เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ล้วนเป็นคนน่าเชื่อถือ
คนแรกเป็นนายกรัฐมนตรี คนหลังเป็นรองนายกรัฐมนตรี
แต่ทำไมเมื่อออกมาให้”เหตุผล”จากสถานการณ์ “การดูด”ซึ่งเกิดขึ้นอย่างคึกคักในเดือนเมษายน ผู้คนจึงมองด้วยสายตาแปลกๆ
คล้ายกับจะไม่เชื่อถือใน “เหตุผล”ที่ยกมาประกอบ
คำตอบ 1 มาจากสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น นั่นก็คือ มีพฤติกรรม”การดูด”อย่างเห็นๆกันอยู่
ใช้”ทำเนียบรัฐบาล” เป็น “กองบัญชาการ”
คำตอบ 1 มาจากสภาพของ “บริบท”ทางด้านการข่าวและโดยเฉพาะ “ตัวบุคคล”ที่ตกเป็นข่าว
ต้องยอมรับว่า เมื่อมีการเอ่ยนามแต่ละนามซึ่งอยู่ในสถานะอันเป็นเป้าหมายของ “การดูด”
ฟังแล้วล้วนชวนให้ “สยอง”
ไม่ว่าจะเป็นคนจาก “ซุ้มชลบุรี” ไม่ว่าจะเป็นคนจาก”ซุ้มสุโข ทัย” ไม่ว่าจะเป็นคนจาก “ซุ้มสระบุรี” ไม่ว่าจะเป็นคนจาก”ซุ้มนคร ราชสีมา”หรือ”ฉะเชิงเทรา”
ยิ่งเป็นคนจาก “ซุ้มบุรีรัมย์” ยิ่งชวนให้สั่นสะท้านในหัวใจ
ถามว่าบุคคลเหล่านี้เป็น “คนดี” หรือไม่ ก็ต้องตอบว่าเป็น “คนดี” อย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่าเป็นคนดี “ของใคร” หรือไม่ เท่านั้นเอง
ความเป็น “บิกเนม” ในทางการเมืองของแต่ละท่านนั่นแหละที่ก่อให้เกิดความสงสัยใน “เหตุผล” และความชอบธรรมภายในกระบวนการของ “การดูด”
เพราะกลิ่นที่ตามมาอย่างฉับพลันทันใด ก็คือกลิ่นเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นกับ”พรรคสามัคคีธรรม”ในเหตุการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
ระหว่าง “พรรคมาร” กับ “พรรคเทพ”
จากเดือนพฤษภาคม 2535 มายังเดือนพฤษภาคม 2561 เป็นเวลา 26 ปี แล้วประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอย
เป็นการ “ซ้ำรอย” ในเรื่อง “พลังดูด”
กับตัวละครใหม่อันมาจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 แต่ภายในกระแส”การดูด”กลับเป็นตัวละคร”เก่า”
ตรงนี้แหละคือรากที่มาของ”ความสยอง”