ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 - 30 มีนาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ก่อสร้างและที่ดิน |
เผยแพร่ |
บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในสถานการณ์ปัจจุบันจะทำเพียงแค่ทำโครงการสร้างบ้านหรือคอนโดมิเนียมขายให้กับผู้ซื้อ และให้ผู้ซื้อหาสินเชื่อด้วยการยื่นกู้กับธนาคารต่างๆ ไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายได้เสียแล้ว เพราะผู้ซื้อบ้านจำนวนมากกู้ไม่ผ่านหรือไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร
บริษัทอสังหาฯ รายใหญ่บางรายอาจเลือกเปิดโครงการบ้านเฉพาะที่มีระดับราคาสูงเกินกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปซึ่งไม่มีปัญหาลูกค้ากู้เงินกับสถาบันการเงินไม่ผ่าน ซ้ำมีจำนวนไม่น้อยซื้อด้วยเงินสด แต่การเลือกเปิดโครงการระดับราคาสูงก็ใช่ว่าบริษัทอสังหาฯ ทุกรายจะทำได้ทันที เพราะต้องสะสมและสร้างความเชื่อถือของ “แบรนด์” มาพอสมควรสำหรับบ้านราคาแพง
ที่สำคัญบ้านราคาแพง 10-20 ล้านบาทขึ้นไปขนาดตลาดมีแค่ 2-3% ของจำนวนที่อยู่อาศัยซื้อใหม่ในแต่ละปี ตลาดที่อยู่อาศัยตลาดใหญ่สุดเป็นตลาดราคา 3-5 ล้านบาท และต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งตลาดนี้มีปัญหากู้ไม่ผ่านมากถึง 30-40% บางโครงการอาจถึง 50%
สาเหตุก็เนื่องจากผู้กู้กลุ่มใหญ่เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้ประจำเป็นเงินเดือน มักมีหนี้บัตรเครดิตจากการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค มักมีหนี้เช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ อยู่แล้ว ซึ่งหนี้กลุ่มนี้มีแนวโน้มหนี้เสียเป็นหนี้ NPL เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ธนาคารจึงไม่กล้าปล่อยกู้
สรุปจึงกลายเป็นปัญหา บริษัทพัฒนาอสังหาฯ มีขีดความสามารถสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูงได้ต้องการขาย ขณะที่ผู้ซื้อก็มีความต้องการซื้อ พร้อมซื้อ แต่สถาบันการเงินธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายไม่กล้าปล่อยกู้
เวลานี้ปัญหานี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ บางบริษัทอสังหาฯ มีการตั้งแผนกแก้ปัญหาการเงินกู้ผู้ซื้อ หรือบางรายตั้งบริษัทย่อยเพื่อหาแหล่งเงินมาให้บริการกับลูกค้าผู้ซื้อที่อยู่อาศัยโดยตรง
ล่าสุด งานมหกรรมบ้านและคอนโด ของ 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมการค้าอาคารชุด ระหว่างวันที่ 23-26 มีนาคม 2566 ผู้จัดงานได้เพิ่มเติมกิจกรรมในงาน เพิ่มบทบาทของงานมหกรรมให้เป็น Financial Advisory หรือที่ปรึกษาทางการเงิน ด้านสินเชื่อ ที่จะให้สถาบันการเงิน นักพัฒนาอสังหาฯ และผู้ซื้อมาพบกันเพื่อช่วยแก้ปัญหา
ปัญหาผู้ซื้อ “กู้ไม่ผ่าน” มีมานาน แนวโน้มหนักขึ้นเรื่อยๆ ตราบที่คนส่วนใหญ่ยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือน และยังไม่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น และภาครัฐบาลยังไม่มีนโยบาย มาตรการใดที่จะแก้ปัญหานี้
การเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึงในเดือนพฤษภาคมปีนี้ มีคนที่เตรียมถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิแดตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นอดีตซีอีโอบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่
หากเป็นไปตามโพลจริง รัฐบาลใหม่น่าจะเข้าใจปัญหาของคนอยากมีบ้านและคนทำบ้านขายดีที่สุดรัฐบาลหนึ่งทีเดียว •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022