ขอแสดงความนับถือ ฉบับวันที่ 17 มิ.ย. 59

AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL

หลังเชื้อเชิญให้ผู้อ่านร่วมแสดงความคิดเห็น

ก็มีการตอบสนอง

โดยเฉพาะจดหมายอย่างยาว

จาก อ้าย “แสงดาว ศรัทธามั่น”–กวีอิสระ

 

เรียนบรรณาธิการมติชนสุดสัปดาห์

มันจะดู “ล้าหลัง-คลั่งชาติ”… สุดโต่ง ไปกันใหญ่แล้ว สำหรับพี่น้องคนไทยสมมุติบางคน บางกลุ่ม บางพวก ฯลฯ

…กรณีนักกีฬาหญิงทีมชาติไทยฯ แพ้ทีมชาติหญิงญี่ปุ่น…แล้วพี่น้องคนไทยสมมุติบางคน บางกลุ่ม บางพวก ฯลฯ

เกิดอาการโกรธแค้น ที่ว่า ถูกโกง…

แล้วออกอาการด่าเหมารวมไปหมด…ทั้งพี่น้องชาวญี่ปุ่นนอกประเทศและในประเทศว่าเป็นคนขี้โกง และด่าอย่างหยาบคาย (อ่านคำพูดดังกล่าว ใน “มติชนสุดสัปดาห์” ฉบับประจำวันที่ 3-9 มิถุนายน 2559… “บทความพิเศษ” ของคุณ “อดิเทพ พันธ์ทอง”)

ผมจึงขอแลกเปลี่ยนสนทนาธรรม กับพี่น้องคนไทยสมมุติทุกๆ คนในประเทศสมมุตินี้…

 

หากว่าเมื่อเราถูกโกง…ก็ต้องวิพากษ์วิจารณ์…กรรมการ หรือ ฯลฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

มิใช่ไปเหมารวม ด่า พี่น้องเพื่อนร่วมโลกชาวญี่ปุ่นทั้งหมด ว่าเป็นคนขี้โกง…

มันแสดงถึงความตื้นเขินทางปัญญา ทางวุฒิภาวะ…ใช้อารมณ์ หยาบคาย ขายขี้หน้าไปทั่ว ฯลฯ

หากมีคนไทยสมมุติคนใดคนหนึ่ง กลุ่มหนึ่ง ไปขี้โกง ทำชั่วในประเทศสมมุติอื่น…

แล้วมีประชาชนบางคนบางกลุ่ม ในประเทศนั้นๆ มาเหมารวมว่า…คนไทยฯ ขี้โกงทั้งหมดแล้ว…เราจักรู้สึกอย่างไร

ทั้งๆ ที่ตัวเราไม่ได้เป็นคนขี้โกง ซักกะหน่อย

อาจจะโมโห ผรุสวาทว่า

“ไอ้ห่าหอกหัก กูมิได้โกง ซักกะหน่อย

มะแร่งงงง พวกมึงมาเหมารวมทำไม?”

ผมเองประกาศตัวเองว่า มิใช่คนไทย ผมเป็นมนุษย์อิสระบนโลกนี้…

และบ้านเกิดเมืองนอนของผมก็อยู่ในดินแดนล้านนาอิสระในอดีต แต่มาถูกรุกรานโดยพวกรัตนโกสินทร์ที่รุกรานไปทั่ว ทั้งเหนือ อีสาน ใต้ ออก ตก ฯลฯ

…เมื่อผนวกให้พี่น้องประชาชนชาวดินแดนอิสระเหล่านี้ เข้าเป็นราชอาณาจักรไทยสมมุติแล้ว

ก็ไม่เคารพวัฒนธรรมของเขา แย่งชิงทรัพยากรต่างๆ ของเขา… ก็เลยทำให้มีความขัดแย้งไปทั่ว

…ท่าน บ.ก. ฮับ ถึงแม้ว่าผมบอกตัวเองว่า มิใช่คนไทยสมมุติ แต่ผมก็รักประเทศไทยสมมุติ มิแตกต่างจากพวกผู้ “รักชาติแต่ปาก ดอกคับ”

…พอมีการแข่งขันกีฬา กรีฑา ประเภทต่างๆ ในระดับต่างประเทศ เช่น ฟุตบอล วอลเลย์บอล

สนุ้กเกอร์ ปิงปอง แบดมินตัน กอล์ฟ ฯลฯ

ผมก็ลุ้นเชียร์นักกีฬาจากประเทศไทยสมมุติเราทั้งนั้น

…เพียงแต่เราแข่งขันด้วยน้ำใจนักกีฬา ไม่โกงเขา ฯลฯ

เพราะฉะนั้น พี่น้องเอ๋ย เราอย่างี่เง่า “ล้าหลังคลั่งชาติ” แบบสุดโต่ง

ความ “ล้าหลัง-คลั่งชาติ” (คำของอ้าย “สุจิตต์ วงษ์เทศ”)…

คลั่ง “ชาติ ศาสนา ฯลฯ” …โดยอารมณ์อันไร้วุฒิภาวะ และโดยการปลุกระดม…

มันทำให้เกิดโศกนาฏกรรม การเข่นฆ่า ประชาชน อย่างบ้าคลั่ง มาแล้วเช่นกรณี… “6 ตุลา มหาโหด ปี 2519”

หรือ “พฤษภาทมิฬ ปี 2535”

… “รักชาติ” นั้นดีมากแน่นอน …แต่อย่า “คลั่งชาติ”… ฮับพี่น้อง @

ด้วยจิตคารวะอย่างสูง

“แสงดาว ศรัทธามั่น”

กวี…นักเขียนอิสระ

ล้านนาอิสระ เจียงใหม่

 

ในความน่าห่วง

มีเรื่องน่ายินดีอยู่ประการหนึ่ง

นั่นคือ ถึงกระแสต้านญี่ปุ่น แม้มาแรงเป็น น้ำป่า

แต่ก็เป็นน้ำป่าคีย์บอร์ด

บ่าล้นแล้วจางหายไปอย่างรวดเร็ว

มิได้ยืดเยื้อ ฝังลึกนานนับสิบปีดั่ง “สงครามสี” ในบ้านเมืองเรา

อันนี้น่าห่วงจริงๆ

 

แม้จะมี “ใคร” มาอวดว่า 2 ปี “ความสงบ” เกิดขึ้นแล้ว

จริงหรือ?

เรากำลังจะมีมหกรรมใหญ่ “ลงประชามติ วันที่ 7 สิงหาคม”

และจะมีอภิมหกรรมใหญ่ต่อเนื่องไปอีก ในการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2560

ถ้าถือปืนไปฉีดน้ำใส่กัน อย่างสงกรานต์บ้านปี้อ้ายแสงดาว

ก็คงมีแต่ความม่วนอกม่วนใจ๋

แต่นี่ดูแล้ว หวาด-หวาด

เพราะขณะนี้ สถานการณ์หลายอย่างบ่งชี้ว่า ความชิงชัง โกรธแค้น ยังคงอยู่อย่างเหนียวแน่น

และ เผยอตัวให้เห็นในเกือบทุกที่ ที่มีเงื่อนไข

ขึ้นเครื่องบิน ก็เจอการแช่งฝ่ายตรงข้ามให้ “โหม่งโลก”

ฟังเพลง เพลง “รณรงค์ ประชามติ 7 สิงหาคม” ก็เจอการเหยียดเชื้อชาติอย่างซ่อนลึก

แม้กระทั่งเด็กน้อยที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ด้วยความสามารถของเขา แต่เพียงเพราะคิดทางการเมืองต่างจาก “อาจารย์” ระดับด๊อกเตอร์

เราก็ได้เห็นการหยิบเอาเรื่อง “หน้าตา” ไม่สวยไม่หล่อ มาเข่นฆ่าลูกศิษย์ผ่านโซเชียลมีเดีย อย่างไม่น่าเชื่อ

แล้วงานใหญ่ อย่าง ประชามติ และการเลือกตั้งทั่วไป จะเป็นอย่างไร

เราจะปิดบังความเกลียดชังเอาไว้ได้หรือ

รึ จะถึง เวลาแห่งโศกนาฏกรรม อย่างที่ว่า

โศกนาฏกรรมที่มาจากอารมณ์อัน “ไร้วุฒิภาวะ” ของสังคม

น่าห่วงใยมากนักแล้ว ปี้อ้าย แสงดาว เอ้ย