เครื่องเคียงข้างจอ / วัชระ แวววุฒินันท์/โลกเสมือน

วัชระ แวววุฒินันท์

เครื่องเคียงข้างจอ/วัชระ แวววุฒินันท์

 

โลกเสมือน

 

วันก่อนผมได้รับชวนจาก หนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ แห่งบริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นกระบี่มือหนึ่งในเรื่องของโลกออนไลน์และไอที ให้ไปชมงาน “Thailand  Game Show 2018” ที่เขาจัดขึ้น

เรื่องราวความสัมพันธ์ของหนุ่ยกับเจ เอส แอลนั้นมีมาตั้งแต่เมื่อ 24 ปีที่แล้ว เมื่อเขาได้เข้ามาแข่งขันในรายการ “ตัวต่อตัว” ของเจ เอส แอล เป็นรายการที่ถ้าจะว่าไปแล้วก็คือ Thailand  got  talents ในสมัยนั้น คือใครมีความสามารถทางด้านไหนก็งัดเอามาโชว์กันได้

และหนุ่ยก็เอาความสามารถทางด้าน “การพูด”  มาแข่งขัน

ยังจำได้ถึงภาพเด็กหนุ่มน้อยวัย 16 ปี แต่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจที่ไม่เกินตัวจนน่าหมั่นไส้ ที่ก้าวขึ้นเวทีและทำการ “เดี่ยวไมโครโฟน” มัดใจกรรมการจนผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ

ซึ่งเขาก็คว้าตำแหน่งแชมป์ไปได้ พร้อมรับเงินรางวัล 1 ล้านบาท

1 ล้านบาทในสมัยเมื่อ 24  ปีก่อนนี่มากโขอยู่ คงราวๆ น้องๆ 10 ล้านของสมัยนี้ทีเดียว

หนุ่ยเอาเงิน 1 ล้านไปสร้างเนื้อสร้างตัว โดยเฉพาะในแอเรียของโลกไอทีที่เขาสนใจ จนเติบใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ และได้จัดงานใหญ่ที่ชื่อ “Thailand Game Show” นี้มา 12 ปีแล้ว

เมื่อเขาได้มีโอกาสครั้งใดทั้งในที่ลับและที่แจ้ง เขาจะเอ่ยถึงเรื่องเจ เอส แอล เป็นคนสร้างชีวิตให้เขาอยู่เสมอ

นั่นคือน้องที่ชื่อ “หนุ่ย”

 

ในงาน “Thailand Game Show 2018” ที่ผมไปเยี่ยมชมนั้นจัดขึ้นที่พารากอนฮอลล์เต็มพื้นที่ เขายังบอกว่ายังมีการขยายพื้นที่ไปในส่วนอื่นเพิ่มด้วยเหมือนกัน เพราะพื้นที่มันแน่นจริงๆ

นั่นแสดงถึงความสำเร็จของงาน

หนุ่ยได้เล่าให้ฟังว่า งานจัดมา 12 ปีแล้ว ค่อยๆ สร้างการรู้จัก การยอมรับ การเชื่อใจ จนในปีหลังๆ พอเปิดผังพื้นที่ก็จะได้รับการจับจองจนเต็มอย่างรวดเร็ว

ในปีนี้ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะกระแสของโลกนั้นได้ผูกพันกับโลกไอทีและออนไลน์อย่างแยกกันไม่ออก ใครๆ ก็ไม่อยากตกขบวน ใครจับความนิยมด้านนี้ได้ ก็จะจับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ได้ไม่ยาก

ในงานจึงเห็นบูธของสินค้าที่ไม่ใช่ด้านไอทีและเกมออนไลน์โดยตรงมาร่วมด้วย โดยได้สร้างโปรดักต์ออกมาเฉพาะกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่

และที่โดดเด่นคือการที่ facebook มาร่วมออกงานด้วย โดยจัดเป็น facebook gaming ดึงดูดความสนใจจากผู้ร่วมงานได้ไม่น้อย

บรรยากาศในงาน เป็นเหมือนอีกโลกหนึ่งที่คนรุ่นพ่อ-แม่คงไม่คุ้นเคยแน่ๆ และนึกไม่ออกว่าเป็นยังไง จะสนุกยังไง เห็นตัวการ์ตูนหรือแคแร็กเตอร์ต่างๆ กระโดดผลุงๆ ต่อสู้กันน่าเวียนหัว เกมบางรายนั้นออกแบบได้ดี ตัวแคแร็กเตอร์เหมือนมีชีวิต ภาพแบ๊กกราวด์ก็สวยงามเหมือนโลกที่มีอยู่จริงๆ

จนราวกับว่าภาพและเสียงที่เราเห็นอยู่นั้นมันมีชีวิตจริงๆ

คนที่เล่นก็เล่นกันอย่างจริงจัง เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกสมมุตินั้นจริงๆ

 

สมัยก่อนเราอาจจะเคยดูภาพยนตร์แนวแฟนตาซีหรือไซไฟ เป็นเรื่องราวของโลกอนาคตที่เห็นมนุษย์มีชีวิตจริงอยู่กับโลกสมมุติต่างๆ หรืออยู่กับหุ่นยนต์ที่ทำอะไรได้เหมือนคน

เป็นแบบ “โลกเสมือนจริง” อย่างนั้น

พอมาถึงวันนี้ ก็เริ่มเห็นตามอย่างในหนังนั่นเลย ที่คนเราสัมผัสผูกพันกับโลกเสมือนจริง และมีความสุขไปกับโลกเสมือนจริงนั้นแบบฝังลึก

บางคนไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์สักเท่าไหร่ แต่หลบไปมีความสุขกับโลกเสมือนจริงพวกนี้ บางคนไม่มีเพื่อนที่โรงเรียน แต่เล่นเกมออนไลน์จนมีเพื่อนกระจายอยู่ตามมุมโลกต่างๆ ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก แต่เป็นเพื่อนทางโลกออนไลน์กันได้แบบแน่นแฟ้น

เรากำลังอยู่ในโลกที่เหมือนหลอก แต่ก็เป็นจริง

เพราะสำหรับบางคน โลกที่เป็นจริงกลับหลอกให้เราเจ็บปวดกว่าเสียอีก

ในงานจะเห็นเด็กหนุ่ม-สาวแต่งตัวเป็นแคแร็กเตอร์ต่างๆ หรือที่เรียกกันว่า “คอสเพลย์” เดินปะปนอวดโฉมกันอยู่ทั่วงาน ดูท่าทางว่าจะมีความสุขที่ได้แปลงตัวเป็น “คนเสมือน” กันถ้วนทั่ว

นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการหลบจากโลกความจริงมาเป็นโลกเสมือน

 

ตอนอยู่ในงานเป็นตัวละครฮีโร่ที่เก่งกาจทั้งหลาย พอกลับไปบ้าน ถอดชุดออกก็กลายเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ต้องนั่งลงซักผ้า รีดผ้า ถูบ้าน ทิ้งอาวุธวิเศษทั้งหลายแล้วหยิบตะหลิวมาช่วยแม่ทำอาหาร

โลกทุกวันนี้จึงปนเปกันไปมาระหว่าง 2 โลกที่ว่า

เลยทำให้ผมนึกไปถึงหนังไทยเรื่องหนึ่งที่เพิ่งได้ไปชมมา นั่นคือเรื่อง “Homestay” ของค่าย GDH ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้สัปดาห์กว่าๆ และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชม

เรื่อง “Homestay” นี้ เป็นเรื่องชีวิตหลังความตาย เมื่อวิญญาณดวงหนึ่งที่เร่ร่อนพเนจร ได้มีโอกาสมาเกิดใหม่ในร่างของ “มิน” ที่เพิ่งจบชีวิตลงจากการฆ่าตัวตาย

บอกก่อนว่าผมจะไม่เล่าอะไรมาก เพราะเดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์หนังไป

แต่ที่หยิบมาเขียนต่อจากเรื่องข้างต้น เพราะหนังเรื่องนี้ก็เล่นกับโลกที่เป็นจริงและโลกเสมือนเช่นกัน เป็นจริงที่ว่าร่างนั้นได้ตายไปแล้ว และเสมือนก็ตรงที่ว่าวิญญาณนั้นได้มามีชีวิตแบบสมมุติอีกครั้ง เป็นการใช้ร่างชั่วคราวตามชื่อ “Homestay” นั่นเอง

วิญญาณนั้นมีความรู้สึกกับชีวิตสมมุติที่พานพบในหลากอารมณ์

มีทั้งเรื่องที่ “บัดซบ” เหลือเกินที่ได้เจอกับตนเอง และเรื่องที่ “ชูใจ” หนักหนาจนวิญญาณนั้นรู้สึกดีจังที่ได้มาเป็น “มิน”

โจทย์ของตัวละครเอกนี้คือ ต้องหาให้ได้ว่าใครเป็นคนทำให้มินต้องฆ่าตัวตาย โดยมีเวลาแค่ 100 วัน หากตอบผิดวิญญาณนั้นก็จะไม่ได้ไปผุดไปเกิดอีกเลย

โลกเสมือนต้องค้นหาต้นเหตุจากโลกจริง ยิ่งค้นเข้าไปก็ยิ่งพบเจอความระยำตำบอนต่างๆ

บางทีการมีชีวิตแบบโลกเสมือนก็อาจจะมีความสุข ความพอใจกว่า

 

แต่ในที่สุด ธรรมชาติของโลกก็ไม่อนุญาตให้คนเราไม่อยู่กับความเป็นจริงได้ เพราะทุกคนล้วนหนีความจริงไปไม่พ้น

เราจึงควรเรียนรู้ที่จะจัดระเบียบตัวเอง ให้อยู่ทั้งกับโลกจริงและโลกเสมือนให้สมดุล อยู่แบบให้เรามีความสุขที่สุด

อ้อ!  ลืมเล่าไปว่า สำหรับงาน “Thailand Game Show 2018” นั้น มีสิ่งหนึ่งที่ประกาศได้เต็มปากว่าสำเร็จ คือการที่นายกฯ ตู่ยินดีมาเป็นประธานเปิดงานในวันแรกด้วย ซึ่งจากปีก่อนๆ ที่จัดมา หนุ่ยก็ได้พยายามเชิญท่านนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นมาเป็นประธานเปิดงาน เพื่อท่านจะได้เข้าใจรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก และเข้าใจถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับงานนี้ แต่ไม่เคยมีนายกฯ คนไหนมาร่วมสักที

ครั้งนี้นับว่าได้รับเกียรติอย่างมากที่นายกฯ ตู่จัดเวลามาให้ ไม่รู้ว่าท่านเห็นความสำคัญของงานนี้แบบใด เห็นว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีและบันเทิงที่สามารถสร้างชื่อเสียงและรายได้ให้กับประเทศไทยได้ หากได้รับการสนับสนุนที่ดีพอ

หรือเห็นว่าเยาวชนผู้มาเที่ยวงานนี้สามารถเป็นฐานเสียงของคนรุ่นใหม่ที่ส่งผลต่อท่านได้

อันนี้อาจจะเป็น Hidden Agenda ของท่านก็ได้ ใครจะรู้

 

อยากจะบอกท่านว่า โลกของการเมืองการปกครองประเทศที่ท่านสัมผัสอยู่วันนี้ จริงๆ แล้วอาจจะเป็นแค่โลกเสมือนที่ทำให้ท่านมีความสุขก็ได้

หากเมื่อใดที่ท่านกระโดดลงทำงานการเมืองอย่างเต็มตัวตามระบอบประชาธิปไตยจริงๆ แล้ว ท่านอาจจะได้เจอกับโลกแห่งความเป็นจริงที่แสนบัดซบและทำร้ายท่านได้อย่างสาหัสก็ได้

เพราะอาวุธวิเศษทั้งหลายที่เคยมีอย่าง ม.44 หรืออย่างอำนาจของหัวหน้าคณะ คสช. หรืออย่างเกราะคุ้มกันจากบริวารทั้งหลาย ท่านต้องจำวางมันลง และกระโดดเข้าต่อสู้ด้วยมือเปล่า ที่ใครๆ ที่เป็นศัตรูของท่านก็พร้อมจะ delete ท่านออกจากเกม

สุดท้ายโลกแห่งความเป็นจริงนั้นจะออกผลเป็นเช่นไร ท่านก็ต้องยอมรับ เข้าใจ และอย่าไปโมโหมันมากนะครับท่าน…ผมขอร้อง เดี๋ยวความดันจะขึ้น ฮิฮิ