ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 เมษายน 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | ขอแสดงความนับถือ |
เผยแพร่ |
ขอแสดงความนับถือ
จากกลุ่มราษฎร
วันนี้เรารู้จัก
กลุ่ม ‘ราษมัม’
ที่เป็นการรวมตัวกันของกลุ่ม “แม่” ของนักศึกษา-นักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกคุมขังในเรือนจำโดยไม่ได้การประกันตัว
นำโดยสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาเพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์, มารดาไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก, มารดาแอมมี่-ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์, มารดาอานนท์ นำภา และมารดารุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ฯลฯ
เป้าหมายของกลุ่ม ‘ราษมัม’ คือการเรียกร้องและทำกิจกรรมรณรงค์ให้ปล่อย “ลูกๆ” ออกมาสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม
อาทิ การถือภาพลูกๆ พร้อมข้อความ ‘ปล่อยลูกแม่’ ไปร่วมกันยืน 112 นาที หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
เป็นการแสดงออกในแนวสันติวิธีของเหล่าแม่ๆ
ภายใต้แคมเปญ ‘ยืน หยุด ขัง’
กลุ่มราษมัมข้างต้น
แตกต่างอย่างแน่นอนกับกลุ่มพ่อ-แม่
ที่ “ธงทอง จันทรางศุ” ในฐานะอาจารย์พิเศษแห่งคณะนิติศาสตร์ จุฬามหาวิทยาลัย นำมาเขียนในคอลัมน์ “หลังลับแลมีอรุณรุ่ง” มติชนสุดสัปดาห์ฉบับนี้
“…เมื่อไม่กี่วันมานี้
ผมได้รับทราบด้วยความประหลาดใจว่าผู้ปกครองหรือคุณแม่ของนิสิตคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ผมยังทำหน้าที่เป็นอาจารย์พิเศษสอนหนังสืออยู่ ท่านมีกลุ่มไลน์สำหรับติดต่อกันเองในระหว่างผู้ปกครอง
แปลกใจแล้วก็ต้องอยากรู้ต่อไปว่า ท่านมาพบติดต่อครั้งแรกกันอย่างไร จึงจะมีไลน์ไอดีของกันและกันได้
เพราะนึกว่าลูก-หลานคงไม่อยากให้มีไลน์กลุ่มนี้เป็นแน่
ถามไถ่ได้ความว่า ในการปฐมนิเทศนิสิตแรกเข้า นอกจากการพบปะให้ข้อมูลกับนิสิตเองเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาและการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยแล้ว
ยังมีการ “ประชุมผู้ปกครอง” ของนิสิตด้วย
มองในแง่มุมที่ดี
การที่คณาจารย์ได้พบผู้ปกครองและผู้ปกครองได้รับทราบข้อมูลว่า ทุกวันนี้การศึกษาวิชากฎหมายเขาทำกันอย่างไร
ชีวิตของนิสิตมหาวิทยาลัยไม่เหมือนชีวิตนักเรียนโรงเรียนมัธยม ทางเลือกของชีวิตหลังจบการศึกษาแล้วในอนาคตมีอะไรบ้าง
ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นคุณประโยชน์ที่ผู้ปกครองจะได้มีความเข้าใจได้ถูกต้องว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้บ้าง
ในมุมมองอย่างนี้ พบกันครั้งเดียวก็พอครับ พบแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ต่างคนต่างไปจัดการชีวิตของตัวเอง
แต่ผลที่เกิดขึ้นจริงนี่สิครับ
น่าดูมาก…”
น่าดูอย่างไร
และทำไมอาจารย์ธงทองจึงมีคำถามว่า
“ผมชักไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์นี้
เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยระดับชาติ
หรือในโรงเรียนอนุบาลหมีน้อยกันแน่…”
โปรดพลิกอ่าน “หลังลับแลมีอรุณรุ่ง” ที่หน้า 52
อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ จบบทความ “เสรีภาพทางวิชาการ” ในมติชนสุดสัปดาห์ฉบับนี้
ความตอนหนึ่งระบุไว้ว่า
“…วัฒนธรรมที่ไม่เอื้อต่อเสรีภาพทางวิชาการนั้น เป็นส่วนหนึ่งของสาระสำคัญในการศึกษาไทยทุกระดับ
คือนับตั้งแต่วันแรกที่เด็กถูกพาไปโรงเรียนอนุบาล
จนถึงวันที่ได้ผ่านพิธีรับปริญญาบัตร
ไม่มีสักวันเดียวที่เด็กไทยจะสามารถคิดเองเลือกเองได้ว่า อะไรคือ propriety (ความถูกต้อง, เหมาะควร, ชอบธรรม, สุภาพ อะไรๆ เหล่านี้ปนกัน)
คนที่โตมาใน “เครื่องแบบ” ที่เคร่งครัดตั้งแต่ทรงผมลงมาถึงเสื้อใน ขอบกระโปรง-กางเกง จนถึงถุงน่องรองเท้า จะสามารถคิดเอง, เลือกเอง, ตัดสินใจเองด้วยความเชื่อมั่นในตนเองได้อย่างไร…”
นี่ย่อมเป็นคำถามอันแหลมคม
ทั้งต่อปรากฏการณ์ “ราษมัม”
และต่อปรากฏการณ์ “กลุ่มไลน์ผู้ปกครองนิสิต แห่งจุฬาฯ”