รีวิว ‘บัลลังก์เมฆthemusical2019’ ความเป็นแม่ของ ‘แพท สุธาสินี’ ที่สะเทือนอารมณ์! เพลงเพราะ เคมีนักแสดงสุด!

ทันทีที่ ชม #บัลลังก์เมฆthemusical2019  จบ ก็อาจจะกล่าวได้ว่า “แพท สุธาสินี” เกิดมาเพื่อ “ละครเวทีมิวสิคัล” จริงๆ สมกับการรอคอย ให้หายคิดถึง หลังจากที่แพทห่างเวที การเล่นใหญ่รัชดาลัยไป9ปี!!
มาวันนี้ เธอมารับบท “ปานรุ้ง” ที่สินจัยเคยเล่นเอาไว้กว่าร้อยรอบ ในยุค2019ต้องบอกว่าแพทเอาอยู่จริงๆ สมกับการที่แพทไปรับบทแม่ในชีวิตจริงๆมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากท้ายๆที่สื่อถึงอารมณ์ จวนจะขาดใจ คิดว่าคงต้องบรรจุไว้เป็นซีนที่จะจำของรัชดาลัยไปอีกนาน

การเล่าเรื่องของเวอรชั่นนี้ในช่วงต้นจะเน้นความกระชับ เล่าเร็ว ผ่านตัวละครลูกๆต่างจากในอดีตที่เน้นไปที่หมู่มวล ต้องบอกว่า “บทปานรุ้ง2019” ในซีนแรกๆถือว่าเล่นได้ก๊ากั่น ดูเจ้าชู้ ดูแพงได้ดี เลอค่า ซึ่งตลอดทั้งเรื่องทั้งหมดทั้งบทที่แพทต้องแบกตัวละครตัวนี้ไว้ คิดว่าลืมภาพของ “นก สินจัย” ที่เคยแสดงไปเลย เหมือนการมามาตีความใหม่ๆทำให้มีความทันสมัย เหมือนกันเป็นอีกเรื่องคนละแนวละแบบ สมกับที่ ผู้สร้างและผู้กำกับ “บอย ถกลเกียรติ” กล่าวเอาไว้ว่านี่ไม่ใช่การรีสเตจ แต่เป็นการตีความใหม่ ฉากใหม่ มีเพลงใหม่(หลายเพลง) แม้ว่าคนที่เคยดูปี2550แบบเราๆก็อาจจะจำเพลงเด่นๆได้หรือ อาจเดาเรื่องเดาเนื้อหาได้บ้าง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะความโดดเด่นครั้งนี้อยู่ที่ความลง ของตัวเคมีใหม่ๆที่สุดประการหนึ่ง คือ การคัดเลือกนักแสดงลงตัวในทุกๆบทบาท ทั้งการเอา ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง กับ ชิน ชินวุฒิ มาเป็นพ่อลูกกัน แถมมีการใส่ฉากเท้าไฟเข้าไปอันเป็นเอกลักษณ์ของสองนักร้องสายเต้นสองรุ่นนี้อย่างดี(มากๆ)

ตั้ม วราวุธ ในบทปรก (ลูกชังของแม่) ก็พยายามใส่ความฮาอัน ใส่ความเป็นตัวของตั้มเองลงไป จากในอดีตคือบทของคนที่น่าสงสารถูกเมินถูกลืม แต่การที่ผู้จัดพยายามใส่ความเป็นตัวขอตัวเองผสนผสานกับบทบาทก็ทำให้คนดูอย่างเราๆ “รู้สึกใหม่ๆ” ได้
.
เพชรเม็ดงามของรัชดาลัยที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือ น้องพินต้า และน้องตะวันพันวา สองคนนี้คือทำให้หูของเราคุ้มค่ามากๆ ทั้งสองล้วนเสียงดี กังวาล การแสดงก็เล่นใหญ่ได้สมรัชดาลัย มีความโดดเด่นในแบบฉบับแต่ละคนอย่างลงตัว ที่สำคัญชอบการดีไซน์ฉากฝนตกของปกรณ์กับรินทร์ คือเป็นทั้งเพลงใหม่และเพราะมากสื่อความหมายได้ดี

เซอร์ไพร์ส ที่สุดคือ ‘ชาย ชาตโยดม‘ เล่นดีมาก (ไม่ต้องห่วง) ที่สำคัญการร้องของคุณชายก็ไปได้สวยด้วย นี่นึกแล้วยังเสียดายเลยที่พลาดโอกาสไม่ได้ดูชาตโยดม รับบทนำบทหนักเล่นลอดลายมังกรเมื่อปีก่อนๆ


ขณะที่ บทคมขวัญ (แม่ปานรุ้ง) ที่ได้ ตู่ นันทิดา มาแสดงแม้ว่าจะออกมาสั้นไปนิด (แต่ช่วงแรกคืออยู่ในทุกฉาก) ต้องบอกว่าการให้นันทิดามาเป็นแม่ของแพท ถือว่าเป็นการเลือกที่ลงตัว ด้วยความผูกพันของสองคนนี้ที่มีมาอย่างยาวนาน (หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่า เต๋อ เรวัติ คือผู้ชักชวนและทำอัลบั้มให้นันทิดาเมื่อครั้งก่อตั้งแกรมมี่) ทำให้เห็นภาพของความผูกพันได้ชัดขึ้น ที่สำคัญชอบเสียงร้องตู่มาก เวลาใช้เสียงร้องเสียงเบาๆสื่ออารมณ์ได้ดีมากๆ (หากจะเปรียบถ้าเป็นในคอนเสิร์ตแกก็ฟิลเพลงควันไฟที่สื่ออารมณ์)


ภาพรวมที่ประทับใจนอกจากเคมีนักแสดง และเพลง รวมถึงการเล่าเรื่องกระชับแล้ว คงจะเป็นเรื่องของชุดคอสตูมก็ดี โดยเฉพาะของปานรุ้งคือโดดเด่น (และแอบงงว่าเอาเวลาที่ไหนไปเปลี่ยนไม่กี่วินาทีได้เร็วมาก) ในขณะที่ฉากแสงสีองค์ประกอบเหล่านี้ก็โมเดิร์น สวยงามเข้ายุคสมัย ใครที่คิดว่าเขาจะเอาฉากเก่าๆมาใช้โปรดคิดใหม่ ในฐานะที่ดูเวอร์ชั่นเก่ามาแล้ว ต้องบอกว่าใหม่ โดดเด่นและไม่ซ้ำทาง

สรุปภาพรวมๆคือ ถือว่าดี คุ้มค่า แค่มาดูนักแสดงแคสนี้ก็สุดแล้ว ลงตัวทั้งร้อง เล่น เต้น สื่ออารมณ์คือทุกคนมีของกันหมด แต่ถ้าถามว่าคนไม่เคยดูมาก่อนก็อาจจะมีงงๆในการเล่าเรื่องเร็วไปบ้างในช่วงแรกๆองก์แรก แต่ช่วงสองคือเข้มข้นมากทุกวินาที!

ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเพียงหนึ่งเสียงเล็กๆจากคนชอบดูละครเวที ซึ่งละครเวทีเดอะมิสิคัลจะมีต่อไปไม่ได้ เกิดขึ้นหรือจะอยู่ไม่ได้เลย ถ้าไม่มี “คนดู” อย่างที่ผู้สร้างพูดอยู่เสมอทุกครั้ง ก็ได้แต่หวังว่าอุตสาหกรรมบันเทิงนี้ในบ้านเราจะคึกตักและได้รับการสนับสนุน