E-DUANG : “นาฬิกา” หรู เรือนที่ 26

ถามว่าเป้าหมายในการดึง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ จาก กระทรวงศึกษาธิการ เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันอังคารที่ 14

กุมภาพันธ์ คืออะไร

เพื่อต้องการทำความเข้าใจระหว่าง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคนกลาง

ในที่สุดก็ได้คำว่า “ขอโทษ”จากปากของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์

พร้อมกับการพยักหน้าจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

จากนั้น นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ก็ออกมาแถลงยอมรับในการเสียมารยาทพร้อมกับคำ “ขอโทษ”

โดยหวังว่าเรื่องจะจบ

 

ในด้านของ 1 คสช. 1 รัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มั่นใจอย่างยิ่งว่า เรื่องจะจบ

นั่นคือ จบภายใน”วาเลนไทน์”

แต่ถามว่าเรื่องจบตามความต้องการหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ซึ่งประสบด้วยตนเองที่ห้องประชุมจันทร์เกษม อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ

สามารถตอบได้เป็นอย่างดีว่า เรื่องยังไม่จบ

อย่างน้อยคำชี้แจงอันมาจาก BBC ก็ยืนยันได้อย่างเป็นรูปธรรมว่าชะนักยังคาอยู่

อย่างน้อยก็กับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์

เพราะว่าเรื่องของ “นาฬิกา”หรู เรื่องของ”จริยธรรม”จะตามไปกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ อย่างไม่มีวันจบสิ้น

“ธีระเกียรติ” กับ”ประวิตร” จะกลายเป็น”คู่แฝด”ใหม่

เห็นหน้า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ก็นึกถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เห็นหน้า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็นึกถึง หน้า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์

ประหนึ่งเป็น”รักยม”แห่ง”นาฬิกา”หรู

 

ในความเป็นจริง นับแต่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ แสดงความเห็นในเรื่อง “นาฬิกา”

หากลาออกตาม”วาจา” เขาคือ “ฮีโร่”แต่เมื่อ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ เอ่ยคำ”ขอโทษ” แทนการลาออก เขาก็มีสถานะเป็นเหมือนนายฬิกาเรือนที่ 26

ภายในแขนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ