ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 - 30 มิถุนายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ขอแสดงความนับถือ |
เผยแพร่ |
ขอแสดงความนับถือ
ในวาระ 90 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475
นอกเหนือจาก “มุกดา สุวรรณชาติ” จะตั้งคำถามผ่านคอลัมน์ “หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว” ที่หน้า 10
“2475-2565…90 ปี เปลี่ยนแปลงการปกครอง ไปเป็นอะไร?” แล้ว
คอลัมน์ พื้นที่ระหว่างบรรทัด ของชาตรี ประกิตนนทการ (หน้า 36)
พาไปพินิจ “แผนที่กรุงเทพฯ พ.ศ.2475” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “แผนที่ 2475” อย่างน่าสนใจ
ทำไมต้อง “แผนที่”
อาจารย์ชาตรีอธิบายว่า ก็เพราะแผนที่ถือเป็นหลักฐานลักษณะทางกายภาพที่ถูกบันทึกเอาไว้
ซึ่งสามารถบอกเล่าสภาพเมืองกรุงเทพฯ ในช่วงยุคคณะราษฎร (พ.ศ.2475-2490) ได้อย่างชัดเจน
ชัดเจนว่า ในช่วง 15 ปีของคณะราษฎร ได้ทำการปรับเปลี่ยนเนื้อเมืองกรุงเทพฯ ในส่วนไหนไปอย่างไรบ้าง
ตัวอย่างเช่น เห็นสิ่งจอมพล ป.พิบูลสงคราม สร้างเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ลงไปบนถนนราชดำเนินกลาง
ขยายถนน สร้างกลุ่มอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ไว้สองข้างถนน
พร้อมทั้งอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
มองเห็นว่า มีอาคารอะไรบ้างที่ถูกรื้อถอนไป เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับแผนที่เดิมในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
เช่น มองเห็นการหายไปของกลุ่มอาคาร “ตึกดิน” ที่เคยเป็นที่ตั้งเดิมของโรงเรียนสตรีวิทยา ก่อนที่จะย้ายข้ามฟากมาอีกฝั่งของถนนราชดำเนิน
มองเห็นลักษณะกายภาพบริเวณด้านหลังของอาคารพาณิชย์ถนนราชดำเนินกลาง ว่ามีสภาพเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างจากการเกิดขึ้นของเมกะโปรเจ็กต์ชิ้นสำคัญนี้ของคณะราษฎร
นอกจากนี้ สิ่งที่อาจารย์ชาตรีเห็นว่าน่าสนใจ และชี้ชวนให้ติดตาม จากแผนที่ 2475
นั่นคือการเห็นการเกิดขึ้นของ “พื้นที่สาธารณะ”
ภายใต้ระบอบใหม่ที่เข้ามาแทนที่ “พื้นที่กึ่งสาธารณะ” ภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงของสนามหลวง, สวนสัตว์ดุสิต, ลานพระบรมรูปทรงม้า, สวนสราญรมย์, สนามมวยราชดำเนิน ฯลฯ
รวมไปถึงมองเห็นรายละเอียดของโครงการอีกหลายอย่างของคณะราษฎร
เช่น ความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่จากวัดพระแก้ววังหน้า ภายในพื้นที่วังหน้า ที่เปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนศิลปากรแผนกดุริยางค์
มองเห็นการเปลี่ยนผ่านของการวางผังและออกแบบพื้นที่ใช้สอยของกลุ่มอาคารศาลยุติธรรมในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
ที่เปลี่ยนมาสู่กลุ่มอาคารศาลยุติธรรมรูปแบบใหม่ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในการได้เอกราชสมบูรณ์ทางการศาล เมื่อ พ.ศ.2481 เพื่อตอบสนองต่อนโยบาย “หลักเอกราช” อันเป็นหลักข้อแรกของ “หลักหกประการ”
รวมถึงการเปลี่ยนพื้นที่ทหารจากกรมทหารบกราบที่ 2 และคลังแสงทหารบก
มาเป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง
เพื่อตอบสนองต่อนโยบาย “หลักการศึกษา” อันเป็นหนึ่งใน “หลักหกประการ” ของคณะราษฎร
เป็นพื้นฐานแห่งการให้ความรู้ และการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
แม้ว่าในวันนี้จะผ่านมา 90 ปี ประชาธิปไตยของเรายังไม่อาจก้าวไปสู่ประชาธิปไตย “อันสมบูรณ์” ก็ตาม
แต่กระนั้น การไม่ลืม
และได้รำลึกถึงวันดังกล่าว
ก็กระตุ้นเตือนให้เราไม่สิ้นหวัง ต่อสู้ต่อไป
รวมถึงเรียนรู้จากอดีต เพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
อย่างที่ณัฐพล ใจจริง ย้ำในคอลัมน์ My Country Thailand (หน้า 30 ) ผ่านงานของ ป.อินทรปาลิต ที่บันทึกถึงงาน 24 มิถุนายน ฉลองวันชาติ ว่า
“…รุ่งอรุณแห่งวันที่ 24 มิถุนายน
วันสำคัญที่ประชาชนชาวไทยได้รับสิทธิ อิสระเสรีโดยทั่วหน้า
วันที่ประชาชนชาวไทยเปลี่ยนระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นประชาธิปไตย
ภายใต้รัฐธรรมนูญอันเป็นมิ่งขวัญของชาติ…”
แต่น่าเสียดาย แม้ชัดเจนและสำคัญเช่นนั้น
คำถามอย่างที่มุกดา สุวรรณชาติ ถาม
2475-2565…90 ปี เปลี่ยนแปลงการปกครอง ไปเป็นอะไร?
ยังไร้คำตอบอยู่ •