลยั่วยวนชวนใจเหลือเกิน

แล้วก็นึกขอบคุณหมูดมกลิ่นที่ไปเสาะหาทรัฟเฟิลในป่ามาเป็นเครื่องปรุงให้เราโดยไม่ต้องออกไปกินอาหารฝีมือเชฟในร้านหรูราคาแพงระยับ…