#รีวิวหนัง + เกร็ด X-Men: Dark Phoenix
.
สำหรับแฟนๆ “X-MEN คงต้องไม่พลาด DARK PHOENIX – X-เม็น ดาร์ก ฟีนิกซ์” ซึ่งจะถ่ายทอดเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของจีน เกรย์ จากมนุษย์กลายพันธุ์ผู้มีพรสวรรค์สู่การเป็นผู้ที่มีพลังสูงสุดในจักรวาล จุดสูงสุดของตำนานซูเปอร์ฮีโร่ที่มีการสร้างขึ้นมา
.
ซึ่งต้องบอกว่า “จีน เกรย์” มีความฟาด(สูงมาก) จนในใจนึกอยากให้ไปปะทะกับจักรวาลอื่นๆที่มีผู้หญิงเป็นแกนนำเหมือนกัน คือ มีคนบอกว่า ข้ามไปหาธานอสได้นี่ก็คงสมน้ำสมเนื้ออะไรประมาณนั้น เพราะว่าพลังของเธอยากที่มีใครต้านทาน

แต่ด้วยความที่ภาคนี้มีความดราม่ามาปนหน่อยๆ ฉากแอ๊คชั่นหรือบู๊ระเบิดภูเขาเผากระท่อมยังคงมี แต่ว่า น้ำหนักส่วนนึงจะไปตกอยู่กับ เรื่องจิต เรื่องดราม่า เรื่องอดีตอะไรทำนองนั้นสูง
.
ส่วนเกร็ดที่หลายๆคนที่เป็นแฟนๆอาจจะไม่ทราบมาก่อนว่า ภาคนี้ “ไซมอน คินเบิร์ก” รับหน้าที่เป็นผู้กำกับครั้งแรก หลังจากดูแลแฟรนไชส์ X-เม็น ในฐานะโปรดิวเซอร์มาอย่างยาวนาน ซึ่งเจ้าตัวใช้เวลากว่า 3 ปีเพื่อสร้างให้ดาร์ก ฟีนิกซ์เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และต้องการโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ของทีม X-เม็น มากกว่าฉากบู๊สนั่นทำลายเมือง
.
ประการต่อมา ตำนานของดาร์ก ฟีนิกซ์เป็นที่นิยมมากที่สุดในซีรีส์ X-เม็น เพราะเนื้อเรื่องลึกซึ้ง ไม่ได้มีเพียงแค่เหล่าฮีโร่และวายร้ายปะทะกัน
.
ที่สำคัญ “จีน เกรย์” เป็นตัวละครไม่กี่ตัวที่ไม่ใช่ทั้งดำและขาว แต่เป็นสีเทา ซึ่งตรงกับชีวิตจริงของใครหลายคนทำให้ผู้คนรักเธอได้ เจ้าตัวเองก็ไปศึกษาเรื่องโรคจิตเภท และอาการบุคลิกหลากหลายเพื่อรับบท “จีน เกรย์” นี้

ประเด็นจิ้นๆในกองถ่ายหลายคนไม่ทราบ “ไซมอน คินเบิร์ก” และเจสสิกา แชสเทนสนิทกันมากหลังร่วมงานใน The Martian ทำให้ ผกก.ไซมอนเขียนบทตัวละครใหม่นี้ขึ้นมาเพื่อเธอโดยเพาะ!
.
ซึ่งเรื่องนี้ใช้เวลาถ่ายทำ 6 เดือนโดยเริ่มตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2017 ณ ประเทศแคนาดา โดยมีการนำเฮลิคอปเตอร์น้ำหนักกว่า 4,000 ปอนด์ มาใช้ประกอบฉากโดยใช้สายเคเบิลและเครนยกไว้เพื่อความสมจริงมากที่สุด!

หนังเข้าแล้ววันนี้จ้า!
#XMEN