ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 18 - 24 พฤศจิกายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ขอแสดงความนับถือ |
เผยแพร่ |
ขอแสดงความนับถือ
สัปดาห์ที่ผ่านมา และตลอดสัปดาห์นี้
กลุ่มประเทศอาเซียน มีบทบาทสำคัญบนเวทีการเมืองและเศรษฐกิจโลก
ทั้งการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 41 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
ทั้งการประชุม จี 20 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
และทั้งการประชุมเอเปคที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย
อาจารย์อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์ แห่งคอลัมน์ “โลกทรรศน์”
มีข้อสังเกตถึงบทบาทของผู้นำประเทศที่เป็นเจ้าภาพการประชุมข้างต้นอย่างน่าสนใจว่า
ทั้งอินโดนีเซียและกัมพูชา ผู้นำของทั้งสองประเทศแสดงบทบาท “ผู้นำ” ในการเข้าร่วมแก้ปัญหาระดับโลก อย่างโดดเด่น
อย่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด เดินทางไปพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย
เดินทางไปพบกับประธานาธิบดีโวโลดิเมีย เซเรนสกี ของยูเครน
เดินทางไปพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน
เพื่อหาทางออกและทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ส่วนสมเด็จฮุน เซน เคลื่อนไหวและเสนอให้อาเซียนทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยสงครามรัสเซีย-ยูเครน ในหลายประเด็น
บทบาทของประธานาธิบดีวิโดโดและนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุน เซน ดังกล่าว
ในสายตาของอาจารย์อุกฤษฏ์ เห็นว่าทำให้อาเซียนได้รับการยอมรับความสำคัญของอาเซียนอย่างมาก
เช่นเดียวกับวิกฤตการณ์ในเมียนมา
สมเด็จฮุน เซน ในฐานะประธานอาเซียนได้วิจารณ์ความล้มเหลวของผู้นำเมียนมา ที่ไม่ปฏิบัติตามฉันทานุมัติ 5 ข้อ เขาและผู้แทนพิเศษของเขาเดินทางและเจรจากับผู้นำเมียนมาอย่างมาก
เช่นเดียวกัน ประธานาธิบดีวิโดโดได้วิจารณ์ผู้นำเมียนมาและเสนอไม่ให้เจ้าหน้าที่ของเมียนมาเข้ามามีบทบาท
ทำให้ผู้นำอินโดนีเซียและกัมพูชาโดดเด่นเช่นกัน
ย้อนกลับมาดูบทบาทผู้นำไทย ในฐานะเจ้าภาพประชุมเอเปค
เราควรคาดหวังอย่างไร
ดูเหมือนอาจารย์อุกฤษฏ์จะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า คงจะวนเวียนอยู่ในโลกเก่า
โดยโลกเก่าสำหรับไทยคือ
“อาหารอร่อย คนไทยใจดี ยิ้มแย้ม”
ทำให้ “แขก” ที่มาเยือน พึงพอใจกับสิ่งเหล่านี้
และเราก็คงปลาบปลื้มว่าประสบความสำเร็จแล้ว ในการพลักดันซอฟต์เพาเวอร์ ออกไปให้โลกรู้จัก
ส่วนวิกฤตการณ์โลกและเมียนมา
อาจารย์อุกฤษฏ์วิจารณ์ว่า ผู้นำไทยก็ดูเหมือนจะ “จม” อยู่ในโจทย์เก่าและท่าทีเก่าเช่นกัน
“…ผมติดตามท่าที วิสัยทัศน์และแนวทาง (ของผู้นำไทย) ต่อการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ ผมได้ข้อมูลจากข่าววิทยุแห่งประเทศไทย และข่าวกรมประชาสัมพันธ์
ประเด็นที่จับต้องได้มี 3 คำ
สร้างความเข้มแข็ง พัฒนาอย่างยั่งยืน วิถีทางอาเซียน
ฟังทีไร ดูดี น่ารัก สวยหรู
อย่างไรก็ตาม เหมือนเทียบกับถ้อยแถลงและการเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีวิโดโด ท่าทีไทยเหมือนไม่มีวิกฤตการณ์ใดๆ เกิดขึ้นในโลกและอาเซียนเลย
ผู้นำไทยท่องคาถา แล้วท่านผู้นำไทยก็ว่าตามสคริปต์…”
สคริปต์อะไร อย่างไร โปรดพลิกอ่านที่หน้า 88
แล้วอาจได้คำตอบว่า ไฉนเราจึงไม่ควรคาดหวังกับผู้นำไทยที่เป็นประธานการประชุมเอเปคครั้งนี้
อนึ่ง การอยู่ในโลกเก่า
ก็มิได้หมายความว่าเราจมอยู่แต่ในอดีต จนมิอาจแปรเป็นประโยชน์ในปัจจุบันได้
อยู่ที่ท่าทีและการตีความให้เป็นบวกมากกว่า
อย่างในคอลัมน์ “พื้นที่ระหว่างบรรทัด” ของชาตรี ประกิตนนทการ ในมติชนสุดสัปดาห์ฉบับนี้
ให้เกร็ดความรู้ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2498 นายกรัฐมนตรีอู นุ ได้เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
และได้ร้องขอให้รัฐบาลไทยพาคณะรัฐบาลจากพม่าเดินทางไปเยี่ยมชมโบราณสถานที่อยุธยา เพื่อสักการะวัดสำคัญต่างๆ
ที่สำคัญที่สุดคือ อู นุ ได้มอบเงิน 2 แสนบาทเพื่อปฏิสังขรณ์วิหารพระมงคลบพิตร
และได้ทำพิธีเพื่อขอขมาต่อการที่กองทัพพม่าได้เคยยกทัพเข้าตีและเผาอยุธยา
ซึ่งอาจารย์ชาตรี ประกิตนนทการ บอกว่าเป็นที่น่าเสียดายว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้รับการขยายความและยกระดับให้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญเท่าที่ควรในพื้นที่เมืองเก่าอยุธยา
ทั้งที่เราสามารถสร้างความหมายเชิงบวกที่เป็นประโยชน์ต่อการอยู่ร่วมกันในสังคมโลกได้
ไม่จำเป็นเสมอไปที่จะต้องพูดถึงแต่สงคราม ความเกลียดชัง และการปลูกฝังอุดมการณ์ชาตินิยมเท่านั้น
เรื่องนี้คนที่จะมาเป็นผู้นำ
ควรจะเข้าใจและตระหนักถึงให้มาก-มาก –จริงไหม?? •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022