เผยแพร่ |
---|
วิถียั่งยืนฉบับนี้ พาไปเยี่ยมเยียน “โรงเรียนบ้านแสนสุข” ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โรงเรียนขนาดเล็กในถิ่นกันดารติดประเทศกัมพูชา มีจำนวนนักเรียน 136 คน เด็กนักเรียน 70 % เป็นบุตรหลานของชาวกัมพูชาที่มาเรียนที่โรงเรียน และอีก 30 % เป็นเด็กชาวไทย โรงเรียนเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 โดยเน้นให้นักเรียนมีทักษะการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมการเรียนรู้ในกิจกรรมที่สอดคล้องกับความเป็นอยู่ของนักเรียนและผู้ปกครองในท้องถิ่น เพื่อให้สามารถนำความรู้ใช้ได้จริงในอนาคต
โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมนอกห้องเรียนที่ช่วยเสริมประสบการณ์ให้แก่นักเรียน ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์
พัฒนาชีวิตชนบท เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆได้บริโภคไข่ไก่ ซึ่งเป็นอาหารโปรตีนคุณภาพดี ซึ่งโรงเรียนบ้านแสนสุขเข้าร่วมโครงการฯ เมื่อปี 2562
“น้องเนตร “หรือ ด.ญ.เนตรนภา โซ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ( ป.4) เด็กนักเรียนชาวกัมพูชา เล่าว่า บ้านของเธออยู่ที่ อ.มาลัย ประเทศกัมพูชา ห่างจากโรงเรียนประมาณ 3 กิโลเมตร เนตรขี่จักรยานคันโปรดมาโรงเรียนทุกวัน ขณะที่น้องชายของเธอซึ่งเรียนอยู่ชั้นอนุบาล และน้องสาวซึ่งเรียนอยู่ชั้นป. 2 โรงเรียนเดียวกัน มากับรถโรงเรียน
น้องเนตร เล่าต่อว่า เธอและเพื่อนๆ ช่วยกิจกรรมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ มีหน้าที่ให้อาหารไก่ในช่วงเช้าของทุกวัน และเก็บไข่ไก่ตอนบ่าย แม่ไก่ที่เลี้ยงไว้ 100 ตัว เก็บไข่ได้วันละ 95 ฟอง จากนั้นก็นำไข่มาแยกขนาดใส่ถาดละ 30 ฟอง ถ้าเป็นไข่ฟองเล็ก ขายถาดละ 80 บาท ฟองใหญ่ ขายถาดละ 90 บาท ผลผลิตไข่ไก่ส่วนหนึ่งนำไปขายให้โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เพื่อทำเป็นอาหารกลางวันให้นักเรียน นักเรียนได้บริโภคอาหารเมนูไข่ ทำให้สุขภาพแข็งแรง
วันไหนมีไข่ไก่เหลือก็จะนำไปขายให้คนงานที่ทำงานในโรงงานซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียน เงินจากการขายไข่ไก่ จะนำเข้าบัญชีกองทุนของโรงเรียนเพื่อเป็นทุนในการดำเนินโครงการต่อไป
“น้องวิไล”หรือ ด.ญ.วิไล เริน อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ป.6 เด็กชาวกัมพูชา เล่าว่า โรงเรียนมีกิจกรรมให้เด็กๆได้เรียนรู้หลายอย่าง เช่น กิจกรรมถอนกล้าดำนา ซึ่งพวกเราได้เรียนรู้ตั้งแต่ขั้นตอนการหว่านกล้า ถอนกล้า ดำนา การเกี่ยวข้าว การเลี้ยงปลา ปลูกผักสวนครัว และกิจกรรมเลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งวิไลและเพื่อนๆ อาสาคุณครูทำหน้าที่ให้อาหารไก่ เก็บไข่ ช่วยนำไข่ไปขาย แม่ของวิไลทำงานอยู่โรงงานเย็บผ้าใกล้โรงเรียน ก็ซื้อไข่ที่เด็กนักเรียนนำไปขายอยู่เป็นประจำ
นอกจากกิจกรรมที่เธอได้เรียนรู้จากการเลี้ยงไก่ไข่แล้ว ยังได้เรียนรู้เรื่องการแปรรูปอาหารจากไข่ อาทิ เมนูไข่พะโล้ บัวลอยไข่หวาน สังขยาฟักทอง เป็นต้น
ด.ช.จิรวัฒน์ จิตรสมัคร หรือน้องอุ้ม อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เด็กนักเรียนชาวไทย เล่าว่า ทำหน้าที่เก็บมูลไก่ในโรงเรือนเพื่อนำมาเป็นปุ๋ยใส่แปลงผักของโรงเรียน ทุก 2 สัปดาห์น้องอุ้มจะเก็บมูลไก่ในโรงเรือนเลี้ยงไก่ จากนั้นนำมูลไก่มาตากแห้งไว้ประมาณ 3 วัน หรือตากไว้ 3 แดด แล้วจึงนำมูลไก่ที่ตากแห้งแล้วมาผสมแกลบเพื่อเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้และแปลงผักของโรงเรียน หากทำปุ๋ยได้ในปริมาณมาก ก็จะช่วยกันนำมาบรรจุใส่กระสอบๆละ 3 กิโลกรัม ขายราคากระสอบละ 50 บาท ช่วยให้มีรายได้เข้ากองทุนฯของโรงเรียนอีกทางหนึ่ง
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแสนสุข “บรรจรงค์ วรเศรษฐสุขศิริ” กล่าวว่า โรงเรียนฯ เน้นการสอนที่นักเรียนสามารถนำไปประกอบอาชีพ โดยจัดชั่วโมงสำหรับสอนอาชีพให้กับนักเรียน ซึ่งกิจกรรมเลี้ยงไก่ไข่ ได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟและมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท สนับสนุนแม่พันธุ์ไก่ 100 ตัว งบประมาณในการสร้างโรงเรือนไก่ไข่ และสนับสนุนอาหารไก่ฟรีเป็นเวลา 1 ปี ผลผลิตไข่ไก่ที่ได้ทางโรงเรียนนำไปจำหน่ายให้โครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน และจำหน่ายให้ชาวบ้านในชุมชนได้บริโภคไข่ไก่ราคาย่อมเยา นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังได้รับความอนุเคราะห์ในการจ้างผู้พิการในชุมชนช่วยดูแลไก่ และเลี้ยงไก่ในโครงการฯ เป็นการช่วยเหลือให้ผู้พิการมีรายได้
“สมคิด วรรณลุกขี” รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินโครงการที่เป็นตัวอย่างของความยั่งยืนในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยึดหลักความพอเพียง บริษัทฯ ร่วมมือกับมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงโปรตีนคุณภาพ คือ ไข่ไก่ และช่วยลดภาวะทุพโภชนาการของนักเรียน โดยซีพีเอฟสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่และสนับสนุนปัจจัยการผลิต ทั้งพันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ ให้แก่โรงเรียนผ่านระบบสมาชิกโครงการฯ รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่สัตวบาลให้ความรู้ คำปรึกษาในการเลี้ยงและการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ถูกต้องตามหลักวิชาการและการสุขาภิบาล
ซีพีเอฟ ตระหนักถึงความสำคัญของการมีภาวะโภชนาการที่ดีของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลและถิ่นทุรกันดาร เดินหน้าส่งมอบ “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ซึ่งปีนี้เข้าสู่ปีที่ 30 และส่งมอบโครงการฯไปแล้ว 824 โรงเรียน ครอบคลุมในทุกภาคทั่วประเทศ ซึ่งนอกจากส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้บริโภคไข่ไก่ แหล่งอาหารโปรตีนคุณภาพ และช่วยลดปัญหาทุพโภชนาการแล้ว ยังเป็นการส่งมอบความรู้ ประสบการณ์ ที่สามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพได้ในอนาคต