คุยกับ “ลูกสาวเท่ง เถิดเทิง” พลอย มงกุฎเพชร ผู้มีความฝัน

อายุเพิ่งจะ 17 ปี แต่พลอย-มงกุฎเพชร พงษ์สุวรรณ ก็ตัดสินใจแล้วว่า จะก้าวตามความฝันที่จะเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง

แต่เดี๋ยวก่อน ที่พูดอย่างนี้ เธอไม่ได้หมายความว่าจะตามรอยพ่อเป๊ะๆ ไม่ได้จะมาเป็นตลกอย่างเท่ง เถิดเทิง-พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ หรอกนะ

เพราะ “อันนี้ไม่น่าได้” ว่าแล้วเจ้าตัวก็หัวเราะเสียงใส

พลอยซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กของดาราตลกชื่อดัง บอกว่า เธอเพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และวางแพลนว่าพร้อมๆ กับการเรียนต่อมหาวิทยาลัย เธอตั้งใจจะเทกคอร์สเรียนการแสดงไปพร้อมๆ กัน เป็นการ “กลับไปเรียนเพิ่ม” หลังจากที่เคยเรียนมาตั้งแต่ครั้งยังเด็ก แบบเรียนบ้างยามที่ว่าง และหยุดบ้าง ตอนภารกิจการเรียนหลักในโรงเรียนรัดตัว

“พลอยอยากเป็นนักแสดง แต่รู้ว่าตัวเองยังไม่พร้อมเท่าไหร่ ตอนนี้เลยอยากจะเตรียมตัว”

เพื่อว่าเมื่อโอกาสมา จะได้คว้าไว้ และทำให้เต็มที่

กับงานที่คิดจะทำ ทางบ้านก็ไม่ได้ว่าอะไร-พลอยเล่า

อาจเพราะเห็นว่านี่เป็นทางที่เธอชอบ งานที่เธอสนใจ

สนใจถึงขั้นลองๆ แหย่ขาทำงานมาตั้งแต่เมื่ออายุราวๆ 12-13 ปี ตอนที่เพิ่งเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

“เป็นวีเจออนไลน์ค่ะ”

“ตอนนั้นมีคนชวนเข้าไป พลอยก็ลอง”

“หน้าที่ของเราคือนั่งพูดคุย เอ็นเตอร์เทนยูสเซอร์ที่เข้ามาในแอพพ์ของ Nimo TV”

“ช่วงนั้นยังไม่มีวีเจมากเหมือนช่วงนี้ พอทำแล้วก็รู้สึกชอบ ก็เลยทำเหมือนเป็นงานอดิเรกเลยค่ะ”

นั่นคือว่างก็ทำ ไม่ว่างก็หยุด

“คุณพ่อก็สนับสนุนดี เพราะมันไม่มีเกี่ยวกับโป๊หรืออะไร”

“เงินเดือนก็ขึ้นอยู่กับว่าเราทำได้แค่ไหน แล้วพอได้เงินมาก็สะสมไว้ หรือเอาไปซื้อของบางอย่างที่เราอยากได้”

กับงานดังกล่าว จากที่เคยเป็นงานอดิเรก ณ ตอนนี้ พลอยหวนกลับมาทำแบบเต็มตัว ซึ่งสำหรับผู้สนใจสามารถเข้าไปพบกับเธอได้ทุกวันตั้งแต่เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่ม

“พลอยจะพูดคุย หรือบางทีก็ร้องเพลงให้ฟัง”

เมื่อถามว่า กับการเตรียมตัวเพื่อจะก้าวเข้าวงการอย่างจริงจังนั้น พ่อแนะนำอะไรให้บ้าง?

พลอยตอบทันควัน “จริงๆ เขาไม่ค่อยคุยเรื่องเข้าวงการให้ฟังเท่าไหร่ คือเขาก็สนับสนุนนะคะ เขาก็อยากให้ทำงาน หาเงิน แล้วก็เห็นว่าเราชอบ แต่เวลาคุยเขาจะบอกตลอดว่า ทำงานในวงการมันมีหลายอย่าง ต้องปรับเยอะเลย”

ยกตัวอย่างก็เช่น เรื่องการวางตัว และการแต่งตัว เป็นต้น

“การวางตัว คือประมาณว่าเวลาเข้าไปทำงานในวงการ ไม่ว่าจะเป็นใครที่เราทำงานด้วย ก็ต้องเคารพเขา ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเพื่อน เป็นพี่ หรือรุ่นน้อง ก็ควรจะเคารพเขา”

“แล้วก็ต้องตรงต่อเวลา”

“อีกอย่างคือการแต่งตัว จริงๆ พอเราโตขึ้น เขาก็ไม่ว่าอะไรแล้ว เพราะเขารู้ว่าเราเป็นคนชอบแต่งตัว แต่จะคอยบอกตลอด เวลาออกไปไหน ว่ามันเหมาะกับการแต่งตัวอย่างนั้นหรือเปล่า”

กับการเป็น “ลูกสาวเท่ง” พลอยบอกว่า แน่นอนที่อาจมีคนทั่วไปรู้จัก แต่กระนั้น นั่นก็ไม่ใช่ใบเบิกทางที่จะก้าวผ่านประตูของความเป็นดารา

“พลอยว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับการได้เปรียบ เสียเปรียบ หรือได้โอกาสอะไร เพราะถ้าพลอยไม่ฝึก คุณพ่อก็ไม่สามารถฝากพลอยได้ ทั้งๆ ที่พลอยไม่มีความสามารถ”

หรือต่อให้มีความสามารถ ดูทรงแล้ว เธอคิดว่า ก็ไม่น่าจะได้รับการฝากฝัง คาดการณ์แล้วก็หัวเราะอีก

“คุณพ่อไม่ได้จะให้ลูกเข้าวงการเลย เขาไม่ใช่แบบนั้น แต่ถ้าลูกอยากเข้า เขาจะสนับสนุน แล้วก็คอยบอก คอยเตือน”

“แต่ไม่เคยพาไปฝากที่ไหน นอกจากมีคนติดต่อมาให้ไปออกรายการ อย่างนั้นก็มีบ้าง”

ตัวเธอเองก็เห็นดีด้วยกับ “การไม่ฝาก” นั้น

“ไม่ ไม่ ไม่อยู่แล้วค่ะ” บอกรัวๆ

“พลอยไม่อยากเป็นอย่างนั้น เพราะหนึ่งเลยคือต้องเป็นความสามารถของพลอยด้วย ถ้าจะเข้าไป”

“ไม่อยากเข้าไปเพราะโดนฝาก”

บอกอย่างชัดเจน

หมายเหตุ : ภาพเดี่ยวจาก @ploypabloya ส่วนภาพคู่กับเท่งจาก @teng_mala