เนติบริกรที่เข้าไปแสดงบทบาทผ่านการยกร่าง”รัฐธรรมนูญ”มักจะมองเหมือนกับเป็น “เครื่องมือ” อย่างแน่นอน ตายตัว

ต้องการให้”รับใช้”อย่างไรก็สอดใส่เข้าไปอย่างนั้น

เหมือนกับที่พยายามทำให้ “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560” เป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจ

หมายมาดและคาดหวังไม่น้อยกว่า 20 ปี

แต่พลันที่รัฐธรรมนูญประกาศและบังคับใช้เมื่อเดือนเมษายน 2560 รัฐธรรมนูญก็ดำรงอยู่อย่างมีชีวิต

ในทางความคิด ในทางจิตวิญญาณ

ภายในความเป็นรัฐธรรมนูญจึงมิได้มีแต่”ยุทธศาสตร์”อันเป็นของคสช.อย่างเดียว ตรงกันข้าม ยังมี”ยุทธศาสตร์”อื่นด้วย

นั่นก็คือ ตัวตนและความหมายของ “รัฐธรรมนูญ”

 

ตัวตนแห่ง”รัฐธรรมนูญ”กำลังแสดงบทบาทและความหมายของมันออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ

ผู้คนเริ่มสัมผัสได้มากยิ่งขึ้น

อย่างเช่นเมื่อมีการบิดเบือนเพื่อมิให้พรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองได้ปฏิบัติตามความเป็นจริง

แม้จะใช้กลไกแห่ง “มาตรา 44”

แม้จะอาศัยคำสั่งหัวหน้าคสช.ไปแก้ไขพรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง แต่ความมีชีวิต จิตวิญญาณแห่ง”รัฐธรรมนูญ”นั่นแหละ จะแสดงบทบาทในการประจาน

ประจานและสำแดงตัวตนให้เห็นว่ามันอยู่ในสถานะเหนือกว่าคำสั่งหัวหน้าคสช.

ไม่ว่าที่เคยออกเมื่อปี 2558 ไม่ว่าที่ออกมาในปี 2560

เห็นได้จากผลสะเทือนของ”รัฐธรรมนูญ”อันมีต่อกลุ่ม Start Up People

อันเท่ากับค่อยๆลบบทบาทของ”มาตรา 44″โดยอัตโนมัติ

 

ไม่ว่าจะมีความพยายามยื้อ ถ่วงและหน่วง วันเวลาของการเลือกตั้งออกไปอย่างไร

แต่ถึงอย่างไรก็หนี”การเลือกตั้ง”ไปไม่พ้น

ไม่ว่าจะมีความพยายามในการอาศัยกลไกของรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การสืบทอดอำนาจอย่างแยบยลอย่างไร แต่ความยาก ลำบากก็เสนอตัวเข้ามาเรื่องแล้วเรื่องเล่า

ความมีชีวิตของ”รัฐธรรมนูญ”นั่นแหละที่ออกมาต้านยัน

นี่คือ”ยุทธศาสตร์”ที่ดำรงอยู่โดยธรรมชาติของ”รัฐธรรมนูญ”