ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 มีนาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ก่อสร้างและที่ดิน |
เผยแพร่ |
อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย บ้าน คอนโดฯ เป็นสินค้าสำหรับบุคคลที่มีราคาแพงที่สุดในบรรดาสินค้าปัจจัย 4 ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ อันได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค
คนทุกคนล้วนต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองทั้งสิ้น
แต่การที่จะมีเงินซื้อที่อยู่อาศัยกันได้มากตามต้องการได้นั้น เศรษฐกิจประเทศต้องมีการเติบโตดี คนส่วนใหญ่มีรายได้สูงขึ้น ธุรกิจอสังหาฯ จึงจะคึกคัก
ภาวะธุรกิจอสังหาฯ ปัจจุบัน หากดูจากผลประกอบการปี 2565 ที่ผ่านมาก็ต้องถือว่าดีเยี่ยม แต่สภาพดีเยี่ยมที่ว่าหากดูรายละเอียดก็จะพบว่า ที่ว่าดีๆ นั้นเป็นบ้านตลาดบน ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ที่ผู้ซื้อมีเงินเก็บ แต่ขนาดกลุ่มนี้มีขนาดจำนวนไม่มาก ประมาณ 2.5% ของตลาดรวม
ตลาดใหญ่ของอสังหาฯ ที่อยู่อาศัย คือบ้าน คอนโดฯ ระดับราคา 3-5 ล้านบาท แต่คนกลุ่มนี้ติดกับดักหนี้ครัวเรือนสูง ทำให้การยื่นกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยถูกธนาคารปฏิเสธการปล่อยกู้ในอัตราที่สูงมาก
ถือว่าทางข้างหน้าของอสังหาฯ ไม่ราบรื่น กำลังซื้อในตลาดมีจำกัด
ธุรกิจอสังหาฯ ที่อยู่อาศัยต่อจากนี้จะฟื้นตัว หรือเติบโต จึงขึ้นอยู่กับการบริหารเศรษฐกิจของประเทศให้มีอัตราเจริญเติบโตสูงเป็นสำคัญ
รัฐบาลที่บริหารมากว่า 8 ปี ขอไม่กล่าวถึง เพราะความจริงเชิงประจักษ์ชัดเจนอยู่แล้ว
ที่ต้องจับตามอง คือนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ที่กำลังรณรงค์หาเสียงกันอยู่เวลานี้ พรรคใดมี
นโยบายเศรษฐกิจด้านไหนอย่างไร
พบว่า นโยบายเศรษฐกิจที่ออกมาส่วนใหญ่ ยังวนเวียนอยู่กับการแจกเงินหรือโปรโมชั่นในรูปแบบต่างๆ แข่งขันกันที่จำนวนตัวเลขใครมากน้อยกว่ากัน
ยังไม่เห็นนโยบายใหญ่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระบบ อาทิ การลงทุนระบบอินฟราสตรักเจอร์ประเทศ การสร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่เป็นอนาคต การยกระดับสินค้าเกษตรไทย
คาดว่า ใกล้วันเลือกตั้งคงจะมีนโยบายเหล่านี้ออกมาจากพรรคการเมือง
เพราะการเมืองที่มีการเลือกตั้ง รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ยังไงก็ต้องฟังเสียงความเรียกร้องต้องการของประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง เพราะต้องการชนะเลือกตั้ง
ประชาชนและภาคธุรกิจเอกชนต้องส่งเสียงเต็มที่ ทั้งความต้องการระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว
สําหรับอสังหาฯ ที่อยู่อาศัยไม่ควรเรียกร้องแค่การลดหย่อนภาษีค่าธรรมเนียมระยะเวลาหนึ่ง
ไม่ควรเรียกร้องแค่การลดหย่อนมาตรการ LTV หรือสัดส่วนเงินดาวน์ เพราะมาตรการเหล่านี้เปรียบเสมือนโปรโมชั่นที่ภาครัฐช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ได้สร้างกำลังซื้อ
ควรจะเรียกร้องให้มีนโยบายที่ทำให้เกิดธุรกิจและอุตสาหกรรมใหม่ๆ เกิดการจ้างงาน มีรายได้ที่ยั่งยืน และเกิดกำลังซื้อที่อยู่อาศัย
พรรคการเมืองใดมีนโยบายลักษณะนี้ และน่าเชื่อถือว่าทำได้จริง
เราก็เลือกพรรคนั้น •
ก่อสร้างและที่ดิน | นาย ต.
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022