ขอแสดงความนับถือ

การเมืองว่าด้วยการเลือกตั้ง

เพิ่ม “ความร้อนแรง” ขึ้นตามลำดับ

คอลัมน์ “ชาติ ศาสนา และแบรนดิ้ง” ใน “มติชนสุดสัปดาห์” ฉบับนี้

“ประกิต กอบกิจวัฒนา” ครีเอทีฟการเมือง ผู้มีประสบการณ์กับการทำแบรนด์ให้กับการเลือกตั้ง

ชวนวิเคราะห์สโลแกนเลือกตั้งของ “พรรคก้าวไกล”

พรรคก้าวไกล ที่สืบต่อเนื่องมาจากพรรคอนาคตใหม่

ซึ่งเป็นพรรคที่เปลี่ยนแนวทางการทำพรรคให้ “ถูกจริต” คนรุ่นใหม่ที่ถูกตีตราว่าไม่เคยสนใจการเมือง ให้กลายมาเป็นนิวโหวตเตอร์

โดยเฉพาะกลุ่มคนเจน Y และ Z มีส่วนให้พรรคอนาคตใหม่ได้ที่นั่งไปถึง 80 ที่

กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งครั้งนี้

“ประกิต กอบกิจวัฒนา” ตั้งคำถามชวนคิดว่า เสียงของกลุ่มนิวโหวตเตอร์จะพอให้พรรคก้าวไกลได้เข้ามาทำงานในสภา เพื่อเปลี่ยนแปลงระบบตามที่หาเสียงไว้ได้จริงขนาดไหน

ด้วยในการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ “เกมเปลี่ยน” แล้ว

นักการเมืองได้เห็นปรากฏการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ พากันปรับตัวอย่างรวดเร็ว

แทบทุกพรรคต่างจัดตั้งคณะทำงานของพรรค โดยมีคำว่า “คนรุ่นใหม่” เข้ามาช่วยในการทำนโยบายหาเสียงทั้งนั้น

และหลายพรรคก็เริ่มประกาศนโยบายออกมา มีหลายเรื่องที่น่าจะทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่หันไปมองและให้ความสนใจ

นี่จึงท้ายทายพรรคก้าวไกลอย่างยิ่ง

ประกิต กอบกิจวัฒนา

สโลแกนที่จะใช้หาเสียงของพรรคก้าวไกลครั้งนี้คือ “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต”

“ประกิต กอบกิจวัฒนา” ชี้ว่า ด้านหนึ่งแม้จะทำให้ฝันหวาน

อยากเห็น “การเมืองดี” แบบที่พรรคก้าวไกลหาเสียงไว้จริงๆ

เพราะนี่คือการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบที่เข้าขั้น “ขุดรากถอนโคน”

แต่กระนั้น การทำ “การเมืองดี” ให้ได้จริง โดยเข้าไปรื้อและสร้างระบบใหม่ในหลายส่วนของสังคมไทยที่ฝังรากลึกแผ่ไปทั่วทั้งแผ่นดินไม่ง่าย

ซึ่งครีเอทีฟการเมืองอย่างประกิตเองก็รับว่า การทำแบรนด์ให้ก้าวไกลในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ยากมาก

และอาจต้องถึงขั้น ต้องใช้ “ปาฏิหาริย์” มาช่วย

 

นี่จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายพรรคก้าวไกลอย่างสูง

ซึ่งก็คงต้องติดตามดูว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลนำเสนอออกมา

คือ การเมืองดี เช่น นโยบายรัฐโปร่งใสไร้กลโกง กองทัพอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ตำรวจอยู่ข้างประชาชน ระบบราชการฉับไว

ปากท้องดี เช่น นโยบายเงินเด็กเล็ก 1,200 บาทต่อเดือน เยาวชนได้คูปองเปิดโลก สูงสุดปีละ 2,000 บาท ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทันที 450 บาท/วัน ปรับขึ้นทุกปี ผู้ประกอบการ SME ได้ทุนตั้งตัว 200,000 รายต่อปี เงินผู้สูงวัย 3,000 บาท/เดือน

และมีอนาคต ได้แก่ นโยบายยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร สมรสเท่าเทียม ปลดล็อกเหล้าเบียร์ ปฏิรูประบบที่ดิน กำหนดเพดานก๊าซเรือนกระจก ปฏิวัติหลักสูตรการศึกษา อุดหนุนรถ EV

ภายใต้แคมเปญ

– ปิดสวิตช์ 3 ป. เอาทหารออกจากการเมือง

– ยกเลิกเกณฑ์ทหาร กองทัพห้ามยุ่งการเมือง

– หยุดส่วย รีดไถ เลิกตั๋ว เส้นสาย ตำรวจอยู่ข้างประชาชน

– รัฐโปร่งใส AI จับโกง คนแฉปลอดภัย ได้เงิน

– เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด

– คืนที่ดินประชาชน 10 ล้านไร่ เปลี่ยน ส.ป.ก.นายทุน เป็นโฉนดให้เกษตรกร

– ขึ้นค่าแรงทุกปี เริ่มทันที 450 บาท

– หวยใบเสร็จ ซื้อของรายย่อย ลุ้นเงินล้าน

– สวัสดิการลดเหลื่อมล้ำ เด็กเล็ก 1,200 บาท/เดือน ผู้สูงวัย 3,000 บาท/เดือน

– หยุดเอื้อทุนใหญ่ ลดค่าไฟทันที 70 สตางค์/หน่วย

– รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด น้ำประปาดื่มได้

– สร้างงาน ซ่อมประเทศ 1 ล้านตำแหน่ง

– หลักสูตรใหม่ โรงเรียนปลอดภัย คืนเวลาสอนให้ครู

– เอาจริงกับโลกร้อน กำหนดเพดานปล่อยก๊าซเรือนกระจก

– ปักธงไทยในอุตสาหกรรมชิพ สร้างเทคโนโลยีของตัวเอง

สโลแกนและแคมเปญเหล่านี้ จะมีแรงดึงดูดพอที่จะซื้อใจโหวตเตอร์ ทั้งนิวโหวตเตอร์ และอาจต้องรวมถึงกลุ่มโหวตเตอร์เดิม ได้หรือไม่

นี้คงเป็นโจทย์ให้พรรคก้าวไกลแก้ และขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย

เหมือนกับหัวคอลัมน์ “ชาติ ศาสนา และแบรนดิ้ง”

ที่ “ประกิต กอบกิจวัฒนา” ให้ในเชิงท้าทาย และให้กำลังใจไปพร้อมๆ กัน นั่นคือ

‘การเมืองดี’ แบบ ‘ก้าวไกล’

ทำแบรนด์ขายยาก

…แต่อยากให้ขายได้ •