E-DUANG : ปุจฉา ถึง ปรองดอง สมานฉันท์

ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้โครงการ “ปรองดอง” ที่เคยครึกโครมเป็นอย่างมากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 จึงเงียบหาย

เงียบหายอย่างชนิด “มิดอิมซิม”

ทั้งๆที่ได้มือ “การตลาด” ระดับ ดร.สุวิทย์ เมษิณทรีย์ มาตีฆ้องร้องป่าว

ทั้งๆที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นคนขับเคลื่อน

ทังๆที่รากฐานการทำงาน คือ โครงสร้างอันแข็งแกร่ง ใหญ่โต ของกระทรวงกลาโหม

ทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ และตำรวจ

แล้วเหตุใด”การเปิดตัว”โครงการในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ จึงแทบไม่มีความอะไรเลยในทางการปฏิวัติที่เป็นจริง

 

หากรู้สึกกันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อาจรู้สึกเซ็งและบังเกิดความเหนื่อยหน่ายเพราะบรรยากาศไม่เป็นใจ

ไม่ว่า “นาฬิกา” หรู ไม่ว่า “เสือดำ” ทุ่งใหญ่นเรศวร

คำถามก็ยังเสนอไปยัง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ซึ่งเป็นแม่งานในการสรุปและจัดทำ “สัญญาประชาคม”

แม้กระทั่ง พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ ก็เงียบกริบ

ไม่มีใครรู้ว่า “สัญญาประชาคม” แห่งการปรองดองสมานฉันท์ ไปแอบซุก ณ หลืบใดของคสช.และของรัฐบาล

เพราะไม่เคยมีการพูดถึงอีกเลย

ทั้งๆที่เมื่อเปิดตัวใน”วันวาเลนไทน์” ก็มาดหมายว่าจะปิดโปรเจ็คใน”วันสงกรานต์”

จาก “14 กุมภาพันธ์” ยัน “13 เมษายน” ของปี 2560

เมื่อผ่าน 14 กุมภาพันธ์ 2561 มาแล้วก็หวังกันว่าจะได้ยินและได้เห็นในวันที่ 13 เมษายน

แต่มองหาก็มองหาย

 

บทสรุปบางส่วนอาจเนื่องจากปัญหาตัวบุคคลโดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกท้อแท้ในห้วงหลังของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

แต่ปัจจัยสำคัญยังอยู่ที่การไม่ยอมรับ “ความจริง”

นั่นก็คือ ความเป็นจริงที่ “คสช.”คือ ส่วนหนึ่งของปัญหา คือส่วนหนึ่งภายในความขัดแย้ง ไม่ได้ดำรงอยู่ในสถานะอย่างเป็นคนกลางหรือกรรมการ

ความเป็นจริงตรงนี้แหละคือปัญหาของ “ปรองดอง”