ประเด็นอันละเอียดอ่อนที่สุดต่อกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ตรงไหน

ทำไมการปรากฏตัวจึงกลายเป็น “ปัญหา”

เป็นปัญหากระทั่งบรรดา “มือปราบ” ทั้งหลายต่างงัดทุกกลยุทธ์ออกมาเพื่อหวังจะสยบ

แม้กระทั่งการควานหา “พิกัด”

กระนั้น ยิ่งแต่ละภาคส่วนไม่ว่ากระทรวงการต่างประเทศ ไม่ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทุก”กลยุทธ์”ที่งัดขึ้นจะดำเนินไปในลักษณะอันเป็น”บุมเมอแรง”

เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2560

กระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ก็ยังไม่มี “คำตอบ”

 

หากมองจากกระทรวงการต่างประเทศก็คือ ไม่ได้คำตอบจากประ เทศที่มีความสัมพันธ์กับประเทศไทย

อย่าว่าแต่ “ร่องรอย” ตำแหน่ง “ที่อยู่” เลย

แม้กระทั่งความหวังที่จะให้มีการส่งตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะ “ผู้ร้ายข้ามแดน” ก็ริบหรี่

หากมองจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

การที่ “อินเตอร์โพล” หรือ “ตำรวจสากล” ไม่ยอมขึ้นบัญชี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในแบบ “ประกาศจับ” ก็ขัดแย้งอย่างยิ่งกับ ท่าทีขึงขังในเบื้องต้น

ปฏิกิริยาโต้กลับในแบบ “บุมเมอแรง” จึ่งเท่ากับฟ้องให้เห็นถึงบรรทัดฐานในกระบวนการยุติธรรม

เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องในทาง “การเมือง”

 

การดำรงอยู่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในทางสากลจึงดำเนินไปในกระสวนอย่างเดียวกับการดำรงอยู่ของ นายทักษิณ ชินวัตร ในทางสากล

ทั้งจะมากด้วยความอ่อนไหวยิ่งกว่าด้วยซ้ำ

มิใช่เพราะว่าเธอเป็น “สตรี” หากแต่เมื่อนำเอาความพยายามที่จะจัดการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังรัฐประหารเดือน พฤษภาคม 2557 จะยิ่งมองเห็นลักษณะ”การเมือง”เด่นชัด

สถานการณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะร้อนแรงมากยิ่งขึ้นหากอยู่ในกระแสแห่ง”การเลือกตั้ง”

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะยิ่งเป็น”ตัวแปร”อันทรงความหมาย

มีผลต่อคะแนนเสียงและความนิยมเป็นอย่างสูง