ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 สิงหาคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ขอแสดงความนับถือ |
เผยแพร่ |
ขอแสดงความนับถือ
ประจำวันที่ 12-18 สิงหาคม 2565 ฉบับที่ 2191
ขอแสดงความนับถือ
นอกเหนือจากไปรษณีบัตร ที่สะท้อนความรู้สึก เนื่องในวันแม่
“แม่มีแต่ให้”
ที่คงตรงกับความรู้สึกของลูกหลายๆ คนแล้ว
“บรรณกร กลั่นขจร” ยังคงเส้นคงวากับ “มติชนสุดสัปดาห์” (ขอบคุณ หลาย-หลาย) สะท้อนความรู้สึกเกี่ยวกับ “การเมือง” มาด้วย
-วาบ-
อิหยังหวายังโหวต วาบหวิว
วักน้ำลายคลายหิว ปาหี่
วิวาทะลมปลิว วายป่วง
หวานหลังวอดเปลี่ยนสี อะโหโอหัง
การโหวต-การไม่มาโหวต ของสมาชิกรัฐสภา ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
แม้ดูจะชี้ชะตาการเมืองไทยอย่างมีนัยสำคัญอีกครั้ง
แต่ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งปักใจเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามนั้น
ภาวะ “อิหยังหวา” และ “ลับ ลวง พราง” ยังดำเนินไปอย่างเข้มข้น
“สมชัย ศรีสุทธิยากร”
ทั้งในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่…) พ.ศ….
ทั้งในฐานะอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
และทั้งในฐานะนักวิชาการ ศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต
ได้ย้ำเตือนถึงภาวะ “อิหยังหวา” และ “ลับ ลวง พราง” ดังกล่าว
โดยมองข้ามช็อต ผ่าน “ย้อนบัตรใบเดียว เดี๋ยวมันก็คืนมา” ในมติชนสุดสัปดาห์ฉบับนี้ ที่หน้า 15
“…การล่มที่ประชุมรัฐสภา ดึงการประชุมให้ช้า เพื่อให้วาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ไม่ทันกรอบเวลา 180 วัน ในวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2565 ดูเป็นจริงเป็นจังขึ้นเพื่อให้สูตรหารร้อย ได้กลับคืนมาใหม่…”
คือความเห็นของสมชัย ศรีสุทธิยากร
แต่ก็ย้ำว่า “…ตราบใดยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง อย่าคิดว่าผู้มีอำนาจจะไม่เปลี่ยนใจให้พิสดารพันลึกไปยิ่งกว่านี้”
“…หากเขาพบว่ามีวิธีการอื่นที่ยังดีกว่าเพื่อรักษาอำนาจของตน”…เขาก็จะทำ
นี่เอง ทำให้ระบบเลือกตั้งแบบบัตรเดียว ที่ดูเหมือนจะถูก “ฝัง” ไปเรียบร้อย
เนื่องจากมีการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นบัตรสองใบไปแล้ว
การหวนคืนใช้บัตรใบเดียวนั้นต้องแก้รัฐธรรมนูญอีกครั้ง
และต้องมีเหตุผลที่เพียงพอที่จะอธิบายต่อประชาชนว่ามีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อย่างไร
แต่แม้ยากจะหวนคืน กระนั้น เลือกตั้งแบบบัตรเดียว ก็อาจฟื้นกลับมา
อะไรก็เป็นไปได้ ในการเมืองแบบไทย-ไทย
สมชัย ศรีสุทธิยากร จึงบอกว่า ต้องไม่ลืมผลจากระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียว นำไปสู่การมีองค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งได้คะแนนเสียงเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จำเป็นต้องตั้งรัฐบาลผสม
การมีพรรคขนาดเล็ก ขนาดจิ๋วจำนวนมากจึงเอื้อประโยชน์ต่อการรวบรวมเสียงให้กลายเป็นข้างมากเพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยมีข้อแลกเปลี่ยนต่อรองในรูปผลประโยชน์ต่อกัน
และตอนนี้ ก็มีการตั้งพรรคใหม่ๆ ในฝั่งฟาก 3 ป. จำนวนมาก
ประกอบสูตร “หารห้าร้อย” ที่จะเอื้อให้ฝ่ายตรงข้ามอย่าง “เพื่อไทย” แลนด์สไลด์อย่างสูงนั้น ก็ใช่ว่าจะราบรื่น
ยังมีขั้นตอนที่จะสกัดได้อีก
โดย “สมชัย ศรีสุทธิยากร” เห็นว่า อาจจะมีการหวนกลับไปใช้การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 อีก
ทั้งเรื่องบัตรใบเดียว และสัดส่วน ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เปลี่ยนกลับเป็น 350 : 150 โดยไม่มีความจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายลูกใดๆ ให้เสียเวลาอีก
เป็นความสามารถ “ลับ ลวง พราง” ไปได้ แบบตาใสๆ พร้อมคำอธิบายซื่อๆ ไม่เคยเป็นแผน ไม่เคยอยู่ในความคิด แต่อ้างเป็นสถานการณ์บังคับให้เป็นเช่นนั้นได้
ด้วยเหตุดังกล่าว จึงนำไปสู่ข้อสรุปของ “สมชัย ศรีสุทธิยากร”
“บัตรใบเดียว ถ้าเขาอยากได้ เดี๋ยวมันก็มา”
อิหยังหวา กันต่อไป!! •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022