ภาพยนตร์ : LITTLE FISH ‘ปลาที่ว่ายวน’ / นพมาส แววหงส์

นพมาส แววหงส์

 

LITTLE FISH

‘ปลาที่ว่ายวน’

 

กำกับการแสดง

Chad Hartigan

นำแสดง

Olivia Cooke

Jack O’Connell

Soko

Raul Castillo

 

ถ้าเผื่อว่าเรามีเวทมนตร์และสามารถเสกปิ๊งเดียวให้ปีทั้งปีที่ผ่านมาจวบจนถึงเดี๋ยวนี้ลบหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์และจากประสบการณ์ของมนุษยชาติ…เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย หนังเรื่องนี้ก็จะต้องถูกเรียกว่า sci-fi romance หรือเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นในโลกของนิยายวิทยาศาสตร์

และในความเป็นจริง ก็ไม่ได้ผิดไปจากนั้นเสียด้วยสิ เนื่องจากเรื่องราวทั้งหมดเขียนขึ้นใน ค.ศ.2011 ในลักษณะของสมมุติฐานแบบนิยายวิทยาศาสตร์ล้วนๆ เมื่อ Aja Gabel เขียนเรื่องสั้นชื่อเดียวกันนี้เมื่อสิบปีที่แล้ว จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ก่อนหน้า ค.ศ.2020

พูดง่ายๆ ก็คือ โปรเจ็กต์หนังเรื่องนี้ไม่ได้ได้ไอเดียมาจากโรคระบาดมหากาฬที่โลกเรากำลังเผชิญหน้าอยู่นี้เลย

อย่างไรก็ตาม โรคระบาดระดับมหัพภาคในลักษณะเดียวกับไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ไปทั่วทุกมุมโลกนี้เป็นฉากหลังของเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Little Fish

เพียงแต่ว่าโรคระบาดที่เกิดขึ้นในหนังไม่ได้เข้าสู่ระบบของร่างกายโดยโจมตีที่ปอดเป็นสำคัญเหมือนอย่างโคโรนาไวรัส แต่โรคที่แพร่ไปทั่วโลกจนกลายเป็นวิกฤตการณ์ระดับมหัพภาคนี้โจมตีมนุษย์ที่ระบบประสาทในสมอง

โรคนี้มีชื่อเรียกในหนังว่า NIA หรือ Neuroinflammatory Affliction คนที่ติดเชื้อจะค่อยๆ มีอาการลืมสิ่งต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตไปเรื่อยๆ

 

โรคนี้จะเข้าไปทำลายความทรงจำ ช้าบ้างเร็วบ้างก็ไม่อาจคาดเดาอาการได้ จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง ความจำส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก็อาจหลุดหายไปจากสมอง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ หรือผู้คน

อาทิ อยู่ดีๆ คนขับรถเมล์ก็หยุดรถกลางถนนและเดินลงจากรถไปอย่างงุนงง ไม่รู้ว่าตัวเองมาทำอะไรอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางความงุนงงของผู้โดยสารทั้งคัน

นักวิ่งมาราธอนออกไปฝึกวิ่ง ก็วิ่งไปไม่หยุด เพราะไม่รู้ตัวว่ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรและกำลังจะไปไหน

คนขับเรือกระโดดหนีจากเรือที่กำลังแล่นอยู่ เพราะคิดว่าตัวเองขับเรือไม่เป็น

สุนัขจรจัดจำนวนมากที่ยังไม่มีเจ้าของมารับตัวเพราะอาจไม่มีความจำแล้ว ต้องถูกฉีดยาให้พ้นทุกข์ไป

นักดนตรีเล่นกีตาร์อยู่ดีๆ เกิดลืมโน้ต นึกอะไรไม่ออก จนต้องไปสักโน้ตเพลงลงบนท่อนแขน

สามีตื่นขึ้นมาเห็นภรรยายอยู่ข้างตัว นึกว่าคนแปลกหน้า จำเมียตัวเองไม่ได้ เลยคว้ามีดมาขู่ไม่ให้เข้ามาใกล้

ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ

 

โลกทั้งโลกที่กำลังตื่นตระหนก พยายามหาวิธีควบคุมและรักษาโรคระบาดนี้กันจ้าละหวั่น โดยยังมะงุมมะงาหราอยู่ในความมืด เป็นฉากหลังให้แก่เรื่องราวของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง

เอ็มมา (โอลิเวีย คุก) กับจู๊ด (แจ็ก โอคอนเนล) เพิ่งพบรักกันไม่นานนัก จู๊ดขอแต่งงานกับเอ็มมาในร้านขายสัตว์เลี้ยง ท่ามกลางตู้ปลา โดยไม่มีแหวนมอบให้

เอ็มมาตอบตกลงและบอกให้เขาซื้อปลาให้เธอแทนแหวน

และทั้งสองต่างไปสักปลาตัวน้อยที่ข้อเท้าเพื่อเป็นสักขีพยานความรัก

จู๊ดเริ่มติดเชื้อและมีอาการลืมขึ้นก่อน ไม่ว่าจะเป็นการพบกันครั้งแรก พิธีแต่งงาน สีเสื้อของเจ้าสาว สถานที่ที่คุ้นเคย ฯลฯ

จนกลายเป็นคำคมเก๋ๆ ที่นำมาใช้ในหนังตัวอย่างว่า “เราจะสร้างอนาคตได้อย่างไรในเมื่อเราต้องกลับไปสร้างอดีตขึ้นใหม่อยู่ตลอดเวลา”

นี่เป็นเรื่องราวที่ชี้ให้เห็นคุณค่าของความทรงจำ

ตัวละครรำพึงถึงสายใยที่ผูกพันมนุษย์เข้าไว้ด้วยกัน หรือว่าความรักเป็นเพียงความผูกพันที่มั่นคงอยู่ด้วยความทรงจำที่มีร่วมกัน? ถ้าความทรงจำไม่เหลืออยู่แล้ว ความรักก็ย่อมสูญหายไปด้วย

และนั่นอาจเป็นสัจธรรมของชีวิตในประสบการณ์ของมนุษย์เราตามปกติอยู่แล้ว

ในแง่นี้ สมมุติฐานของหนังก็เป็นตัวเร่งเราให้เห็นสัจธรรมชัดเจนขึ้น

 

หนังมีตอนจบที่ลงตัวสวยงามมาก ซึ่งต้องทำให้ต้องตั้งคำถามถึงความหมายทั้งหมด ซึ่งถ้านำมาเขียนอย่างละเอียดก็จะเป็นสปอยเลอร์ไปนะคะ

และเช่นเคย เมื่อทราบที่มาของหนังว่าเป็นเรื่องสั้น จึงต้องไปค้นมาอ่าน ซึ่งก็ทำได้ง่าย เพราะเป็นเรื่องสั้นที่สามารถหาอ่านออนไลน์ได้ทันที เป็นเรื่องที่อ่านง่าย ใช้เวลาอ่านไม่นานและให้ความรู้สึกสวยงามทีเดียว

นอกจากโครงสร้างของพล็อตที่แตกต่างกันในรายละเอียดแล้ว หัวใจของเรื่องสั้นกับภาพยนตร์ก็ไม่ได้มีนัยยะสำคัญที่แตกต่างกัน

นักแสดงหนุ่มสาวสองคนนี้แม้จะไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างเป็นที่รู้จักไปทั่ว แต่ก็มีผลงานผ่านตาผู้ชมมาพอสมควร

โอลิเวีย คุก ใช้สำเนียงอังกฤษซึ่งเป็นภาษาแม่ของเธอในหนัง ซึ่งทำให้หนังมีเสน่ห์ไปอีกแบบ และเป็นประเด็นที่ผสานเข้าไว้ในพล็อตในลักษณะที่ว่าสำเนียงแปลกๆ ของเธอทำให้จู๊ดติดใจจนต้องโทร.หาเพื่อจะได้ฟังเสียงของเธอ

ชื่อหนังอาจทำให้เกิดความสับสนนิดหน่อยกับหนังชื่อเดียวกันของปี 2005 ที่มีเคต แบลนเช็ตต์ เล่น แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นชื่อที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับเรื่องราวทั้งหมด

นอกจาก “ปลาน้อย” ในลักษณะที่เป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นตัวแทนความรักและการแต่งงานของตัวละครคู่นี้ ดังที่เล่าไว้ข้างต้นแล้ว ชื่อเรื่องยังใช้ในลักษณะอุปมาอุปไมย (ศัพท์วรรณกรรมเรียกว่า อุปลักษณ์) ที่ให้ความหมายน่าคิด

เชื่อกันว่าปลาว่ายวนอยู่ในน้ำไปมาโดยไม่ต้องคิดอะไร ไม่มีความทรงจำอะไรอยู่ในตัว แต่เจ้าของร้านปลาบอกว่า ความเชื่อแบบนั้นไม่จริงหรอก ที่จริงปลาก็มีความจำของมัน เพียงแต่ว่าความจำของมันสั้นมาก ไม่เท่าไหร่มันก็ลืม

ความจำเรียกในภาษาของพุทธศาสนาว่า “สัญญา” ซึ่งอยู่ในเบญจขันธ์ แปลว่าการจำได้หมายรู้ และเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสิ่งหนึ่งในชีวิตของเรา

 

เพิ่งจะเขียนถึง The Father ซึ่งเป็นหนังชวนคิดอย่างวาบลึกเกี่ยวกับโรคสมองเสื่อมไปหยกๆ ยังไม่ทันลืมหายไปจากความทรงจำเลย Little Fish ก็มาเตือนให้ตระหนักถึงคุณค่าของความทรงจำ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทั้งหลายมักไม่ได้นึกถึงความสำคัญ และเห็นว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา อย่างสำนวนฝรั่งที่ว่าเรา take it for granted ซึ่งตามความหมายแบบไทยๆ เราต้องเรียกว่า ประมาท

สิ่งที่เราประมาทนั้น คือสิ่งที่เราไม่ค่อยเห็นค่าในขณะที่เรายังมีมันอยู่

ต่อเมื่อสูญหายไปนั่นแหละจึงจะตระหนักว่านั่นอาจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่สร้างความหมายให้แก่ชีวิตของคนเราก็ได้

ถ้าปราศจากความทรงจำแล้ว เราก็คงเป็นเหมือนปลาที่ว่ายวนไปมาโดยไม่รู้เหนือรู้ใต้ในมหาสมุทรแห่งชีวิต