เจาะลึกเส้นทาง 26 ปี บทพิสูจน์ความสำเร็จ “ท็อปส์” ที่ยืนหนึ่งในใจคนไทยอย่างยาวนาน

ระดับพรีเมียมที่อยู่เคียงคู่สังคมไทย  สามารถครองใจลูกค้าคนไทยทั่วประเทศมาอย่างยาวนาน จากจุดเริ้มต้นของ “ท็อปส์” ต้นแบบซูเปอร์มาร์เก็ตที่ครบวงจรและเต็มรูปแบบแห่งแรกในประเทศไทย ได้เปิดสาขาแรกเมื่อปี 2539 ที่รอยัล ซิตี้ อเวนิว อาคาร RCA PLAZA ย่านถนนเพชรบุรี ภายใต้ชื่อแบรนด์ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่โดดเด่นที่สุดรองรับกับวิถีชีวิตของคนเมืองในยุคนั้น โดยมีสินค้าคุณภาพสูง สดใหม่ ครบครัน  สินค้านำเข้ามากมาย เป็นการนำเสนอความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่  ตลอดระยะเวลาบนเส้นทางธุรกิจฟู้ดรีเทลจะเห็นได้ว่า ท็อปส์ ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาเพื่อให้สามารถตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค ยึดมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุกด้านให้กับลูกค้าทุกคน พร้อมดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาและสร้างความยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วน ทำให้จนมาถึงวันนี้ท็อปส์ยังคงรักษาความเป็นผู้นำ เป็นแบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตในใจผู้บริโภคอย่างเหนียวแน่น มีการขยายสาขาไปทั่วประเทศ พร้อมมีเป้าหมายทิ่ยิ่งใหญ่ในการขับเคลื่อนธุรกิจอีก 5 ปีข้างหน้า แบรนด์ ท็อปส์จะผงาดขึ้นเป็นเบอร์ 1 ธุรกิจฟู้ดรีเทลในไทยเวียดนาม

มากกว่า ซูเปอร์มาร์เก็ต… แต่ “ท็อปส์” เป็น ฟู้ด เดสติเนชัน สำหรับทุกคน (Food Destination For All)

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ท็อปส์ เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่ยืนหนึ่งในใจลูกค้าได้ด้วยการนำ Customer Centric ยึดถือความต้องการลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ นำมาสู่การพัฒนารูปแบบร้านใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา รวมไปถึงการขยายสาขาในแต่ละโลเคชันอย่างเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าหลากหลายรูปแบบเปิดให้บริการทั่วประเทศทั้งท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์,  และล่าสุดกับการเปิดตัว ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ เวิลด์พรีเมียมฟู้ดสโตร์ แห่งแรกของไทยใจกลางสุขุมวิท 39 เป็นการตอกย้ำภาพความเป็นผู้นำฟู้ดค้าปลีกที่เป็นสุดยอดฟู้ด เดสติเนชัน สำหรับทุกคน ทุกช่วงเวลา และทุกเจเนอเรชันอีกด้วย 

ใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อส่งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่เหนือระดับ ทุกที่…ทุกเวลา

ด้วยแนวคิดการยึดลูกค้าเป็นสำคัญ ทำให้ท็อปส์ ไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อให้ครอบคลุมกับทุกความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ด้วยสินค้าคุณภาพ ที่ครบครัน หลากหลายกว่า 45,000 รายการ จากทั่วทุกมุมโลก พร้อมนำเสนอสินค้าด้วยรูปแบบ Room Concept ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเพิ่มสีสันความสนุกในการช้อปปิ้งให้แก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ท็อปส์ ยังเข้าใจในเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคที่ดิจิทัลเข้ามาดิสรัปต์ จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มออมนิแชแนล ที่แข็งแกร่ง ทั้งช่องทาง Tops Online หรือบริการผู้ช่วยช้อปส่วนตัว’ (Personal Shopper) ส่งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ช้อปสินค้าคุณภาพได้ทุกที่ ทุกเวลา

 

สร้างปรากฎการณ์ใหม่ของวงการค้าปลีกไทย ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย  

หนึ่งในปัจจัยแห่งความสำเร็จของ ท็อปส์ ตลอด 26 ปี คือการไม่ยุดยั้งที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อความต้องการและการแข่งขันที่เกิดขึ้นในโลกธุรกิจ ท็อปส์พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่งมอบบริการที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า เพื่อยกระดับการช้อปปิ้งไปอีกขั้นทั้ง การพัฒนาเครื่องชำระค่าสินค้าด้วยตัวเอง (Self-Checkout) รวมถึงระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless Payment), การเปิดตัว “น้องเต็มใจ” หุ่นยนต์ผู้ช่วยบริการอัจฉริยะ (AI Service Robot), สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดทั้งการใช้ตู้เย็นประหยัดพลังงาน จัดให้มีจุดชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า EV (Electric Vehicle) ตลอดจนเป็นพาร์ทเนอร์กับสตาร์ทอัพเพื่อนำนวัตกรรมใหม่ ๆ พร้อมเป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลงทรานส์ฟอร์มเข้าสู่การเป็น Innovated Supermarket ของเมืองไทย

สร้างธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่ง ควบคู่กับสังคมที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน

หัวใจการทำธุรกิจของ “ท็อปส์” คือการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มั่นคง ควบคู่กับการสร้างสรรค์สังคมที่น่าอยู่ ไม่เพียงแต่การพัฒนาธุรกิจเพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภคคนสำคัญ แต่ยังคงให้ความสำคัญกับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยการยึดหลักการสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างธุรกิจและสังคม (Creating Shared Value) ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ‘ท็อปส์’ ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ อาทิ การเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรนำสินค้ามาจำหน่ายส่งตรงถึงมือผู้บริโภคในตลาด ‘จริงใจ FARMERS’ MARKET’ การมอบโอกาสการเติบโตทางธุรกิจให้กับ SME ทั่วประเทศผ่านแพลตฟอร์ม ท็อปส์ ท้องถิ่นการส่งต่ออาหารส่วนเกินจากร้านท็อปส์ 129 สาขา ให้กับ ผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มผู้เปราะบางทางสังคม 700 ชุมชนทั่วประเทศ ผ่านโครงการ FOOD for GOOD DEED อาหารปันสุข” นอกจากนี้ ในช่วงภาวะสินค้าขยับขึ้นราคา ท็อปส์ ยังได้จัดการ ล็อคราคา สินค้า แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายยืนหยัดเคียงข้างคนไทย พร้อมร่วมบริจาคอาหารและสิ่งของอีกมากมายในช่วงที่คนไทยต้องประสบความเดือดร้อนทั้งจากภัยธรรมชาติและโรคระบาด

                                                     

ก้าวต่อไปอย่างมั่นคง…ในฐานะเบอร์ 1 ฟู้ดค้าปลีกของไทย

“ท็อปส์” ยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่เป็นหน่วยงานทางธุรกิจที่เป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ เพื่อร่วมขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน พร้อมสนับสนุนและช่วยเหลือ ตอบแทนสังคมไทย คนไทยทุกคน ด้วยการทำงานร่วมกันกับคู่ค้าคนสำคัญ องค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน กลุ่มเกษตรกร ชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ และพนักงานของเราทุกคน  พร้อมที่จะก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ด้วยความสำเร็จ รักษาความเป็นผู้นำและเป็นแบรนด์ที่ยืนหนึ่งในใจผู้บริโภคตลอดไป

และในโอกาสฉลองครบรอบ 26 ปี ‘ท็อปส์’ ได้เตรียมโปรโมชั่นสุดคุ้มค่าเพื่อส่งมอบความสุขและตอบแทนลูกค้าทุกคนที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน นำตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์สุดคลาสสิคที่ครองใจเด็กๆ ทั่วโลกมายาวนานกว่า 50 ปี อย่าง MR.MEN & LITTLE MISS มาสร้างสีสัน ความสดใส ให้โลดแล่นอยู่ภายในร้านท็อปส์ทุกสาขาเป็นเสมือนตัวแทนของท็อปส์ที่ส่งมอบความรัก ความสุข สนุกสนาน ประสบการณ์ที่แสนพิเศษ พร้อมด้วยรอยยิ้มและ เสียงหัวเราะให้กับคนไทยมาตลอด 26 ปี โดยจัดทำเป็นสินค้าแลกซื้อคอลเลคชั่นสุดพิเศษให้ทุกคนได้สะสม

ร่วมโปรโมชั่น “ลุ้น แลก คุ้ม!” ท็อปส์ ฉลองครบรอบ 26 ปี แจกโชคใหญ่ รวมกว่า 2,655,000 บาท เพียงซื้อสินค้าครบทุก 200 บาท ต่อใบเสร็จ รับสิทธิ์ 2 ต่อ ได้แก่  ต่อที่ 1 รับ 1 สิทธิ์เลือกลุ้น รถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ จีแอลเอคลาส 200 จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 2,330,000 บาท, ทองคำแท่ง 2 สลึง มูลค่า 15,000 บาท จำนวน 15 รางวัล และ บัตรของขวัญท็อปส์ กิ๊ฟท์คาร์ด มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 100 รางวัล , ต่อที่ 2 รับสิทธิ์แลกซื้อแก้วมัคคอลเลคชั่นพิเศษ Tops 26th Anniversary Mr. Men & Little Miss 1 ใบ เพียง 79 บาท จากปกติ 259 บาท มีให้เลือกสะสม 4 แบบ 4 สไตล์  ตั้งแต่วันนี้ – 6 กันยายน 2565 ที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ ออนไลน์, ท็อปส์ เดลี่ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา

            ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tops.co.th, เฟซบุ๊กแฟนเพจ TopsThailand หรือแอปพลิเคชัน @TopsThailand

###

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,550 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่  (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 58 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565)