E-DUANG : คิดใหม่ ทำใหม่ กับ “พรรคคสช.”

หากติดตามแนวคิดใหม่ในเรื่องการตลาดเชื่อได้เลยว่าคนในแวดวงย่อมเคยผ่านวลีที่ว่า “คิดนอกกรอบ”ได้

และวลีนี้ก็ได้รับการต่อยอดไปยัง “คิดใหม่ ทำใหม่”

สโลแกนนี้มีการเอ่ยถึงและป่าวร้องอย่างไม่ขาดหายจากพรรคไทยรักไทยเมื่อเข้าสู่”โหมด”ของการเลือกตั้งในเดือนมกราคม 2544

ส่งผลให้ได้ชัยชนะอย่างท่วมท้น

ที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ สามารถกำชัยเหนือพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งก่อรูปขึ้นมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2489

ทั้งๆที่พรรคไทยรักไทยเพิ่งตั้งเพียง 2 ปีเศษเท่านั้น

คำว่า “คิดใหม่ ทำใหม่” จึงกลายเป็นยี่ห้อของพรรคไทยรักไทยต่อเนื่องมายังพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย

 

หลายคนที่เคยร่วมอยู่กับพรรคไทยรักไทยและได้รับตำแหน่งทางการเมืองกับพรรคไทยรักไทย

ยังเอาผลงานและความสำเร็จของพรรคไทยรักไทยไปต่อยอด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ระบุ “คิดนอกกรอบ”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่กลายเป็นคำขวัญตรึงอยู่ในสังคมว่า

“คิดใหม่ ทำใหม่”

ไม่ว่าจะในห้วงรัฐบาลหลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549

ไม่ว่าจะในห้วงรัฐบาลหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 โดยเฉพาะในบรรยากาศแห่งการจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อเป็นดั่งกระดานหกให้กับการสืบทอดอำนาจของคสช.

เรียกกันอย่างสั้นกระชับว่าเป็น “พรรคคสช.”

หลายคนตั้งความหวังว่าบรรดาคนที่เคยร่วมกับพรรคไทยรักไทยจะยังยืนหยัดในแนวทาง”คิดนอกกรอบ” หรือ “คิดใหม่ทำใหม่”ในเรื่องการจัดตั้งพรรค

แต่พอเปิดหีบห่อออกมากลับกลายเป็น”คิดเก่า ทำเก่า”

 

ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเรียกตัว นายสกลธี ภัททิยกุล เข้าทำเนียบฯ พร้อมกับตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.

ไม่ว่าจะเป็นกรณี 2 พี่น้องตระกูล”คุณปลื้ม”ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี

เพียงเคลื่อนไหวคนก็ร้องยี้ ครางฮือ

กลินเสรีมนังคศิลา กลิ่นชาติสังคม กลิ่นสหประชาไทยและกลิ่นสามัคคีเหม็นตระหลบ