E-DUANG : ยุทธการ ปักธง ทาง”ความคิด” บนหน้าตา “อิเหนา เมาหมัด”

ไม่ว่าฉายา”รัฐเซียงกง” ไม่ว่าฉายา”อิเหนาเมาหมัด”ไม่ว่าฉายา”ชาย น้อยประชารัฐ” ไม่ว่าฉายา”ศรีธนญชัยรอดช่อง” ไม่ว่าฉายา”รัฐอิสระ”

ไม่ว่าฉายา”เทามนัส”

ล้วนดำเนินไปในลักษณาการแห่งการ”ปักธง”ในทาง”ความคิด”ในทาง”การเมือง”

สะท้อน “รากฐาน” สะท้อนสาย”สัมพันธ์”

เป็นทั้งรากฐานในทาง “เศรษฐกิจ” เป็นทั้งรากฐานในทาง”การ เมือง” และเป็นทั้งรากฐานในทาง”วัฒนธรรม”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงได้หงุดหงิด

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จึงไม่ยอมเป็น”ชายน้อย” และ นายวิษ ณุ เครืองาม ย่อมพยายามหนีกห่างไปจาก”ศรีธนญชัย”

ทั้งหมดนี้ยืนยัน”ภาพจริง”อะไรในทาง “การเมือง”

 

มองจาก “เซียงกง”ไปยัง”อิเหนา”ไปยัง”ศรีธนญชัย” ไปยัง”ชายน้อย”เหมือนอยู่คนละยุค

คนละยุคกับคำว่า”รัฐอิสระ” คนละยุคกับคำว่า”เทา”

กระนั้น คำว่า”เซียงกง”ก็สะท้อนยุคสมัยออกมาอย่างเด่นชัด ไม่ต่างอะไรไปกับคำว่า”ชายน้อย”

ไม่ต่างอะไรไปจากคำว่า”อิเหนา” ไม่ต่างอะไรไปจากคำว่า”ศรีธนญชัย”

เหมือนกับเป็นเรื่องอันร่ารื่นรมย์ แต่ก็แฝงความปวดเจ็บ

เพราะมีแต่คนอย่าง”อิเหนา”เท่านั้นที่สมควรตกอยู่ในอาการเมาหมัด เพราะมีแต่คนอย่าง”ศรีธนญชัย”เท่านั้นที่สามารถรอดไปตามช่องได้

จึงได้ปรากฏรัฐมนตรีอันเป็น”เทา-เทา” อันเป็นการระคนปนเคล้าระหว่างขาวกับดำ

เป็นเงาสะท้อนมาจาก”ออสเตรเลีย”

 

หากมองจากประสบการณ์เดิมของรัฐบาลคนดีที่มาพร้อมกับคำมั่นสัญญาหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 หากมองจากการ นำเสนอสโลแกน”ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”

หากมองจากบทสรุปที่ว่ารัฐประหารเดือนกันยายน 2549 เป็นรัฐประหาร”เสียของ”

และจะไม่ให้ต้องเสียของ

ฉายา”รัฐเซียงกง”เมื่อประสานเข้ากับฉายา”อิเหนาเมาหมัด”และฉายา “ศรีธนญชัยรอดช่อง”นับว่าแจ่มชัด

นี่คือการปักธง”ความคิด”ในทาง”สังคม”