เผยแพร่ |
---|
กรณีบ้านพักข้าราชการตุลาการซึ่งอยู่ติดอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ ปุย กำลังกลายเป็น”กรณีศึกษา”ขึ้นมาอีกกรณี 1
สะท้อนการบริหารจัดการ”แบบทหาร”
เพราะหากติดตามท่าทีอันมาจากบรรดา”ตุลาการ”ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ เจ้าของบ้าน
จะยืนยันหลัก”กฎหมาย”อย่างมั่นแน่ว
ขณะเดียวกัน ในเบื้องต้นทหารจากกองทัพภาคที่ 3 และรวมถึงสำนักผู้บังคับบัญชากองทัพบก ก็ฟังเสียงจาก”ตุลาการ”ด้วยความเคารพ
แต่เมื่อเรื่องไปถึงมือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ออกมาเป็นอีกเรื่อง
เนื้อหาใจกลางคือ “ยุติ”
ถามว่าเหตุใดในที่สุดการตัดสินใจต่อกรณีบ้านพักตุลาการจึงอยู่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
คำตอบอยู่ที่การเป็นเจ้าของ”ที่ดิน”
ความริเริ่มในเรื่องนี้อาจมาจากข้าราชการตุลาการ แต่การอนุมัติเห็นชอบขึ้นอยู่กับ กองทัพภาคที่ 3 สำนักบังคับบั้ญชา กองทัพบก และกระทรวงกลาโหม
เป็นที่”ราชพัสดุ”ก็จริง แต่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพบก
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท จึงต้องมาดู
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กลาโหม จึงต้องมาตัดสินใจ
จึงใช้ความเฉียบขาด”แบบทหาร”
อาจจะทำให้เกิดความหงุดหงิดในบางส่วนบางฝ่าย แต่ก็ได้ใจ “จาวเจียงใหม่”ไปเต็มพิกัด
เป็น”การเมือง”นำ”การทหาร”
หากวัดจากพื้นที่ของสื่อเก่าอย่างหนังสือพิมพ์หรือแม้กระทั่งบนจอโทรทัศน์ อาจปรากฏไม่มากนัก
นี่เป็นเรื่องของ”ออนไลน์”โดยเฉพาะ
เริ่มต้นจากคนในพื้นที่ สื่อสารกันผ่านเวบเพจ ออนไลน์และกลายเป็น “กระแส” อันกว้างขวาง ในพื้นที่อันละเอียดอ่อนยิ่งทางการเมือง
จำเป็นต้องยุติก่อนประกายไฟจะไหม้ลามดอย
เป็นความเฉียบขาดอันมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ