ขอแสดงความนับถือ/ ฉบับประจำวันที่ 21-27 ธันวาคม 2561

ขอแสดงความนับถือ

 

คอลัมน์สิ่งแวดล้อม ของทวีศักดิ์ บุตรตัน

ติดตามเรื่องโลกร้อนมาตลอด

ล่าสุด รายงานให้ทราบว่า

การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศโลกครั้งที่ 24 ของสหประชาชาติ

ที่เมืองคาโตวีตเซ ประเทศโปแลนด์

ซึ่งมีประเทศต่างๆ เข้าร่วมเกือบ 196 ประเทศรวมทั้งไทยด้วยนั้น

ผลค่อนข้างเป็นบวก

ทุกประเทศตกลงเดินตามกฎกติกาที่เขียนไว้ในข้อตกลงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2558

มิฉะนั้น อุณหภูมิโลกพุ่งแน่นอน

ต้องไม่ลืม ชาวโลกมีเวลาร่วมมือลดปริมาณการปล่อยก๊าซพิษสู่ชั้นบรรยากาศเหลือแค่ 12 ปีเท่านั้น

ถ้าไม่ร่วมมือ เชื่อได้ว่าอนาคตลูกหลานจะเผชิญกับวิกฤตจากสภาวะอากาศแปรปรวนแน่นอน

ทั้งหนาวจัด ร้อนจัด พายุฝนหนัก น้ำทะเลเพิ่มสูงท่วมชายฝั่งหนักยิ่งกว่าที่กำลังเกิดขึ้นในยุคนี้

แต่ก็นั่นแหละ

แม้ข้อมูลนี้ นักวิทยาศาสตร์โลกและสหรัฐจะร่วมยืนยันจำนวนมาก

แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ “ผู้นำโลก” กลับไม่เชื่อ

และยังถอนตัวจากข้อตกลงปารีส

ทำให้กระแสโลกร้อน ขาดเอกภาพอย่างสำคัญ

 

เกือบทุกหนาว

แฟนประจำ “มติชนสุดสัปดาห์”

อย่าง “สงกรานต์  บ้านป่าอักษร” จะรายงานสภาพอากาศมาให้ทราบ

เพื่อรับท่องเที่ยว

ปีนี้เช่นกัน

 

หน้าหนาวปีนี้มีเสียงบ่นทั้งที่ราบสูงและต่ำ

ซึ่งพร่ำรำพันตัดพ้อถึงอุณหภูมิอากาศอันแปรปรวนชวนใจเก้อ

เพราะไม่หนาวเหมือนดั่งเช่นปีที่ผ่านมา

ทำเอาผู้ตั้งตารอคอยชีช้ำ (ฝันค้างเติ่ง)

โดยเฉพาะแฟชั่น-เสื้อผ้าหน้าผม ร้านอาหาร สถานท่องเที่ยวที่รอเก็บเกี่ยวผลกำไรความสุขแห่งฤดูกาลมานานแรมปี

เมื่อกาลกลับตาลปัตรจากน่าจะหนาวเป็นอบอ้าวเช่นนี้

เจ้าบ้านร้านถิ่นผู้ต้อนรับจึงหนาวใจ หวั่นไหวว่าปีหน้าฟ้าใหม่นักท่องเที่ยว (มิตรแก้วสหายคำ) จะเบาบางไม่เดินทางไปแอ่วหาอย่างคึกคักเหมือนดังเคย…

ซึ่งความผันผวนปรวนแปรเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ของดินฟ้าอากาศนั้น

เราจะไปชี้นิ้วโทษใครที่ไหนก็ไม่ได้

นอกจากน้อมใจยอมรับความเป็นไปของโลกย์

ซึ่งแต่ละคนต่างกินต่างใช้ไปตามปัจจัยกระตุ้น

อันมี “ทุนใหญ่-กลไกโลก” มอมเมา

เร่งเร้าให้อุปโภคบริโภคเกินความพอดี-ขาดดุลพินิจ เอาแต่คิดถึงผลประกอบการกอบโกยกำไร

แสวงอำนาจการครอบครองโลกธุรกิจการค้าอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ประดุจดังสัตว์ใหญ่ใจทมิฬฟาดงวงฟาดงาให้ (หญ้าแพรก) ชาวบ้านร้านตลาดร้าวราน

…วาระแห่งชีวิตในวัน เดือน ปีต่อไป

ผมจึงมองไม่เห็นหนทางใดที่จะดีไปกว่าการใคร่ครวญความเป็นอยู่ให้พอเหมาะพอควร

เจียมตัวเจียมใจไม่ฟุ้งซ่าน, ฝึกควบคุมตนเองให้อดกลั้น อดใจไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยจากเภทภัยนานาและกิเลสตัณหาทั้งปวง…

ด้วยระยะเวลาเนิ่นนานที่ผ่านมา

เป็นที่แจ้งใจแล้วว่าไม่มีใครที่ไหนมาแก้ปัญหาอันบั่นทอนชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมส่วนรวมได้เป็นระบบระเบียบโปร่งใสซื่อสัตย์

ไม่มีบุคคลหรือ “คณะ” ใดมากำหนดกฎเกณฑ์ให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนส่วนใหญ่ในบ้านเมืองดีขึ้นได้ด้วยวาทกรรมการปฏิรูป, ปฏิญญาสากลและคำมั่น-สัญญาประชาคมอันแยบยล (หนาวเย็นยะเยือก) ตลอดห้าฤดูกาลหนาวในการเมือง

ด้วยเหตุดังนั้น วาระแห่งชาติของเราจึงยิ่งต้องติดตามไตร่ตรองให้แจ้งชัด

ถึงเหตุและผลในความเป็นมาเป็นไปของการเมืองอย่างสุขุมรอบคอบคัมภีรภาพ

และน้อมใจสามัคคีฟันฝ่ามรสุมไปสู่ฤดูกาลใบไม้ผลิให้ได้อย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

…เพื่อความเป็นไทโดยเสรีในความคิด อิสระ

และสร้างสรรค์ชาติบ้านเมืองให้น่าอยู่อาศัย สู่อนาคตกว้างไกล-วิสัยทัศน์

ให้อนุชนคนรุ่นหลังได้สืบทอดเจตนารมณ์อย่างยั่งยืนวิวัฒน์…

มีความภาคภูมิใจในการดำรงอยู่อย่างสง่างามตามวิถีทางประชาธิปไตยอันเป็นของผู้คนส่วนใหญ่ในแผ่นดิน…

ด้วยความเคารพและนับถือ

สงกรานต์ บ้านป่าอักษร

 

อุตส่าห์มองข้าม “การเมืองไทย” ไปยังการเมืองโลก

หวังจะสัมผัสอะไรเย็นๆ บ้าง

แต่เมื่ออ่านอีเมลสงกรานต์ บ้านป่าอักษร

ก็ดูจะเหมือนจะไม่ได้ไปไหน

ร้อนรน (ในฤดูหนาว) ทั้งในธรรมชาติ และในการเมือง