ผ่ากลยุทธ์การตลาด 7 ทศวรรษ ห้างเซ็นทรัล ผ่านหนังโฆษณาไวรัลของแต่ละยุค

กรุงเทพฯ 17 กันยายน 2564  –  บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด  (มหาชน) หรือ CRC ส ะท้อนความสำเร็จกว่า 7 ทศวรรษ ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ผ่านการเปิดตัวคลิปวีดิโอออนไลน์ชุด “ไทม์ไลน์” เพื่อสะท้อนแคมเปญกิจกรรมทางการตลาด และกิจกรรมส่งเสริมสังคม ที่บริษัทได้ดำเนินการมาตลอดระยะเวลาดังกล่าว ประกอบด้วยเรื่องราวที่น่าจดจำ อาทิ การเปิดตัว “เซ็นทรัล ลาดพร้าว” ศูนย์การค้าครบวงจรแห่งแรก, เปิดแคมเปญห้ามสูบบุหรี่ในห้างครั้งแรก, เปิดตัวโฆษณาทอล์คออฟเดอะทาวน์ “พี่แม็คกับหนูผี”, การเปิดตัว The 1 card พร้อมให้กำลังใจคนไทยในช่วงวิกฤตโควิด-19 ผ่านไวรัลคลิปสุดประทับใจ เรื่อง “พร้อม…” ที่มียอดวิวถล่มทลายกว่า 17 ล้านวิว โดยปัจจุบัน เซ็นทรัลถือเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำระดับโลกที่น่าภาคภูมิใจของประเทศ และเป็นแหล่งรวบรวมแบรนด์ชั้นนำ เพื่อให้บริการคนไทยอย่างครบวงจร 

นางยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) – MKT

            ยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า    กว่า 7 ทศวรรษ ที่ห้างเซ็นทรัลอยู่เคียงข้างคนไทย เป็นดั่งศูนย์กลางในการขับเคลื่อนทุกชีวิต ทุกธุรกิจ และสังคม ให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน เราได้พัฒนาธุรกิจ และกลยุทธ์การตลาดมาอย่างต่อเนื่อง โดยยึดลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญในการทำทุกสิ่ง และไม่เคยหยุดแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสร้างความพึงพอใจ และประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าอยู่เสมอ ทำให้ลูกค้า คู่ค้า และพนักงานทุกคน รู้สึกได้ว่าเซ็นทรัล ไม่ได้เป็นเพียงแค่ห้าง แต่เป็นบ้านหลังที่สองของคนไทยทุกเพศทุกวัย โดยในปีนี้เราได้จัดทำคลิปวีดีโอออนไลน์ชุด “ไทม์ไลน์” เพื่อพาทุกคนนั่งไทม์แมชชีน  กลับไปย้อนความทรงจำดีๆ ร่วมกัน และทำให้เห็นว่า เซ็นทรัลอยู่ในทุกช่วงเวลาสำคัญต่าง ๆ ของชีวิต เราเติบโตมาคู่กับประเทศไทย และคนไทย ก่อให้เกิดเป็นความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นจากรุ่นสู่รุ่น ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าจดจำ และความประทับใจมิรู้ลืม ได้แก่

พ.ศ. 2550 – แคมเปญ _เพราะมีคุณ ถึงมีเรา_ ฉลองครบรอบ 60 ปีของเซ็นทรัล

เปิดตัว “เซ็นทรัล ลาดพร้าว” ศูนย์การค้าครบวงจรแห่งแรก ในปีพ.ศ. 2525 ปีเดียวกับการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เป็นเสมือนแหล่งรวมสิ่งทันสมัย ความบันเทิง สินค้าแบรนด์คุณภาพ นำเทรนด์แฟชั่น  ที่วัยรุ่นยุคนั้นไม่พลาดที่จะไปเช็คอิน และถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ของธุรกิจห้างสรรพสินค้าในขณะนั้น

พ.ศ. 2525 – เปิดตัว “เซ็นทรัล ลาดพร้าว” ศูนย์การค้าครบวงจรแห่งแรก ปีเดียวกับการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี.

เปิดแคมเปญห้ามสูบบุหรี่ในห้างฯ ในปีพ.ศ. 2535 โดย เซ็นทรัล ถือเป็นองค์กรแรกของประเทศไทยในการประกาศพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่ เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้กับคนไทย และผู้ใช้บริการ ซึ่งประกาศดังกล่าวของห้างเซ็นทรัลเกิดขึ้นก่อนที่กฎหมายจะกำหนดห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะถึง 27 ปี

พ.ศ. 2537 – โฆษณาตรุษจีนชุดแรก กับประโยคยอดฮิต “ตรุษจีนนี้อาม่าอยากไปเที่ยวไหน…ไป เซ็นทรัล”

เปิดตัวโฆษณาตรุษจีนชุดแรก กับประโยคยอดฮิต “ตรุษจีนนี้อาม่าอยากไปเที่ยวไหน…ไป เซ็นทรัล” เกิดกระแส ‘ไวรัล’ ในยุคที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนหรือเฟซบุ๊ก สะท้อนเทศกาลตรุษจีนที่น่าจดจำปี พ.ศ. 2537 และเป็นต้นกำเนิดของการสร้างกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ชาวไทยเชื้อสายจีน

เปิดตัวโฆษณาทอล์คออฟเดอะทาวน์ “พี่แม็คกับหนูผี” ในปีพ.ศ. 2541 โฆษณาที่เชื่อมโยงความรู้สึกดี ๆ ของคนไทยกับเซ็นทรัล ผ่านคำติดหูในสมัยนั้นที่ว่า “ที่เซ็นทรัล คุณจะได้สิ่งที่ดีที่สุดกลับไปเสมอ”

เปิดตัวบัตร The 1 Loyalty card บัตรที่เชื่อมเซ็นทรัล และคนไทยให้ใกล้กันมากขึ้น ที่ปัจจุบันมีสมาชิกถึง 18 ล้านคน ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่คนไทยฉลองการเปิด “สุวรรณภูมิ” สนามบินแห่งใหม่ ในปีพ.ศ. 2549

พ.ศ. 2541 – โฆษณาทอล์คออฟเดอะทาวน์ “พี่แม็คกับหนูผี” กับคำติดหูในสมัยนั้นที่ว่า “ที่เซ็นทรัล คุณจะได้สิ่งที่ดีที่สุดกลับไปเสมอ”

เปิดตัวแคมเปญ “เพราะมีคุณ ถึงมีเรา” ในปีพ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นปีที่ห้างเซ็นทรัลฉลองครบรอบ 60 ปี มาพร้อมกับคำคุ้นหูที่ว่า “ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกที่ ที่เซ็นทรัล” และยังเป็นปีเดียวกับที่โลกก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และสมาร์ทโฟน เครื่องแรกได้เข้าสู่ประเทศไทย

เปิดตัวไวรัลคลิปสุดประทับใจ เรื่อง “พร้อม…” ในปีพ.ศ. 2563 เพื่อให้กำลังใจคนไทยในการก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน พร้อมประโยคฮิตติดหูที่ว่า “ถ้ามัวแต่ก้มหน้า เราก็จะมองไม่เห็นสายรุ้ง” ซึ่งสร้างความประทับใจ และทำให้มียอดวิวถล่มทลายกว่า 17 ล้านวิว

พ.ศ. 2563 – คลิปไวรัลสุดประทับใจ เรื่อง _พร้อม_ กับประโยคติดหูว่า _ถ้ามัวแต่ก้มหน้า เราก็จะมองไม่เห็นสายรุ้ง

            “ตลอดระยะเวลามากกว่า 70 ปีที่ผ่านมา ที่เซ็นทรัลได้อยู่เคียงข้าง และอยู่ร่วมกับคนไทยในทุกเรื่องราวของชีวิต เราได้พัฒนาองค์กรมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนไทยได้รับสินค้า และบริการที่ดีที่สุด อันส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบองค์รวมให้ครึกครื้น มีการจับจ่ายใช้สอยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังมีโครงการช่วยเหลือสังคมต่าง ๆ เพื่อเป็นการคืนกลับสู่สังคม และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยทุกคน ทำให้ปัจจุบันเซ็นทรัลเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เป็นหนึ่งในธุรกิจแห่งความภูมิใจของคนไทย และยังเป็นห้างอันดับหนึ่งในใจลูกค้ามาตลอด 7 ทศวรรษ โดยในอนาคต เซ็นทรัล จะยังคงมุ่งมั่นในการสร้างสิ่งดี ๆ ให้คนไทย เพื่อสะท้อนสายใยอันมั่นคง ระหว่างลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตร กับห้างเซ็นทรัล ที่มีต่อกันอย่างเหนียวแน่นตลอดไป” ยุวดี กล่าวสรุป

สำหรับคลิปวีดีโอ “ไทม์ไลน์” และข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/CentralRetail

###

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย และเป็นบริษัทเรือธงด้านค้าปลีกซึ่งเป็นรากฐานของกลุ่มเซ็นทรัล มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,687 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564) นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภท (Multicategory) ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multiformat) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มออมนิแชนแนล ธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มแฟชั่น เน้นสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ภายใต้ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ซูเปอร์สปอร์ต, เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (CMG) และรีนาเชนเต (Rinascente); (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ เน้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าตกแต่งซ่อมแซมบ้าน ภายใต้ ไทวัสดุ, บ้านแอนด์บียอนด์, เพาเวอร์บาย, เหงียนคิม, ออฟฟิศเมท, บีทูเอส, และเมพ (ebook); (3) กลุ่มฟู้ด เน้นสินค้าของสดและของใช้บริโภคในครัวเรือน ภายใต้ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, แฟมิลี่มาร์ท, บิ๊กซี/โก! และลานชี มาร์ท; และ (4) กลุ่มพร้อพเพอร์ตี้ เน้นให้เช่าพื้นที่ค้าปลีกแก่บุคคลภายนอกและร้านค้าในเครือฯ ภายใต้ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์, ท็อปส์ พลาซ่า, และบิ๊กซี/โก! โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 54 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 39 จังหวัด, และประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน2564)