E-DUANG : ปัจจัย สร้างมั่นใจ ใน “พลังดูด”

การออกมาการันตีความชอบธรรมในการใช้”พลังดูด”โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านรายการ”ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนา อย่างยั่งยืน”

ถือได้ว่าเป็น “ความกล้าหาญ”

บทบาทอย่างนี้แม้ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ จะเคยพันพัวกับการสร้างปรากฏการณ์แห่ง “โรคร้อยเอ็ด” แต่ก็ไม่เคยหาญกล้าออกมายอมรับ

หรือกระทั่งในยุค พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จะมีนวัตกรรมทางการเมืองผ่านโครงสร้างแห่ง “สหพรรค” ก็ถือว่าเป็นคนอื่นจัดให้ ไม่ใช่การลงมือทำเองโดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงกับยกระดับรวบยอดให้เห็นว่าเป็น “ครรลอง”ประชาธิปไตยแบบ”ไทย”

 

อะไรทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความมั่นใจถึงกับออกมารับรองและสร้างความชอบธรรมให้กับ “พลังดูด”

1 อาจอยู่ในสภาพจำเป็น จำยอม

บรรดา “กุนซือ” ทางการเมือง ไม่ว่าระดับ”ศิษย์คอตเลอร์” ไม่ว่าระดับ “ซุ้ม” อันมากด้วยความจัดเจน ยืนยันว่านี่คือ “วิถี” ที่จะต้องก้าวเดิน

หากหวังจะอยู่ใน “อำนาจ” ไม่มีหนทางอื่น มีแต่หนทางนี้เท่านั้นที่สำคัญ

1 มั่นใจใน”อำนาจ”และความนิยมที่มีอยู่ในมือ

กระแสเสียงป่าวร้องไม่ว่าแนวทาง”ประชารัฐ” ไม่ว่าแนวทาง

“ไทยนิยม” ล้วนประสบความสำเร็จ 75,000 กว่าหมู่บ้านล้วนสยบยอมอย่างสิ้นเชิง

หนทางของ “พรรคคสช.” มีการขานรับและเปี่ยมด้วย”ความยั่งยืน”อย่างแน่นอน

ไม่ว่า “ลุงตู่”จะพูดอะไรออกมา ล้วนถูกต้อง เป็นธรรม

 

กระบวนการอย่างเดียวกันนี้ จอมพล ป.พิบูลสงคราม อาจล้มเหลว จอมพล ถ.กิตติขจร อาจล้มเหลว

พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ อาจล้มเหลว

พล.อ.สุจินดา คราประยูร อาจล้มเหลวและต้องประสบกับสถานการณ์เลวร้ายในเดือนพฤษภาคม 2535

แต่เมื่อมาถึงยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล้วนราบรื่น

จึงขยับจาก”ซุ้มชลบุรี” รุกเข้ามาอีกยัง”ซุมเตาปูน”และจะตามมาด้วย “ซุ้มเรียงหิน”