E-DUANG : มอง “บุรีรัมย์” นึกถึง “สุราษฎร์ธานี”

เมื่อเห็นภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และครม.เดินทางเยือนบุ รีรัมย์ด้วยอาการอย่างที่กวีจะต้องรจนาว่า

วิกสิต แย้มบาน

มีคนจำนวนไม่น้อยเกิดจินตนาการว่าหากเมื่อใด พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจยก “ครม.สัญจร” ไปยังสุราษฎร์ธานีคงจะคึกคัก แจ่มใสยิ่งกว่านี้

เพราะที่บุรีรัมย์มี นายเนวิน ชิดชอบ เพราะที่สุราษฎร์ธานีมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

แทนที่จะเป็นภาพควบขับ”มอร์เตอร์ไซค์”

เป็นไปได้ว่าหากไม่เป็นภาพร่วมกรีดยางก็อาจเป็นภาพร่วมนั่งกินหอยใหญ่อย่างเอร็ดอร่อย

อีกนานแค่ไหนจึงจะได้เห็น

 

ท่วงทำนองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นท่วงทำนองอย่างที่โบราณสรุปอย่างรวบรัด

ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง

ก็อย่างที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงรจนาเอาไว้ใน “พระร่วง”

ประเพณีไทยแท้แต่โบราณ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ

การต้อนรับในยุคของ “พระร่วง” อาจเป็นแบบหนึ่ง แต่การต้อนรับในยุค นายเนวิน ชิดชอบ โอ่อ่าอลังการอย่างยิ่ง

ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิด “จินตนาการ”

เป็นจินตนาการไปยังภาพการเยือนสุราษฎร์ธานี เป็นจินตนาการไปยังภาพการเยือนชลบุรี

หากแต่ยังนำไปสู่ “การรำลึก”

ถ้อยทีถ้อยโอบกอดระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กะ นาย เนวิน ชิดชอบ เมื่อปี 2551

งดงามในความทรงจำทางการเมือง

 

การโอบกอดระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กะ นายเนวิน ชิดชอบ บังเกิดพร้อมกับบทสรุปอันคมคาย

“มันจบแล้วนาย”

สถานการณ์เมื่อปี 2551 ได้บทสรุปอย่างนั้น สถานการณ์ในปี 2561 คล้ายกับจะได้ยินเสียง “ถูกต้องแล้วนาย” เพียงแต่มิได้เป็น “นาย”คนเดิม

นี่ย่อมเป็น “การเมืองใหม่” จาก นายเนวิน ชิดชอบ