ขณะที่ด้านหนึ่ง คำทำนายจากพรรคประชาธิปัตย์ จากพรรคชาติ ไทยพัฒนา จากพรรคเพื่อไทย ในเรื่องโรดแมป”เลือกตั้ง”

มากด้วยความแม่นยำ ถูกต้อง

ด้านหนึ่ง คำยืนยันในเรื่องโรดแมป”เลือกตั้ง”อันมาจากคสช.อันมาจากรัฐบาล

ก็มากด้วยความคลาดเคลื่อน เลื่อนแล้วเลื่อนอีก

ไม่ว่าจะเป็นคำพูด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็นคำพูด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เริ่มคลาย “ความน่าเชือ่ถือ” ลง

ยิ่งมีการส่งร่างพรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.และร่างพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ตีความ

ความมั่นใจต่อโรดแมป”เลือกตั้ง”ก็ยิ่งคลอนแคลน

 

แท้จริงแล้ว ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย มีความเชื่อมั่นโดยพื้นฐาน

เริ่มตั้งแต่”ปฏิญญาโตเกียว”มาแล้ว

แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะประกาศต่อหน้า นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นก็ตาม

แล้วที่สุดบทสรุปจาก นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ ก็บังเกิด

จากนั้น ไม่ว่า”ปฏิญญานิวยอร์ค”ที่สหประชาชาติ ไม่ว่าจะ

“ปฏิญญาทำเนียบขาว”ต่อหน้า นายโดนัลด์ ทรัมพ์ ก็แทบไม่มีความหมาย

ทั้งๆที่คนประกาศเป็นถึง “นายกรัฐมนตรี” และเป็น”หัวหน้า คสช.”

พื้นฐานยังถือว่าเป็น “ชายชาติทหาร”

ทั้งยังเป็นชายชาติทหารอันผ่านมาจากโรงเรียนที่เคร่งครัดในเรื่อง Honor System

รับรู้กันในนาม”ระบบเกียรติศักดิ์”อันสูงส่ง

 

เป็นอันแน่ชัดแล้วว่าที่เลื่อนจากเดือนพฤศจิกายน 2561 ไปยังเดือนกุมภาพันธ์ 2562

ก็มีแนวโน้มว่าต้อง”เลื่อน”ไปอีก

ความคิดสำคัญ 1 ที่เริ่มพร่างพรายในบรรดาเกจิทางการเมืองทั้งหลายก็คือ ความเป็นไปได้ที่อาจไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในทางเป็นจริง

เพราะ”เลื่อน”แบบนี้บางทีก็อาจไม่มี”เลือกตั้ง”