เผยแพร่ |
---|
คล้ายกับการบินมายังสิงคโปร์จะเป็นการมาส่งสัญญาณทางการ เมืองให้กับ “คสช.”
อาจเป็นเช่นนั้น
แต่หากติดตามแต่ละ “ข้อมูล” อันลอยลมจากสิงคโปร์เข้ามายังมหานครกรุงเทพฯกลับมีมากกว่านั้น
ไม่ได้มีแต่เพียง”คสช.”อย่างแน่นอน
ตรงกันข้าม ยังเป็นการสื่อไปยังแต่ละพรรคการเมืองอันตกเป็นเป้าของ”พลังดูด”มากกว่า
ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังชล ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มมัชฌิมา หรือแม้กระทั่งกลุ่มสะสมทรัพย์
เพราะเหล่านี้ล้วนแต่เคยเป็น”กากี่นั้ง คนกันเอง”ทั้งสิ้น
บทบาทอันมาจากสิงคโปร์จึงเท่ากับเป็นการส่งบทเพลง 16 ปีแห่งความหลังมายังเพื่อนมิตรที่เคยกอดคอกัน
กอดคอตั้งแต่เลือกตั้งเดือนมกราคม 2544
กอดคอตั้งแต่เลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2548 กอดคอตั้งแต่ เลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550 และล่าสุดกอดคอตั้งแต่เลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554
อาจผิดพ้องหมองหมางกันและอาจต้องแยกทางกันไปตามแต่ละห้วงของสถานการณ์
แต่ที่ยังฝังจำแม่นยำ น่าจะเป็น”รอยรัก”
ก็รอยรักจากอดีตมิใช่หรือที่ในที่สุด นายสมัคร สุนทรเวช จึงได้เป็นนายกรัฐมนตรี และแม้จะถูกกดดันอย่างแรงก็ยังสามารถระดมพลังหนุน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต่อไป
ระหว่าง 2 รายทางอาจมี”รอยแค้น”เกิดขึ้นแต่การเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม 2554 ก็เป็นหมุดหมายอันแข็งแกร่งมิใช่หรือ
นั่นแหละตัวเลข 250 จึงได้รับการยืนยันอีกครั้ง
ถ้ามองจากด้านของ”คสช.”เสียงซึ่งดังมาจากสิงคโปร์ดำเนินไปในเชิงยั่วเย้ากระเซ้าแหย่
เป็นไปในแบบ”กระดูก”ชิ้นเบ้อเริ่มเทิ่ม”ขวางคอ”
แต่ถ้ามองจากพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนา พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคพลังชล กลุ่มมัชฌิมา นี่คือการยื่นมือแห่งไมตรีมาหา
ดำเนินไปตามกลยุทธ์”ดูด”กลับในทางการเมือง
สะท้อนประสบการณ์การดูดทั้งพรรคมิใช่รายคน