เผยแพร่ |
---|
คล้ายกับว่าเมื่อมี “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560” อยู่ในมือ เมื่อมี 250 ส.ว.อยู่ในมือ วิถีแห่งการสืบทอดอำนาจจะ “ฉลุย”
แต่หากดูภาพ ณ สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์
หลายคนเริ่มไม่แน่ใจว่า ที่คิดว่า “ฉลุย” นั้นน่าจะไม่ราบรื่นเหมือนยืนอยู่บนเนินเขาอย่างแน่นอน
เพราะเมื่อมี 250 ส.ว.อยู่ในมือแล้ว
ยังมีความจำเป็นต้องมีอย่างน้อย 251 ส.ส.อยู่ในมืออีกด้วย มิเช่นนั้นเอง แม้จะได้เป็น “นายกรัฐมนตรี” แต่ก็ไม่แน่ว่าจะบริหาร ราชการแผ่นดินได้
เช่นนี้แหละจึงจำเป็นต้องพึ่งบริการ “ซุ้มชลบุรี”
เช่นนี้แหละจึงจำเป็นต้องไปควบขับมอเตอร์ไซค์ตีขนาบกับ นายเนวิน ชิดชอบ
ทั้งยังไม่แน่ใจว่าใครเป็นคน”ขี่” ใครเป็นคน”ขับ”
ถามว่าความจำเป็นต้องได้ 251 ส.ส.มาจากปัจจัยอะไรในทางการเมือง
คำตอบ คือ รัฐธรรมนูญ
เป็นรัฐธรรมนูญอันมั่นใจว่ามาจากข้อกำหนดพื้นฐานจากรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557
เป็นรัฐธรรมนูญจากฝีมือระดับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์
แต่พลันที่ภายในพรรคประชาธิปัตย์มิได้เป็นไปตามความคาดหมายในเมื่อเส้นสายอันส่งไปจาก”กปปส.”ไม่สามารถควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
อย่างน้อย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ไม่ยอมทำตามคำบัญชาอย่างเซื่องๆ
อย่างน้อยที่อยู่ข้างกายของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มี นาย ชวน หลีกภัย ทั้งยังมี นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และรวมถึง นายอง อาจ คล้ามไพบูลย์ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ
จึงจำเป็นต้องเดินสายไปเยือน”ซุ้ม”แต่ละซุ้มทางการเมือง
แม้จะมั่นใจว่าได้แรงจากซุ้มชลบุรี ได้แรงจากซุ้มสุโขทัย ได้แรงจากซุ้มฉะเชิงเทรา และรวมถึงได้แรงจากซุ้มบุรีรัมย์
แต่ภายในการเยือนก็มากด้วยความระทึกใจ
เพราะว่าไม่ว่าซุ้มชลบุรี ไม่ว่าซุ้มสุโขทัย ไม่ว่าซุ้มฉะเชิงเทรา และโดยเฉพาะซุ้มบุรีรัมย์ ล้วนเป็นนักการเมืองระดับคอทั่งสันหลังเหล็ก แตกลายงานทั้งสิ้น
จึงไม่แน่ใจว่าใคร”ขี่”ใคร จึงไม่แน่ใจว่าใคร”คุม”ใคร