“เพื่อชาติ” อ้อนชาวลำพูนขอคะแนน “ยงยุทธ” ย้ำเลือกตั้งครั้งนี้ มีเพียง “ประชาธิปไตย หรือ “เผด็จการ”

เมื่อเย็นวานนี้ ( 27 กุมภาพันธ์ 2562) นายยงยุทธ ติยะไพรัช ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ พร้อมด้วยนายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ, นายศักดา นพสิทธิ์ รองเลขาธิการพรรค, นายธีรพงษ์ เผ่ากา รองโฆษกพรรค, นางสาวชุติมา กุมาร ประธานสาขาภาคเหนือพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่หาเสียงช่วย นายนิติธร บุตรดา เบอร์ 12 ผู้สมัครพรรคเพื่อชาติ เขต 1 อ.บ้านธิ อ.แม่ทา อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน พบปะประชาชน ณ ลานกิจกรรมสวนน้ำเดอะซัน

บรรยากาศในช่วงเย็นวานนี้นายธีรพงษ์ เผ่ากา รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ ได้เริ่มเปิดการปราศรัยหาเสียงให้กับ นายนิธิธร บุตรดา ผู้รับสมัครรับเลือกตั้ง เขต 1 ต่อชาวลำพูน โดยมีชาวบ้านกว่า 10,000 คน ร่วมฟังปราศรัยอย่างเนืองแน่น

นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ได้กล่าวแนะนำผู้สมัครที่มานั่งบนเวทีว่ามี นายทักษิณจากพะเยา 2 คน และนายทักษิณจากลำพูน 1 คน โดยกล่าวแนะนำการก่อกำเนิดพรรคเพื่อชาติว่ามาจากการต้องการความยุติธรรมที่เท่าเทียม และต้องการคนที่มีความสามารถทำงานจริงเพื่อความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมือง เช่นเดียวกับคนเสื้อแดง คนลำพูนร้อยคนเก้าสิบคนเป็นเสื้อแดง คนเสื้อแดงมีจุดยืน 2 อย่างคือชอบความยุติธรรมที่เท่าเทียมและชอบคนมีความสามารถทำงานให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าจริง ไม่ชอบคนพูดเป็นอย่างเดียวเช่นนายสุเทพ

นายยงยุทธ ติยะไพรัช ผู้ช่วยผู้หาเสียงพรรคเพื่อชาติ ได้กล่าวถึงประเด็นความไม่เหมาะสมของนายกตู่ ที่จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งหนึ่ง เป็นเสมือนการสืบทอดอำนาจ โดยให้รัฐมนตรีลาออกไปตั้งพรรคการเมืองเพื่อรอรับการสืบทอดอำนาจไว้ก่อน โดยเอาเปรียบผู้เข้าแข่งขันอื่น พร้อมทั้งได้กล่าวถึงนโยบายยกเลิกสัมปทานการผูกขาดของพรรคเพื่อชาติว่า ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมของสังคมที่รัฐคอยเกื้อหนุนแต่คนรวย โดยการให้สัมปทานแก่คนกลุ่มๆ หนึ่ง เช่นการให้สัมปทานผูกขาดการผลิตเหล้าที่ยาวนาน การเปิดสัมปทานผูกขาด ดิวตี้ฟรีช๊อปให้กับนายทุน การเปิดช่องทางสัมปทานรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อมต่อสนามบินให้กับกลุ่มทุนของซีพี เป็นต้น พรรค้ฝเพื่อชาติมีนโยบายจะยกเลิกสัมปทานพวกนี้ทั้งหมด เปิดเสรีให้คนเล็กน้อยอย่างพวกเรามีโอกาส

นโยบายที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่นายยงยุทธ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ที่จะทำให้พรรคเพื่อชาติเป็นพรรคที่แตกต่างออกไปจากพรรคอื่นๆ คือเรื่องความแตกแยกของคนไทยที่แบ่งออกเป็นสีเหลือง สีแดง นายยงยุทธได้อธิบายให้เห็นว่า เมื่อคนเสื้อแดงจะเข้าไปทำเรื่องใดๆ กับคนฝั่งเสื้อเหลือง ก็จะถูกกีดกันต่างๆ ถึงขนาดทำร้ายร่างกายกัน และในทางกลับกันก็เช่นเดียวกัน นายยงยุทธ ได้ชูนโยบายเกาะกลางเป็นนโยบาย ที่สำคัญอันดับต้นๆ ของพรรคเพื่อชาติ ได้อธิบายตัวอย่างของประเทศเกาหลีใต้และเหนือที่มีความขัดแย้งกัน แต่จะสามารถนัดเจรจาเรื่องต่างๆ บริเวณเกาะกลางที่ตั้งอยู่ระหว่างประเทศทั้งสองเพื่อให้เกิดความปรองดองและนำพาประเทศพ้นวิกฤตต่างๆ ได้ ซึ่งทางพรรคเพื่อชาติสามารถดึงคนของฝั่งเสื้อเหลืองและเสื้อแดงได้เข้ามาร่วมพรรคเพื่อชาติด้วยกัน

นายยงยุทธ ได้ปิดการหาเสียง ด้วยการย้ำถึงการเลือกตั้งคราวนี้ มีแค่สองทางคือ เลือกฝ่ายประชาธิปไตย และอำนาจฝ่ายเผด็จการเท่านั้น

ทั้งนี้ การปิดการปราศรัยได้สิ้นสุดลงประมาณ 21.00 น.