| เผยแพร่ |
|---|
กรุงเทพฯ 25 พฤศจิกายน 2564 – กลุ่มมิตรผล ก้าวขึ้นสู่อันดับ 3 ด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Development) ระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร จากการประเมินด้านความยั่งยืนขององค์กร หรือ Corporate Sustainability Assessment (CSA) โดย S&P Global โดยขยับขึ้นจากอันดับ 4 ในปี 2563 ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับสังคมมากว่า 65 ปี ตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำและยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานระดับโลก โดยในปีนี้ นับเป็นปีที่ 4 ที่กลุ่มมิตรผลได้เข้าร่วมการประเมินความยั่งยืนระดับสากล และมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในหัวข้อหลักเรื่องเศรษฐกิจ-ธรรมาภิบาล สิ่งแวดล้อมและสังคม ตลอดจนหัวข้ออื่นๆ ที่ได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน อาทิ การบริหารจัดการนวัตกรรม การบริหารจัดการความเสี่ยงทรัพยากรน้ำ การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน และการพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน เป็นต้น
นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหารกลุ่มมิตรผล เปิดเผยถึงผลการประเมินด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนขององค์กรในครั้งนี้ว่า “การดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้ทุกคนต้องปรับตัวอย่างมาก ดังนั้นการสร้างความยั่งยืนขององค์กร จึงไม่ได้เป็นแต่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจเท่านั้น แต่ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ ชาวไร่อ้อย คู่ค้า ลูกค้า ชุมชน สังคม และพนักงาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ โดยต้องลงมือทำให้เกิดขึ้นจริง ตามหลักปรัชญาของกลุ่มมิตรผล “ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ” ความสำเร็จที่กลุ่มมิตรผลได้รับในปีนี้ สะท้อนถึงความตั้งใจของกลุ่มมิตรผลที่จะยกระดับองค์กรให้มีมาตรฐานความยั่งยืนในระดับสากล โดยถึงแม้ว่ากลุ่มมิตรผลจะไม่ได้เป็นองค์กรที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้มีความโปร่งใสและมีมาตรฐานเดียวกับบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ เราจึงได้เข้าร่วมประเมินความยั่งยืนขององค์กรร่วมกับ S&P Global
การดำเนินงานเพื่อสร้างการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของกลุ่มมิตรผล แบ่งออกเป็น 3 มิติ ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals: SDGs) โดยมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตให้กับทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่ทางธุรกิจ (Value Chain) ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ที่เริ่มตั้งแต่การพัฒนาศักยภาพเกษตรกรสู่การเป็น Smart Farmer ที่สามารถคิดวิเคราะห์และปรับตัวโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการทำเกษตรกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างผลผลิตคุณภาพสูง การพัฒนาศักยภาพของพนักงาน การบริหารจัดการโรงงานให้มีระบบการผลิตมาตรฐานระดับสากล ลดการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การดูแลและพัฒนาชุมชนรอบข้างในโครงการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน การจัดตั้งกองทุนมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19 เพื่อช่วยเหลือสังคมไทยในด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ตั้งแต่บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยและผู้ที่ต้องกักตัว กลุ่มคนเปราะบาง คนไร้บ้าน เด็กและเยาวชน รวมถึงการนำองค์ความรู้ การวิจัย และนวัตกรรม มาปรับใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้อ้อยสู่ธุรกิจต่างๆ ในอุตสาหกรรม Bio-base ตลอดจนการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง และมีกระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence)
จากความสำเร็จในการเป็นองค์กรไทยที่อยู่ในอันดับ Top 3 ด้านความยั่งยืนของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มมิตรผล ยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนองค์กรและทุกภาคส่วนเพื่อสร้างการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องต่อไป
Mitr Phol Group Leads the Way Towards Sustainable Development,
Placing 3rd Globally in the Food Category,
Reflecting Commitment to Creating a Sustainable Future
Throughout the Business Value Chain
Bangkok, 25 November 2021 – Mitr Phol Group moves forwards to the 3rd in global sustainability rankings of the food category according to the Corporate Sustainability Assessment (CSA) conducted by S&P Global, moving up one spot from the 4th in 2020. This reflects the organization’s commitment over the past 65 years to conduct business ecologically from upstream to downstream to ensure a sustainable future for society and elevate to a world-class corporation. This is the 4th year running in which Mitr Phol has participated in the internationally-recognized evaluation, whereby Mitr Phol received excellent grades in the main themes of Governance-Economic, Social Dimension, and Environmental Dimension criteria. Perfect scores of 100 were achieved in areas such as Innovation Management, Water Related Risks, Human Rights, and Social Impacts on Communities, among others.
Mr. Buntoeng Vongkusolkit, Chairman of Mitr Phol Group, disclosed the evaluation results on the organization’s sustainability, saying “Nowadays, it is important to place emphasis on sustainable development for the society, the environment, and all sectors related to business, especially amidst the changing trends including climate change and the Covid-19 pandemic which forces everyone to make adjustments. Therefore, creating organizational sustainability should not only aim to increase business competitiveness, but also focus on supporting stakeholders such as cane farmers, commercial partners, communities, societies, and employees, to create sustainability throughout the business value chain in accordance with the Group’s philosophy of “Grow Together”. Mitr Phol Group’s accomplishment this year reflects the organization’s commitment to elevate towards a world-class sustainable corporation. Although Mitr Phol Group is not listed in the Stock Exchange of Thailand (SET), we are determined to develop our sustainability standards in a transparent manner using the same criteria as leading companies listed in the SET, thus participating in the assessment by S&P Global.”
Mitr Phol Group’s work on sustainable development is divided into three dimensions covering the economy, society, and environment in accordance with the United Nations Sustainable Development Goals (SDGs). Emphasis is placed on creating upstream and downstream growth for all sectors throughout the value chain, starting from increasing agricultural productivity by becoming Smart Farmers who can make use of modern environmentally-friendly farming technology to make analyses and adjustments to harvest high-quality yield, enhancing worker’s capabilities, improving industrial management to meet international standards, reducing energy usage and its lessening environmental impact, as well as implementing sustainable development projects for surrounding communities.
The establishment of the “Mitr Phol-Banpu Solidarity to Aid Thailand on COVID-19 Confrontation Endowment” supports Thai society in the areas of public health and the economy, patients, those in quarantine, vulnerable groups, the homeless, children and youth. Efforts were also made to apply know-how, research, and innovation to increase sugar cane productivity and value in various businesses under bio-based industries, as well as to genuinely promote human rights using the Human Rights Due Diligence process.
As a Thai corporation which has attained a Top 3 global sustainability ranking in the food category, Mitr Phol strives to continuously propel the organization and its stakeholders forward to ensure sustainable development.
