ทำไม? อสังหาฯถึงกับซบเซาอย่างบอกไม่ถูก

วงจรซบเซาได้เข้าปกคลุมบรรยายกาศอสังหาริมทรัพย์อย่างสมบูณ์แล้ว

เพราะเรื่องการชะลอตัวของอสังหาฯ เวลานี้ไม่ใช่เรื่องที่พูดคุยกันในแวดวงคนที่ธุรกิจอสังหาฯ และที่เกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้น แต่ได้กลายเป็นเรื่องที่คนทั่วไปก็พูดกัน สื่อทั่วไป นักวิเคราะห์ทั่วไปก็พูดกัน แม้ตัวเลขหรือข้อเท็จจริงจะตรงบ้างไม่ตรงบ้าง

แต่ทุกคนพูดหรือเขียนตรงกันว่า อสังหาฯ ขณะนี้ไม่ดีแล้ว

จากข้อมูลข้อเท็จจริง ได้กลายเป็นความเชื่อของผู้คนจำนวนมากแล้ว

อันนี้จะหนักหนาเกินกว่าความจริงไปอีก เพราะไม่ว่าอสังหาฯ ขาขึ้นหรือขาลง เมื่อถึงจุดหนึ่งความเชื่อคนจะไปมากกว่าจนแซงความจริงไปเลย

อย่างนี้ก็เหนื่อยสิครับ

เพราะผู้ซื้อถ้าไม่มีความจำเป็นมากๆ ก็จะไม่ซื้อ นักลงทุนก็จะถือเงินสดไม่ยอมควักเงินมาลงทุน

บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ส่วนใหญก็จะลดการขึ้นโครงการใหม่ๆ โครงการขนาดใหญ่ หมายความว่า กำลังซื้อซึ่งอ่อนแรงอยู่แล้ว ก็จะหดตัวลงไปอีก การลงทุนที่ระมัดระวังอยู่แล้วก็จะลดการลงทุนลงไปอีก

ตลาดซื้อขายที่ดินเปล่าเพื่อนำไปทำโครงการอสังหาฯ ยืนยันสถานการณ์ได้ว่า การซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดินเงียบมาก

 

กิจกรรมของบริษัทอสังหาฯ เวลานี้ อันดับแรก ระบายขายสินค้าสร้างเสร็จเหลือขายก่อน เปลี่ยนสินค้าในสต๊อกเป็นเงินสดให้เร็ว โปรโมชั่นลดแจกแถมมีทั่วตลาด

อันดับสอง ที่ดินดิบที่ซื้อไว้แล้ว ก็นำมาพิจารณาทำโครงการเป็นลำดับต่อไป

แล้วค่อยมาลำดับที่สาม การซื้อที่ดินใหม่เข้ามา จะซื้อเฉพาะที่มั่นใจว่าได้ราคาดี ทำเลดี ที่สำคัญต้องมั่นใจว่าโปรดักต์ที่จะทำในทำเลที่จะทำมีความต้องการและมีกำลังซื้อเพียงพอ ถ้าไม่แน่ใจก็ให้ชะลอออกไปก่อน

วัฏจักรขึ้นลงของอสังหาฯ เป็นเรื่องธรรมดา 8-10 ปีก็หมุนกันรอบหนึ่ง

แต่การขึ้นลงแต่ละครั้ง แม้จะเป็นขาลงก็มักมีปัจจัยบวกไว้คอยผ่อนหนักผ่อนเบาปัญหา ไม่ให้หนักหนาสาหัสจนเกินไป

แต่เที่ยวนี้นอกจากปัจจัยภายในที่ไม่ดี จนกลายมาเป็นทัศนะความเชื่อของสังคมว่า อสังหาฯ ไม่ดี เป็นแรงลบเข้ามาซ้ำเติมแล้ว

ปัจจัยภายนอกเรื่องการเมืองสังคม เรื่องการเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง ไม่มีสัญญาณบอกทางจิตวิทยาใดๆ เลย

มีแต่เหมือนเดิมไปอีกหลายปี หรือไม่ก็น่าจะแย่กว่าเดิมอีก

ไปจนถึงต่างประเทศ ก็เป็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ จะส่งผลให้การส่งออกย่ำแย่ ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็ง ฯลฯ หน่วยงานทางเศรษฐกิจปรับตัวเลขประมาณการอัตราเติบโตเศรษฐกิจต่ำลงอีก

และก็ยังไม่มีสัญญาณเชิงนโยบายใดๆ จากรัฐบาลซึ่งเป็นรัฐบาลอำนาจเต็มไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ และจะเป็นรัฐบาลต่อไปอีก ที่จะทำให้เกิดความหวังว่า มีกลยุทธ์รับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้

 

ทางออกของภาคธุรกิจอสังหาฯ และประชาชนจึงต้องยึดหลักการ

หายใจเข้าไว้ อดทนเข้าไว้

มีความหวังว่า ปัญหาอุปสรรคที่ขัดขวางการทำมาหากิน ขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของประเทศ ในที่สุดจะถูกขจัดออกไป

มั่นใจว่า ประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิศาสตร์ที่ดี ต่อไปจีนเจริญเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก ประเทศทั้งหลายในอาเซียนก็จะเจริญเติบโต ธุรกิจไทยก็จะเติบโตด้วย