ขอแสดงความนับถือ

 

จดหมายและรูป

ของ “ปิยพงศ์” (เมืองหละปูน) ในสต๊อก

ถึงกาละที่จะแสดงตัวอีกคำรบแล้ว

“สามเณรน้อย แห่งเมืองกังวล”

 

“…ขอบิณฑบาตเถอะ โยมตะลุมพุก โยมนครกิโล ผู้เป็นใหญ่ ที่ชี้เป็นชี้ตาย ให้กับผู้คนบนแผ่นดิน

อาตมาขอบิณฑบาต ความอยุติธรรม และความสองมาตรฐานทั้งหลาย

ขอเอามาใส่บาตรใบน้อยนี้กันให้หมด

เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง

จำท่อนท้ายของเพลง ‘เมืองกังวล’

จากการประพันธ์ของ ‘ถนอม อัครเศรณี’ ซึ่งเคยรับบทเป็นตัวพระเจ้าเสือ ของพันท้ายนรสิงห์ ผู้ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นละครเวทีที่โด่งดังในอดีต

หรือจำ ‘ศิราณี’ ตอบปัญหาหัวใจที่โด่งดังในอดีต ในไทยรัฐ กันได้ไหม

ท่อนท้ายของเพลง ‘เมืองกังวล’ ที่ท่านแต่ง จับจิตจับใจ และเป็นความจริงมาถึงทุกวันนี้

…เมืองใดไร้ธรรมอำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่เอย…”

 

นะ นะ นะ…

เณรขอบิณฑบาต จากเหล่าท่านอาวุโสเป็นใหญ่

ขอจงเร่งแรงอัดฉีด หิริและโอตตัปปะ เข้าไปในหัวจิตหัวใจกันให้เยอะๆ หน่อย

“เมืองกังวล” จะได้เป็น “เมืองหายกังวล” กันเสียที

เจริญพร

จากสามเณรแห่ง “เมืองกังวล”…

 

ดารานำแสดง – ผู้อาวุโส นครกิโล และผู้อาวุโส ตะลุมพุก พร้อมด้วยสามเณรน้อย แห่งเมืองกังวล

ผู้อำนวยการสร้าง เขียนบท กำกับการแสดง และถ่ายภาพ – อีตา “ปิยพงศ์” (เมืองกังวล เอ๊ย เมืองหละปูน) เจ้าเก่า

 

รู้แล้วใช่ไหมว่า ไฉนจดหมายและรูปอีตา “ปิยพงศ์” จึงถึงกาละและเทศะ

ที่จะแสดงตัว

แสดงตัวด้วยความปรารถนาที่จะเรียกร้องความยุติธรรม ความไม่สองมาตรฐาน

โดยเฉพาะในการเลือกตั้ง 24 มีนาคมนี้

แม้จะรู้เต็มอกว่า รัฐธรรมนูญได้คงอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไว้อย่างไร

ได้ออกแบบการเลือกตั้ง ส.ส. และการสรรหา ส.ว.ไว้อย่างไร

ซึ่งหลายคนบอกว่าหา ความยุติธรรม และความเป็นมาตรฐาน หาได้ยาก

แต่กระนั้นการเรียกร้องความยุติธรรม และไม่สองมาตรฐาน ต้องไม่หยุดยั้ง กดดันให้ต่อเนื่อง

เผื่อจะทำให้การเลือกตั้ง 24 มีนาคม ดีขึ้น

ไม่บิดเบี้ยว

หรือเจอกฎหมายอภินิหาร

อย่างที่ “นายสมัยสงคราม” ว่าไว้ในไปรษณียบัตร ที่ส่งมาปิดท้าย

 

สักวาว่าด้วยอภินิหาร

อวตารเอากฎหมายปูนหมายหัว

ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือรับใช้ตัว

ระวังบาปกรรมชั่วติดตัวไป

อย่าประมาทคาดว่ากรรมไม่มี

สนองดั่งจรวดเร็วรี่เคยเห็นไหม

ชาตินี้และเดี๋ยวนี้ตามกรรมใคร

ทั้งทุกข์กายและทุกข์ใจจำไว้เอย

นายสมัยสงคราม