ประชาธิปไตยใน “บ้านโสณกุล” การเมืองไม่ใช่เรื่อง (ทั้งหมด) ของชีวิต ทฤษฎีแก้จน เหลือง-แดง-ฟ้า

บ้านเมืองไทยเดินทางมาถึงช่วง “รอยต่อ” สำคัญทางการเมือง-ประวัติศาสตร์ โดยมี “จุดหมายปลายทาง” วันเลือกตั้งเป็น “จุดเริ่มต้น” ของการระบบใหม่

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หรือ “คุณชายเต่า” หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กระโจนสู่สนามการเมือง “วาระแรก” การเปิดตัวเบื้องหน้า-เบื้องหลังเขาขันอาสา-ชูธงแก้ความขัดแย้ง ด้วยสโลแกน “ร่วมกันเราทำได้”

“คุณชายเต่า” มองการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 8 ปี การเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์-รอยต่อการ “เปลี่ยนผ่าน” ครั้งสำคัญของประเทศ “จากระบบหนึ่งไปอีกระบบหนึ่ง”

แม้การเปลี่ยนจากระบบเผด็จการสู่ระบอบประชาธิปไตยในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญจะมี “ความเสี่ยง” ที่จะ “ผันผวน” มากกว่า “ราบรื่น”

แต่เขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยไม่ต้องแตกหักแต่ต้องทำให้ถูกวิธี ตรงกันข้าม การแตกหักเป็นเพราะ “ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลง มันก็ต้องแตกหัก”

ส่วนจะสมูท-เวิร์กหรือไม่ สำหรับประเทศไทย? “คุณชายเต่า” ย้อนประวัติศาสตร์พงศาวดารไทยไปไกลถึงยุคพ่อขุนรามคำแหงมหาราช-พระเจ้าตากสินมหาราช

“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคน บังเอิญมีคน 2 คน 5 คนที่จะเกิดขึ้นมาในยุคนั้นหรือเปล่า ที่จะทำ เราอยู่มาได้เพราะมีพ่อขุนรามคำแหง มีพระเจ้าตากสิน”

แม้คำปลุกขวัญประเทศไทย “ไม่สิ้นคนดี” เมื่อสถานการณ์คับขัน-หลังพิงฝา แต่เขาไม่ต้องการให้หลงระเริงอยู่ในประวัติศาสตร์ ว่าประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นประเทศใด พร้อมกับสะท้อน “บทเรียน” ครั้งสำคัญไว้ “เตือนใจ”

“ไม่แน่ ไม่มีใครการันตีได้หรอกว่าประเทศไทยจะอยู่ได้ ไทยไม่เคยเป็น Colony แต่ก็ถูกพม่ายึดไปตั้ง 2 หน คนไทยแตกแยก ทุกครั้งมันเจ๊งตั้งแต่อยู่ในเมือง ไม่ได้ไปรบแพ้เขา อยุธยาแตก 2 หนก็เพราะทะเลาะกันอยู่ในเมือง”

“ทุก Empire ในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ 4,000 ปีมาแล้ว เวลาล้มไม่ได้แพ้ศึก แพ้ตัวเอง แล้วพอมีศึกก็เลยแพ้ ถ้าไม่แพ้ตัวเองก็ไม่แพ้ศึก เวลาไปรบ โรม กรีซ เอเธนส์ ทุกครั้งแพ้ตัวเองตั้งแต่ทีแรก”

“ค่อนข้างเข้าลักษณะเมืองไทยตอนนี้นิดๆ ถามว่าทำไมถึงมาช่วย ก็เพราะมองเห็นอาการอ่อนๆ ทะเลาะกันเอง ไม่มีใครมาทะเลาะกับเราเลย ตอนมีคนมาทะเลาะด้วยก็ดีอย่าง ไม่ต้องทะเลาะกันเอง คนไทยรักกัน”

แม้การ “ลงมาเล่นเอง” ครั้งนี้ ค่อนข้าง “ฝืนตัวตน” ของอดีตเทคโนแครต-เลือดราชนิกุลในรัชกาลที่ 4 อยู่พอสมควร…

“ต้องหัดยิ้ม ผมมาจาก 2 สาย คือ ร.4 และ ร.5 พ่อมาจากสาย ร.4 แม่มาจากสาย ร.5 เห็นไหม ร.4 หน้าอย่างนี้ (ทำหน้าดุ-หน้านิ่ง) ส่วน ร.5 หน้ายิ้มแย้มแจ่มใส”

“ผมดันได้สาย ร.4 มา ฉะนั้น โดยธรรมชาติ ไม่ใช่ไม่ยิ้มหรอก ถึงต้องไปหัดยิ้ม ผมหัดทำเนื้อแก้มอยู่ เพราะคนทำเป็นยิ้มต้องใช้กล้ามเนื้อแก้ม” เขาพูดด้วยสีหน้าราบเรียบและใช้เคล็ดวิชาบริหารแก้มเนื้อแกล้มแกมหัวเราะ

“ผมเป็นคน Very Target Oriented ถ้ารับแล้วก็ต้องดูว่า หนึ่ง เราทำได้ไหม สอง Target และ Metallurgy เป้าหมาย และวิธีการคือ อะไร ไม่ใช่เป็นเรื่องของการชอบหรือไม่ชอบ”

บ้านโสณกุล ราชนิกุล (คน) การเมือง เที่ยวล่าสุด ม.ร.ว.จัตุมงคล หัวหน้า รปช. ที่ตัดสินใจคลุกปักโคลนการเมืองในวัย 75 ปี ต่อจาก “บุตร-ธิดา” ม.ล.อภิมงคล อดีต-ปัจจุบัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ สังกัด “พรรคสีฟ้า” ประชาธิปัตย์ (ปชป.)

ส่วน “หม่อมเต่านา” ม.ล.มิ่งมงคล ถึงแม้จะไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองแต่ก็เร่าร้อน-แดงเดือดในสมรภูมิการเมือง-สนามสื่อสังคมโซเชียลมีเดีย

คุณชายเต่าเปิดเผยเคล็ดวิชาประชาธิปไตยใน “บ้านโสณกุล” ว่า “อยู่คนเดียว” จึงทำให้ไม่ค่อยได้คุยเรื่องการเมืองบนโต๊ะอาหารตามประสา “พ่อ-ลูก”

“ขนาดอภิมงคลที่ทำการเมือง ยังไม่ค่อยคุย คุยครึ่งหนึ่ง เพราะเราก็ต้องให้เกียรติพรรคเรา บอกได้ว่าพอไปทางไหน แต่บอกมากกว่านั้น ที่เป็นจุดสำคัญก็ไม่ได้”

“คิดว่าทุกคนเข้าใจเรื่องการเมือง เรื่องการเมืองก็เหมือนกับซื้อหนังสือภาษาฝรั่งเศส อยากเรียนฝรั่งเศส ตำราก็มีตั้งหลายอัน ก็ใช้คนละตำราเท่านั้นเอง ใครจะบอกว่าท่องก่อนแล้วต้องหัดพูด อีกคนบอกว่าหัดพูดแล้วค่อยท่อง”

เป้าหมายทางการเมืองใน “บ้านโสณกุล” จึงไม่ใช่การแพ้-ชนะทางความคิด แต่เป้าหมายของ “คุณชายเต่า” คือ “ฐานะพ่อ” คนหนึ่ง

“เป้าหมายอยากให้เขา (ลูกๆ) เจริญ เท่านั้นเอง มีอะไรจริงๆ ก็ค่อยๆ บอก ค่อยๆ คุยกัน (เสียงดังขึ้น) ไม่มีความเห็นต่างกันขั้นรุนแรง ไม่น่าจะมีวันมีด้วย เพราะเรื่องการเมืองไม่ใช่เรื่องชีวิตของเรา การเมืองเราก็รู้ว่ามีหลายทฤษฎี”

“ผมเห็นพวกเจริญก็มีระบบเดียว เป็นระบบผูกขาดการเมือง ที่เมืองจีนเรียกว่า Socialist market economy ระบบเดียวที่เจริญ คือระบบที่รัฐช่วยเอกชน ที่ให้เอกชนค้ากันเอง Free Trade มันตอนจบไม่ใช่ตอนเริ่ม”

อดีตเทคโนแครตที่ทำงานให้บ้านเมือง-ผ่านเหตุการณ์สำคัญของประเทศ ทั้งในยุคโชติช่วงชัชวาลและในยุคตกต่ำสุดขีด เขาพลิกตำรารัฐศาสตร์ประกบตำราเศรษฐศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาความแย้งเหลือง-แดงไว้ได้อย่างแนบเนียน

“ยากนะ พื้นฐานของปัญหาเหลือง-แดงมาจาก คนจนยังจนอยู่ ระบบที่ผมสนใจคือ ระบบ Norway Sweden Denmark ส่งคนเรียนจบมหาวิทยาลัยหมด ระบบทำงานดีมาก เก็บภาษีร้อยละ 58 ของรายได้ เมืองไทยเก็บร้อยละ 18”

ทั้งการเมืองในบ้าน-นอกบ้านของ ม.ร.ว.จัตุมงคลจึงประนีประนอม-อ่อนนอกแข็งใน ตรงกันข้ามกับตัวตนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นข้าราชการเจ้าระเบียบ-ปากไว