Bob Dylan ศิลปินวัยใกล้ 80 เจ้าของโนเบลวรรณกรรม : กับอัลบั้มใหม่ในรอบ8ปี Rough and Rowdy Ways

FILE - In this Jan. 12, 2012, file photo, Bob Dylan performs in Los Angeles. Dylan, who was named the winner of the 2016 Nobel Prize in literature on Oct. 13, 2016, says he “absolutely” wants to attend the Nobel Prize Award Ceremony “if it’s at all possible” in December, finally breaking his silence about earning the prestigious honor. (AP Photo/Chris Pizzello, File)

ครั้งแรกในรอบ 8 ปี บ๊อบ ดีแลน ศิลปินนักร้องนักแต่งเพลงเจ้าของรางวัลโนเบลวรรณกรรม ออกอัลบั้มที่มีเพลงใหม่ นั่นคือ Rough and Rowdy Ways

เป็นสตูดิโออัลบั้มอันดับที่ 39 ออก 19 มิถุนายน ในสังกัดโคลัมเบีย เร็กคอร์ดส์

อัลบั้มสุดท้ายที่มีผลงานใหม่คือ Tempest เมื่อปี 2012 จากนั้นดีแลนมีอัลบั้มออกมา 3 ชุด แต่เป็นการคัฟเวอร์เพลงป๊อปสแตนดาร์ด

ความเป็นนักแต่งเพลงที่โดดเด่น ทำให้ได้รางวัลโนเบลวรรณกรรมปี 2017 หรือ 2560 คณะกรรมการรางวัลโนเบลยกย่องดีแลนว่า เป็นผู้สร้างสรรค์การแสดงออกด้วยบทกวีแบบใหม่ ผ่านดนตรีอเมริกัน

แฟนเพลงของดีแลนฟังแล้วก็ต้องผงกหัวเห็นด้วยอย่างแรง

หนึ่งในเพลงของดีแลนที่ยกย่องว่าอมตะตลอดกาลคือ Blowin” in the Wind เมื่อปี 1963 ที่กล่าวถึงการกดขี่ สงคราม เป็นเสียงถามหาคุณค่าของมนุษย์ที่ดังก้องสะท้อนในโลกนี้มาหลายตลบนับเป็นหลายสิบปีมาแล้ว

หรืออีกเพลงในยุคแรกๆ คือ The Times They Are a-Changin ที่หลายศิลปินนำไปคัฟเวอร์ และไม่ต้องพูดถึงอีกหลายเพลง ซึ่งสะท้อน บอกเล่า ประท้วง และให้กำลังใจ

คนไทยเราก็ใช้เพลงของดีแลนมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพมาอย่างต่อเนื่อง

นอกเหนือจากฝีมือการเขียนเพลง ที่มีความเป็นบทกวี การเลือกประเด็น เลือกเรื่องราว และบอกเล่าเรื่องต่างๆ ได้อย่างทรงพลัง อีกจุดเด่นของดีแลนคือ เสียงร้องเอกลักษณ์ ที่บางครั้งก็เหมือนบ่น แต่ไปกันได้ดีกับซาวด์ดนตรีที่อิสระ ทั้งแนวอะคูสติกและเครื่องไฟฟ้าที่หนักแน่น ผสมผสานดนตรีอเมริกันหลายแบบ ทั้งโฟล์ก, บลูส์, คันทรี, อาร์แอนด์บี, ร็อกแอนด์โรล กอสเปล

ฟังไปฟังมา เสียงบ่นกับดนตรีสดดิบ กลายเป็นเสน่ห์เฉพาะของซาวด์แบบดีแลน

ดีแลนเป็นยิวอเมริกัน จากมินนิโซตา ชื่อจริงคือ รอเบิร์ต อัลเลน ซิมเมอร์แมน (Robert Allen Zimmerman) ชื่อดีแลนในการแสดง มาจากชื่อของกวีชาวเวลส์ ดีแลน ทอมัส

เกิด 1941 อายุครบ 79 ปีเมื่อ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง

ด้วยวัยใกล้ 80 แต่ยังแข็งแรง สะพายกีตาร์พารูปร่างผอมเพรียวเดินสายแสดง ร้อง บรรเลงได้เรื่อยๆ

สําหรับ Rough and Rowdy Ways ชุดนี้ มีซิงเกิลออกมาแล้ว ได้แก่ Murder Most Foul, I Contain Multitudes และ False Prophet

หลายคนคงฟัง Murder Most Foul บัลลาดยาว 16 นาที 56 วินาที ที่ออกเผยแพร่มาก่อนแล้ว ยาวสุดเท่าที่ดีแลนเคยทำ อันดับสองคือ Highlands ความยาว 16 นาทีกับ 31 วินาที

จุดเด่นคือ เป็นดับเบิลดิสก์ ดิสก์สองเป็นเรื่องราวของ Murder Most Foul ซึ่งเนื้อหาเพลงว่าด้วยการลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ หรือเจเอฟเค ชื่อเพลงมาจากละครแฮมเล็ต ของเช็กสเปียร์

ดีแลนร้องเพลงนี้ตามวิธีการของตนเอง เปิดด้วยฉาก dark day in Dallas, November “63 ก่อนไหลเรื่อยไปกับเสียงเปียโน ท่วงทำนองเรียบๆ เสียงไวโอลินที่พลิ้วหวานเศร้าเข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศให้เพลง อารมณ์บางตอนของเพลง นักวิจารณ์บอกว่าทำให้นึกถึง American Pie ของดอน แม็กลีน

ในเพลงนี้ ดีแลนเขียนถึงศิลปินดังๆ อย่าง ดิ อีเกิลส์ ฟลีตวู้ด แม็ก, ชาร์ลี ปาร์กเกอร์, ดิกกี้ เบตส์ และอ้างอิงเนื้อเพลงเก่าๆ ของตัวเอง

สําหรับอัลบั้มนี้ เต็มไปด้วยเพลงยาวๆ ความยาวจาก 4 นาทีเศษๆ ไปที่ 6 นาทีเศษ 7 นาทีเศษ และ 9 นาทีกว่าๆ เริ่มจาก I Contain Multitudes, False Prophet, My Own Version of You, I”ve Made Up My Mind to Give Myself to You, Black Rider, Goodbye Jimmy Reed, Mother of Muses, Crossing the Rubicon, Key West (Philosopher Pirate) และ Murder Most Foul

ในวัยเกือบ 80 ดูเหมือนดีแลนตกผลึกลงตัวกับการเล่าเรื่องและการใช้เสียงดนตรีมาสื่อสารกับคนฟังไปแล้ว

ผลงานชุดนี้ เข้าทางคอเพลงที่นิยมทั้งซาวด์ดนตรีแบบอาร์ต และเนื้อหาสาระของเสียงเพลงที่มีประเด็นทางสังคม การเมือง วัฒนธรรม ให้ขบคิดตีความกันไปด้วย