เหมือนกับข้อกล่าวหาที่ว่า “อเมริกา”อยู่เบื้องหลังชัยชนะของพรรคก้าวไกล อันออกจากปากของ”นักเคลื่อนไหว”แห่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะเป็น”พื้นที่”ใหม่

เป็นการโยงสายยาวไปยังบทบาทของดารารุ่นใหญ่อย่าง จารุณี สุขสวัสดิ์ แต่เมื่อ”ชำแหละ”ไปยัง”รากฐาน”ในทาง”ความคิด”

ก็จะเห็นว่าการกล่าวหาในลักษณะนี้ล้วนเคยเป็น”อาวุธ”ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในยุค”สงครามเย็น” เพียงแต่เปลี่ยนจาก”คอมมิวนิสต์”มาเป็น”อเมริกา”

อย่าได้แปลกใจหากจะเห็นความพยายามในการขยายภาพ การ์ตูนของพรรคก้าวไกลในห้วงแห่งการเสนอตัว”กลุ่มแรงงาน”ที่อยู่ใน”บัญชีรายชื่อ”

เป็นการขยายภาพ”ค้อนเคียว” เหมือนกับโปสเตอร์ในยุคหลังสงครามอันมาพร้อมกับสโลแกนที่ว่า “คอมมิวนิสต์มา ศาสนาหมด”

ทั้งหมดนี้ยืนยันว่า การต่อสู้ในทาง”การเมือง” ณ วันนี้ มีรากฐานมาจาก”ความคิด”แบบใด

คำถามอยู่ที่ว่า”ความคิด”ของฝ่ายใดอยู่ในลักษณะ”นำ”

 

หากผูกติดกับเครือข่ายและโยงใยของแกนนำ”พันธมิตรประชา ชน เพื่อประชาธิปไตย”จากบทบาทที่เคลื่อนไหวก่อนรัฐประหาร เมื่อเดือนกันยายน 2549

ก็เห็นอย่างเด่นชัดว่า “เป้าหมาย”ไม่แตกต่างไปจากการเคลื่อนไหวของ”กปปส.”ก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557

ก่อนเดือนกันยายน 2549 เป้าในการบ่อนทำลายเป็นพรรค ไทยรักไทย เป็น นายทักษิณ ชินวัตร ก่อนเดือนพฤษภาคม 2557 เป้าในการบ่อนทำลายคือพรรคเพื่อไทย เป็น นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

แต่เมื่อมาถึงเดือนพฤษภาคม 2566 เป้าเป็นพรรคก้าวไกล เป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และโยงสายยาวไปยังพรรคอนาคต ใหม่ ไปยัง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

จากก่อนรัฐประหาร 2549 มายังหลังเลือกตั้ง 2566 สถาน การณ์แปรเปลี่ยนเป็นอย่างมาก

 

ก่อนรัฐประหาร 2549 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนไหวอย่างฮึกห้าวเหิมหาญ เพราะยังครอง”อำนาจนำ”ทั้งในทางความคิดและในทางการเมือง ก่อปรากฏการณ์”รุก”อย่างต่อเนื่อง จนได้”ชัยชนะ”

แต่หลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ก็ได้เกิดพลังใหม่อย่างพรรคก้าวไกล ทั้งยังเป็นพลังที่ประสานเข้ากับพรรคเพื่อไทยและกำชัยอย่างเด่นชัดผ่าน 24 กว่าล้านคะแนนเสียง

เท่ากับยืนยันว่าเกิดการแปรเปลี่ยนแห่ง”อำนาจนำ”ในทางความคิดอันส่งผลสะเทือนในทางการเมือง