เผยแพร่ |
---|
“เปลือกไข่บดมีคุณสมบัติช่วยให้โครงสร้างของดินดี ทำให้ดินโปร่งขึ้น ส่งผลให้รากของพืชชนิดต่างๆสามารถชอนไชหาอาหารได้ดี และยังเพิ่มปริมาณธาตุอาหารของพืชในดิน ผลผลิตเติบโตดี เกษตรกรที่นำเปลือกไข่บดไปใช้เป็นปุ๋ย มีผลผลิตเพิ่มขึ้น 10-15% ” นางสาววิลาวัลย์ เรียนเวช นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สถานีพัฒนาที่ดินนครนายก ให้ข้อมูลถึงคุณสมบัติของเปลือกไข่บด ซึ่งชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครนายก นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการเกษตร ช่วยลดต้นทุนของเกษตรกร
เปลือกไข่บดที่เกษตรกรในพื้นที่ จ.นครนายก นำไปใช้เพื่อใส่บริเวณโคนต้นไม้ ใช้เป็นส่วนผสมในการทำน้ำหมักจุลินทรีย์ต่างๆ ใช้ผสมดินเพื่อปรับปรุงสภาพดินและเพิ่มแร่ธาตุ เป็นเปลือกไข่ที่ได้มาจากโรงงานแปรรูปไข่บ้านนา ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เป็นการบริหารจัดการเปลือกไข่ที่เหลือจากกระบวนการผลิต ส่วนหนึ่งโรงงานนำมาปรับพื้นที่ในโรงงานเอง และอีกส่วนหนึ่งปันให้เกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูก พืชสวนครัว สวนผลไม้ นาข้าว เป็นอีกทางเลือกที่ส่งเสริมการสร้างความมั่นคงทางอาหารระดับชุมชน
นางวรรณทนีย์ ชำนาญเศรษฐการณ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรตลอดกระบวนการผลิตเกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการนำแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ ซึ่งในส่วนของโรงงานแปรรูปไข่บ้านนา มีการบริหารจัดการเปลือกไข่จากกระบวนการผลิต ปีละเฉลี่ย 1,000 ตัน โดยดำเนินโครงการ”ปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกไข่บด”ตั้งแต่ปี 2557 นำเปลือกไข่บดกระจายให้เกษรกรในพื้นที่นำไปทำปุ๋ยหมัก หรือนำไปผสมเตรียมดินเพื่อใช้ปลูกต้นไม้ โรยที่โคนต้นไม้ ช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมี สร้างความมั่นคงทางอาหารในครัวเรือนและในชุมชน ได้บริโภคผลผลิตที่ปลอดภัย
โดยในปี 2563 โรงงานแปรรูปไข่บ้านนา มีปริมาณเปลือกไข่จากกระบวนการผลิตทั้งหมด 1,302 ตัน จัดสรรให้เกษตรกร 65 % และอีก 35 % นำไปใช้ปรับพื้นที่ในโรงงาน และในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค.-เม.ย.64) มีปริมาณเปลือกไข่ 520 ตัน
เสียงสะท้อนจากเกษตรกรในพื้นที่ที่รับเปลือกไข่จากโรงงานไปใช้ประโยชน์ บอกว่าเปลือกไข่มีคุณสมบัติในการปรับปรุงสภาพดิน และทำให้ผลผลิตที่ปลูกเติบโตได้ดี จากการที่ช่วยเพิ่มปริมาณธาตุอาหารของพืชในดิน ทั้งไนโตรเจน แคลเซียม และแมกนีเซียม
เกษตรกรในพื้นที่ จ.นครนายก “นายเกรียงไกร วงศ์ทวีวัฒนา” อายุ 57 ปี ปลูกผักไว้บริโภคเองและนำผลผลิตผักส่งจำหน่าย เล่าว่า ได้รับคำแนะนำจากคุณครูโรงเรียนวัดคลองโพธิ์ ซึ่งขอรับเปลือกไข่จากโรงงานแปรรูปไข่ของซีพีเอฟอยู่แล้วและนำไปใช้ได้ผลดี ผมจึงเข้ามาเปลือกไข่จากโรงงานฯไปทดลองใช้กับสวนผักและสวนผลไม้ที่ปลูกไว้ โดยเข้ามาขอรับเปลือกไข่บด ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน รับเปลือกไข่บดจากโรงงานสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1 ตัน นำเปลือกไข่มาผสมกับแกลบดำ ปุ๋ยคอก หญ้า ฟาง ใส่น้ำหมักและทิ้งไว้ 1-2สัปดาห์ นำไปใส่โคนต้นไม้ สังเกตได้ว่าเปลือกไข่บดมีส่วนช่วยปรับปรุงสภาพดินให้ดินโปร่งขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตเติบโตได้ดี
“ขอบคุณในความเอื้อเฟื้อของซีพีเอฟที่มีต่อเกษตรกรในพื้นที่ เป็นเรื่องที่ดีที่บริษัทฯมีโครงการส่งเสริมเกษตรกรในชุมชน อยากให้ช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป ” นายเกรียงไกร กล่าว
นางวารินทร์ สุขชม อาชีพคุณครูและเพิ่งเกษียณอายุราชการ เป็นอีกคนหนึ่งที่ขอรับเปลือกไข่จากโรงงานของซีพีเอฟ กล่าวว่า ขอขอบคุณซีพีเอฟที่นำเปลือกไข่บดของโรงงานฯ มาให้คนในพื้นที่จังหวัดนครนายกใช้ประโยชน์ เช่นเดียวกับที่บ้านของตน ซึ่งอยู่ใกล้โรงงานแปรรูปไข่บ้านนา จ.นครนายก จึงขอเปลือกไข่บดจากโรงงานมาใส่ต้นไม้ ตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้วในช่วงที่ยังทำงานอยู่ จะนำรถกระบะไปบรรทุกเปลือกไข่จากโรงงานทุกวันเสาร์ ครั้งละประมาณ 1 ตัน ส่วนช่วงปิดเทอมจะเข้าไปรับเปลือกไข่มาทุกวันจนถึงปัจจุบันเกษียณอายุ
ออกมาปลูกพืชผักสวนครัว ผลไม้ไว้บริโภคเอง ก็ยังเข้าไปขอรับเปลือกไข่จากโรงงาน มาใช้โรยที่โคนต้นไม้ตลอด เปลือกไข่บดช่วยให้ต้นไม้ ไม้ผลต่างๆเติบโตได้ดี ผลผลิตลูกใหญ่ขึ้น เช่น มะพร้าว กะท้อน กล้วย มะนาว มะละกอ ฯ ทำให้ได้บริโภคผัก ผลไม้ ที่ปลอดภัย เพื่อนบ้านหลายคนที่มาถามว่าทำไมต้นไม้ที่บ้านเติบโตดี ก็จะแนะนำต่อว่าทางโรงงานของซีพีเอฟมีเปลือกไข่บดที่นำมาใช้เป็นปุ๋ยได้
“โครงการปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกไข่บด” ของโรงงานแปรรูปไข่บ้านนาของซีพีเอฟ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ซีพีเอฟมีส่วนร่วมดูแลชุมชนรอบสถานประกอบการ ภายใต้กลยุทธ์ 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืน ที่ซีพีเอฟยึดเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และ ดินน้ำป่าคงอยู เพื่อร่วมสร้างสังคมแห่งความเกื้อกูลและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข